พ่อบอกให้เอาอาหารที่เหลือ “ห่อใส่ถุงกลับบ้าน” ครอบครัวของแฟนสาวจึงหัวเราะเยาะท่าน แต่ไม่กี่วินาทีถัดมา พวกเขาถึงกับหน้าซีด
วันนี้เรามีบทความดีดี ที่แฝงข้อคิดดีดี มาฝากเพื่อนๆ ทุกคน จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรนั้น ไปติดตามพร้อมกันเลยดีกว่า…
แม่เสียไปตั้งแต่จางซียังเล็กๆ พ่อจึงทำงานหนักเลี้ยงดูเขามาจนโตเพียงลำพัง จางซีเห็นดังนั้นก็คิดไว้ในใจมาตลอดว่าเขาจะต้องกตัญญูต่อพ่อให้มาก พ่อของเขาเป็นคนประหยัด เพราะรู้ว่าการใช้ชีวิตไม่ง่าย ทุกครั้งที่ไปกินอาหารข้างนอกแล้วกินไม่หมดจะต้องห่อกลับบ้านเป็นประจำ
แถมยังสอนลูกชายว่า : ลูกเอ๊ยจำไว้นะว่าอย่ากินทิ้งกินขว้าง ไม่อย่างนั้นวันนึงลูกจะโดนทำโทษให้ไม่มีอะไรกินเลย จางซีเองก็จำไว้จนขึ้นใจตั้งแต่เด็กๆ
ผ่านไปแป๊ปเดียวจางซีก็อายุ 27 แล้ว เขาเรียนจบมหาวิทยาลัยและกำลังคบหากับแฟนสาวสวย อาจจะเพราะตัวจางซีเองก็ได้รับอิทธิพลจากผู้เป็นพ่อ เขาเป็นคนแต่งตัวธรรมดา บนร่างกายไม่มีของแบรนด์เนมใดๆ ดูเหมือนคนบ้านนอกธรรมดาๆ คนนึง
ทุกครั้งเวลามีคนพูดเรื่องนี้เขาก็จะยิ้มๆ ให้ ไม่เอามาใส่ใจ พริบตาเดียวจางซีกับแฟนสาวก็คบกันมาได้ 4 ปีแล้ว ทั้งสองคิดว่าถึงเวลาที่ควรคุยเรื่องแต่งงานเสียที แต่ดูเหมือนว่าครอบครัวของผู้หญิงจะดูถูกจางซี คิดว่าเขาเป็นคนบ้านนอกที่ไม่มีอะไรคู่ควรกับลูกสาวตน
ปกติเวลาเจอหน้ากัน แม่ของแฟนก็แทบไม่เห็นเขาในสายตาแต่ครั้งนี้เป็นครอบครัวของแฟนจางซีเองที่บอกว่าอยากเจอพ่อของเขาเอง ทำให้จางซีดีใจมาก
เขารีบไปบอกพ่อ : “พ่อครับ บ่ายนี้พ่อว่างมั้ย แม่ของแฟนผมอยากเจอพ่อ เพื่อคุยเรื่องแต่งงานของเรา นัดเจอกันที่โรงแรม Meikailong”
พ่อได้ยินก็ตอบว่า : “แค่คุยกันเองไม่ใช่หรอ ทำไมต้องนัดเจอในโรงแรมดีแบบนั้น เปลืองเงินเปล่าๆ”
เนื่องจากโรงแรมอยู่ใกล้บ้านของแฟนสาวมากกว่า จางซีกับพ่อจึงไปถึงทีหลัง พอเข้าไปในห้องก็เห็นว่าห้องใหญ่เกินไป เห็นครอบครัวแฟนสาวแต่งตัวมาอย่างดี ดูก็รู้ว่าเป็นคนมีเงิน แต่พอเห็นพ่อของจางซีใส่เสื้อแจ๊กเก็ตสำหรับออกกำลังกายคลุมมาง่ายๆ ดูก็รู้ว่าไม่มียี่ห้อ
พอบ้านแฟนจางซีเห็นก็มองด้วยสายตาดูถูก ทำให้จางซีรู้สึกกระอักกระอ่วน หน้าก็เลยแดงขึ้นมา พ่อของเขานั่งยังไม่ทันจะนั่งดี
แม่ของแฟนก็พูดว่า : จะแต่งงานกันก็ได้ แต่ต้องซื้อบ้านขนาด 200 ตารางเมตรในเมืองหนึ่งหลัง และสินสอด 5 แสน
โดยไม่ต้องคิด พ่อของจางซีก็ตอบตกลง ทำให้ครอบครัวของแฟนสาวเขาประหลาดใจมากคิดว่าพ่อของจางซีโม้
จากนั้นพ่อของเขาก็พูดต่อว่า : “จางซีเสียแม่ไปตั้งแต่ยังเด็ก เรื่องงานแต่งงานผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ต้องรบกวนบ้านคุณแล้ว”
“ไม่มีปัญหาอะไร ยังไงก็เป็นงานแต่งของลูกสาวฉัน แล้วพวกเราจะไปดูบ้านกันเมื่อไหร่ดี?”
พ่อของจางซี : “เมื่อไหร่ก็ได้ พรุ่งนี้ก็ได้”
“งั้นโอเค ต้องขอโทษด้วยนะคะ เผอิญที่บ้านมีธุระต้องไปก่อน มื้อนี้ให้ฉันเลี้ยงก็แล้วกัน น่าจะหลายพันอยู่”
พ่อของจางซีเห็นอาหารเหลือเต็มโต๊ะ เขาเองก็ไม่มีอารมณ์จะกิน ก็เลยเรียกพนักงานเสิร์ฟเข้ามา “เอาอาหารใส่ถุงให้ด้วย” ต่อหน้าครอบครัวของแฟนจางซี
ตอนนั้นเองที่พวกเขามองด้วยสายตาดูถูก แล้วแม่ของเธอก็พูดว่า : “ไม่มีเงินก็คือไม่มีเงิน จะมาเสแสร้งว่ารวยทำไม พูดมาตั้งนานก็คงโม้ทั้งนั้น”
พูดจบก็สะบัดหน้าจะเดินออกไป ตอนนั้นเองที่ประตูเปิดออก ผู้จัดการโรงแรมเดินเข้ามา : “ท่านประธานทำไมจะมาไม่บอกผมสักคำ”
พ่อของจางซี : “วันนี้นัดกันมาคุยเรื่องส่วนตัวน่ะ ไม่อยากรบกวนเธอ ไปก่อนนะ”
แล้วพ่อของจางซีก็เดินออกมาจากโรงแรมโดยไม่หันกลับไปมองอีกเลย ได้แต่บอกจางซีว่า : “รีบๆ เลิกกับแฟนคนนี้เลย ครอบครัวนี้เป็นคนแบบไหนกัน คนแบบนี้ใช้ไม่ได้ รวมถึงแฟนแกด้วย”
ที่แท้เพราะว่าตอนพ่อจางซีเล็กๆ มีอยู่ครั้งนึงเขาหิวมาก แล้วก็ได้ข้าวจากขอทานช่วยประทังชีวิต เขาถึงได้รอดมาได้ พอถึงวันนี้แม้ว่าจะร่ำรวยก็ยังเป็นคนประหยัด!!
แหล่งที่มา: www.item2day.com