หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เรื่องราวของสาวไทย แต่งงานกับสามีฝรั่งที่เป็น “มะเร็ง” ระยะสุดท้าย

โพสท์โดย NIXA

ซึ่งใน Facebook ได้มีการเผยเรื่องราวสุดซึ้งของผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งที่มีชื่อว่า เที่ยววันยังคำ โดยไม่นานมานี้ได้มีการออกมาโพสต์เรื่องราวและประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับตัวเองและแฟนหนุ่มชาวต่างชาติซึ่งพวกเขาทั้งสองได้ตัดใช้ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วม แะละฝ่ายหญิงได้ตัดสินใจตกลงปลงใจที่จะแต่งงานแม้จะรู้ว่าฝ่ายชายนั้นกำลังเคราะห์ร้ายเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้ายก็ตามและก็ตัดสินใจจะใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกันให้มีความสุขมากที่สุด

แต่แล้วก็มีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่าปาฏิหาริย์พบว่าสามีของเธอนะสามารถรอดตายจากมะเร็งตับระยะสุดท้ายได้โดยตัวเธอนั้นได้มีการกล่าวเรื่องราวเหล่านี้ว่า…
ซึ่งย้อนกลับไปประมาณต้นปี 2007 สามีตอนนั้นยังเป็นแฟนกันอยู่และตรวจพบก้อนผิดปกติที่ลูกอัณฑะซึ่งทางแพทย์ได้วินิจฉัยว่าเป็นแค่ก้อนเนื้อและไม่ใช่เนื้อร้ายโดยใช้วิธีการรักษาด้วยการกินยาเป็นระยะเวลา 1 ปีโดยก้อนเนื้อนี้ก็เล็กลงเรื่อยๆและก็กินยากันมาอย่างต่อเนื่องจนครบปีก็ได้เวลาหยุดยา และหลังจากที่หยุดยาได้ไม่นานก้อนเนื้อมันก็โตขึ้นมาอีกหมอจึงแนะนำให้พาออกแต่อยู่ๆก็มีอาการปวดท้องเข้ามาร่วมด้วยจนต้องเข้า Admin ด่วนก่อนวันนัดผ่าตัด 1 วันขอให้เข้าทำ วันขอให้เขาทำ CT SCAN ทันทีเพราะหมอพบก้อนเนื้อขนาดใหญ่ในบริเวณตับและกินขนาดตับไปแล้วกว่า 75 เปอร์เซ็นต์โดยหลังจากนั้นหมอก็ได้เรียกเข้าไปคุยและตัดสินใจแนวทางการรักษาโดยเริ่มจากการผ่าเอาอัณฑะออกไปก่อนและค่อยๆรักษาที่ต่อไป

เมื่อหลังจากที่ฟื้นจากการผ่าตัดได้ก็มีอาการปวดบริเวณหลังเป็นอย่างมากโดยไม่มีสาเหตุหมอจึงวินิจฉัยว่ามะเร็งได้ลุกลามไปยังกระดูกสันหลังเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อรู้แล้วก็ไม่ยอมแพ้ก็คิดว่าจะจับมือสู้กันสักตั้งเพราะยังอายุน้อยและปกติสามีเป็นคนที่ดูแลสุขภาพดีมาโดยตลอดกินคลีน ออกกำลังกายอยู่เเป็นประจำ อีกทั้งยังเป็นคนไม่กินเหล้าและสูบบุหรี่และสาเหตุส่วนใหญ่นั้นก็เกิดขึ้นมาจากพันธุกรรม

โดยหลังจากการผ่าตัดนั้นก็ได้ทำเรื่องขอไปรักษาต่อกับอาจารย์หมอที่เก่งที่สุดของโรงพยาบาลจุฬาซึ่งแม้ว่าหมอคิวแน่นเป็นอย่างมากแต่รอไม่ได้แล้วซึ่งโชคดีเป็นอย่างมากที่รู้จักพี่คนหนึ่งที่เป็นพยาบาลอยู่ที่นั่นเขาก็ทำได้ให้เข้าไปรักษาด่วนโดยในวันที่ที่ไปพบกับอาจารย์หมอไปครั้งแรกก็ได้เจาะเลือดแล้วผลออกมาว่าค่ามะเร็งสูงเป็นอย่างมากหมอเลยสั่ง Admin ด่วนและใช้ระยะเวลาในการคุยกับอาจารย์หมอไม่เกิน 10 นาทีเพราะคนไข้นั่งรอคิวอีกเยอะมาก
และหลังจากนั้นหมอก็ได้ทำเรื่องต่อคิว Admin ไปยังโรงพยาบาลใหญ่ที่ไม่ใช่ของรักเพราะว่าไม่ใช่จะเข้าไปรักษากันได้ง่ายๆอีกครั้งเตียงไม่พอและต้องต่อคิวกันเป็นเงินเดือนจึงตกลงกันว่าจะเข้า Admin ที่ตึกพิเศษ ที่ตึกพิเศษพิเศษแม้ จะต้องจ่ายแพงหน่อยแต่ได้คิวเร็วกว่าและด้วยความโชคดีอีกอย่างแฟนเป็นอาจารย์สอนเด็กประถมที่โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งพอเด็กๆและผู้ปกครองทราบเรื่องก็ช่วยกันบริจาคเงินมาอย่างมากมายเพื่อช่วยค่ารักษาพยาบาลซึ่งในตอนนั้นก็ทำให้ซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากและไม่เคยลืมบุญคุณของทุกท่านในครั้งนั้น

