รู้ยัง "ก่อสร้างผิดแบบ" มีโทษทางอาญาและต้องรื้อ
บทบัญญัติของ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารได้กำหนดเกี่ยวกับการก่อสร้างไว้ว่า...การก่อสร้าง ดัดแปลง ฯ ผิดไปจากแผนผัง หรือวางตำแหน่งผิดจากที่กำหนดไว้ หรือผิดจากแบบแปลนที่ยื่นขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น มีความผิดตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 65... มีโทษทางอาญาถึงจำคุกหรือปรับ
พูดง่ายๆ ใครก่อสร้างต่อเติมอาคารให้ผิดไปจากแผนผังหรือแบบแปลนที่ได้รับอนุญาตต้องถูกสั่งให้รื้อถอน มีโทษจำคุกและปรับและยังจะต้องถูกปรับเป็นรายวันจนกว่าจะรื้อถอนเสร็จอีกด้วย บางคดีถูกปรับอย่างเดียวเป็นล้านบาทเลยนะ
กฎหมายนี้ยังบัญญัติไว้ว่า คนที่เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินหรือาคารที่อยู่ใกล้เคียงเป็นผู้เสียหายนอกเหนือจากพนักงานท้องถิ่น ดังนั้นหากเพื่อนบ้านทำผิด โดยก่อสร้างผิดจากแผนผังหรือแบบแปลน พนักงานท้องถิ่นเป็นผู้มีหน้าที่แจ้งความดำเนินคดี และหากกระทบกระเทือนต่อความเป็นอยู่หรือการใช้สอยที่ดินนั้นด้วย ผู้ได้รับผลกระทบย่อมเป็นผู้เสียหายอีกฝ่ายหนึ่งด้วยเช่นกัน สามารถร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานตำรวจเพื่อตั้งข้อกล่าวหา
ใครคิดจะก่อสร้างให้ผิดจากแผนผังหรือแบบแปลนหรือข้อกำหนดที่อนุญาตต้องระวังไว้นะครับ เพราะอาจโดนบ้านข้างเคียงแจ้งความร้องทุกข์เอานะ
ตัวอย่างคำพิพากษา
"คำพิพากษาฎีกาที่ 1698/2536 ฯลฯ จำเลยได้รับอนุญาตก่อสร้างอาคาร ซึ่งจะต้องเว้นที่ว่างด้านหลังอาคารโดยปราศจากสิ่งปกคลุม 2.05-2.85 เมตร จำเลยก็ต้องปฏิบัติตามที่กำหนดไว้ แต่จำเลยทำการก่อสร้างอาคารโดยเว้นที่ว่างหลังอาคารเพียง 1.50 ถึง 2 เมตร และก่อสร้างด้านหลังอาคารออกไปปกคลุมตั้งแต่ชั้นสองขึ้นไปตลอดแนวอาคาร จำเลยทั้งสองจึงมีความผิดฐานก่อสร้างอาคารผิดแบบแปลนที่ได้รับอนุญาต ฯ"
"คำพิพากษาฎีกาที่ 3015/2539 จำเลยกระทำการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ที่แก้ไขแล้ว มาตรา 31 นอกจากจะต้องลงโทษตามมาตรา 65 วรรคหนึ่ง จำคุกหรือปรับหรือทั้งจำทั้งปรับแล้ว ยังต้องปรับรายวันตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนตาม มาตรา 65 วรรคสองอีกด้วย"
"คำพิพากษาฎีกาที่ 6366/2541 พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 มีทั้งบทบัญญัติที่เป็นส่วนแพ่งและส่วนอาญา การกระทำความผิดของจำเลยแยกได้เป็นสองส่วน คือความรับผิดในทางแพ่ง คือการรื้อถอนอาคารพิพาทซึ่งก่อสร้างฝ่าฝืนมาตรา 21 ซึ่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจสั่งให้รื้อถอนหรือร้องขอต่อศาลให้บังคับให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารรื้อถอนอาคารที่ก่อสร้างโดยฝ่าฝืนต่อ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ มาตรา 42 ฯลฯ แม้จำเลยจะได้โอนกรรมสิทธิ์อาคารพิพาทไปให้บุคคลภายนอกก็ตาม ก็ไม่ทำให้ความรับผิดในทางอาญาของจำเลยเปลี่ยนแปลงไป จำเลยยังคงต้องผูกพันตามคำพิพากษาชำระค่าปรับเป็นรายวันไปจนกว่าอาคารพิพาทจะได้มีการรื้อถอนเพราะหากยอมให้จำเลยไม่ต้องรับผิดเมื่อโอนอาคารพิพาทให้แก่บุคคลภายนอกคำพิพากษาก็จะไร้ผลบังคับ"