และเมื่อพอดีเขาอาจมีเป็นครั้งแรกเป็นที่เรียบร้อยก็ได้ใช้ครีมโอเลย์การรักษาโดยเข้าออกโรงพยาบาลประมาณ 3 เดือนตอนให้คีโมนั้นก็มีอาการทางคลื่นไส้และอาเจียนทั้งวันทั้งคืนกินไม่ได้นอนไม่หลับร่างกายเจ็บปวดไปทั้งตัวขอยาแก้ปวดแก้คลื่นไส้ก็ได้ไม่มากเพราะมีโควต้าให้เพียงแค่ 6 ชั่วโมงเท่านั้นแต่หลังจาก 2 ชั่วโมงไปย่าก็เริ่มบ่นนิดซึ่งตัวเขาก็อดทนจนจบคอร์สโชคดีที่ร่างกายแข็งแรงซึ่งถ้าหากบางคนร่างกายที่ไม่แข็งแรงพอก็ทำให้ร่างกายฟื้นจากคีโมเป็นได้ช้าอาจจะทำให้ต้องหยุดยาแล้วกว่าร่างกายจะดีขึ้นนั้นกว่าจะกลับมาต่อยาได้ก็ยากและระหว่างที่หมอให้ยาอยู่นั้นหมอก็ได้ทำ CT Scan อาทิตย์เว้นอาทิตย์เพื่อดูอาการตอบสนองของยาที่มีต่อก้อนเนื้อหลังจากที่ได้รับยาก้อนเนื้อก็มีขนาดเล็กลงตามลำดับจนจบคอร์สโดยก้อนเนื้อมีขนาดเล็กลงจนถึง 25% ของตับ

และหลังจากที่ให้คีโมจนจบคอร์สก็ได้มีการวางแผนแต่งงานกันเลยทุกอย่างจะเตรียมในเวลา 1 เดือนหมั้นกันมาแล้ว 2 ปีอีกทั้งยังต้องไปตรวจเรื่องเลยเช็คค่ามะเร็งทุกทิศทุกทางที่ไปนั่งรอผลและสุดท้ายอาทิตย์ก่อนวันแต่งงานผลเลื่อนกับสูงลิ่วสูงที่สุดที่เคยตรวจพบมาก่อนทำให้หมอต้องสั่งให้เขา Admin ด่วนแต่แฟนบอกว่าขอให้ผ่านงานแต่งไปก่อนหมอก็ตกลงซึ่งทางหมอเองก็ไม่ยอมยอมรับว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก่อนหรือเปล่าเพราะค่าเลือดสูงมากจริงๆแต่ตัวแฟนก็ยังบอกว่าโอเคยังไหวและหนังใจพี่เสร็จงานก็พาครอบครัวแฟนไปเที่ยวภูเก็ตทุกคนพยายามดูมีความสุขให้มากที่สุดและทำทุกอย่างให้เป็นปกติซึ่งการผ่านครั้งนั้นมาได้และทำไมจะผ่านอีกครั้งหนึ่งไม่ได้ล่ะ

โดยในครั้งนี้หมอต้องบอกว่าใช้ยาสูตรใหม่ซึ่งต้องเป็นยาที่มาจากประเทศอเมริกาแต่มันแพงกว่ายาที่ไทยเป็นอย่างมากโดยเข็มละ 60,000 บาทอย่างน้อยต้องใช้ 4 เข็มโดยในตอนนั้นคิดหนักเป็นอย่างมากเพราะทุ่มเทกับการรักษาครั้งแรกไปเกือบล้านและไม่คิดว่าต้องมาเจอแบบนี้อีกครั้งหนึ่งจึงขอเวลาหมอแล้วโทรไปปรึกษากับครอบครัวสามีเบื่อตอนแรกคิดว่าจะให้เขาช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายแต่ครอบครัวเขาบอกว่าถ้าจะต้องซื้อแยกอเมริกาไปรักษาที่ไทยงั้นบินกลับมารักษาที่อเมริกาดีกว่าไหมซึ่งครอบครัวนางสามีเราก็ทำเรื่องติดต่อหมอและโรงพยาบาลที่อเมริกาให้และก่อนการเดินทางก็มีเวลาเตรียมตัวแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้นอีกทั้งยังต้องใช้วีซ่าของท่องเที่ยวเดินทางและเราก็ได้เตรียมเอกสารต่างๆเพื่อส่งไปรักษาตัวต่อที่ประเทศอเมริกาเดือนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดเพื่อเป็นหลักฐานให้ตมตรวจสอบซึ่งกว่าจะเดินเรื่องผ่านไปได้นั้นก็ค่อนข้างเป็นได้ยาก

แต่สุดท้ายเราก็สามารถไปถึงอเมริกาได้โดยเมื่อไปถึงเราก็อาศัยอยู่บ้านพ่อแม่สามีอีกทั้งยังทำเรื่องรักษาของฟรีและสามีก็อยู่ในเกณฑ์ของจิตและการรักษาฟรีอีกด้วยเพราะเป็นบุคคลที่ไม่มีรายได้และไม่มีทรัพย์สินใดๆโดยเงินตอนนั้นมีเงินติดตัวเพียงแค่ 2,000 บาทเท่านั้นและอาศัยอยู่กินกับพ่อแม่สามีด้วยในช่วงนั้นลำบากเป็นอย่างมากเพราะยังต้องผ่อนบ้านที่ไทยแต่โชคดีที่ยังมีคนหลายคนคอยช่วยเหลือจึงทำให้ผ่านช่วงนั้นมาได้ด้วยในครั้งแรกที่ต้องเดินเข้าโรงพยาบาลที่อเมริกามาดูช่างแตกต่างจากโรงพยาบาลไทยอย่างกับฟ้าเหวเหมือนนั่งทำบัญชีในอนาคตเพราะเครื่องไม้เครื่องมือทุกอย่างมันดูทันสมัยมากและวันแรกหลังจากที่เข้าไป Admin 1 วันเต็มๆก็ไม่ทำอะไรได้นอกจากจะคุยกันเรื่องแผนการการรักษา กับหมอเท่านั้นโดยหมอแต่ละคนจะรับผิดชอบในเพียงแต่ละส่วนและแต่ละคนได้อธิบายเป็นละเอียดเป็นอย่างมากว่าตอนนี้คนไข้อยู่ในระดับไหนและแผนการรักษานั้นจะเป็นอย่างไร

โดยแผนการรักษานั้นก็คือหมอจะให้ยาคีโมที่แรงเป็นมากๆให้เข้าไปฆ่าเชื้อมะเร็งในร่างกายซึ่งในตอนนั้นร่างกายของคนไข้จะดับลงเป็นอย่างมากเพราะขี้โม้มันจะฆ่าทั้งเซลล์ดีและเลวร้ายและหลังจากนั้นก็จะให้ยาพักฟื้นแล้วก็ให้คีโมอีกครั้งหนึ่งทำแบบนี้ประมาณ 6 ครั้งในช่วง 8 เดือนแรกก็ต้องอยู่ที่โรงพยาบาลแพทย์ตลอดแต่โรงพยาบาลแห่งนี้ไม่มีที่ให้เฝ้าแต่จะมีห้องพักเหมือนโรงแรมแต่อยู่คนละชั้นซึ่งมีความแตกต่างของโรงพยาบาลที่นี่ก็คือเขาจะละเอียดเป็นอย่างมากและจดจำทุกอย่างได้ว่าคนไข้นะกินอาหารไปเท่าไหร่กินน้ำเป็นเท่าไหร่ปัสสาวะเป็นครั้งที่เท่าไหร่อุจจาระเป็นครั้งที่เท่าไหร่อาเจียนเป็นครั้งที่เท่าไหร่ซึ่งทุกอย่างนะจะต้องถูกผ่านการตวงจดบันทึกทั้งหมด… เวลามีอาการเจ็บปวดทรมานก็สามารถขอยาได้ตลอดเพราะมียามาหลายขนานให้สามารถได้ทานได้เรื่อยๆซึ่งในตอนนั้นสามีก็มีอาการดีขึ้นและทานอาหารได้มากกว่าเดิมและไม่ทรมานเหมือนอยู่ที่ไทยอีกทั้งยังสามารถฟื้นฟูร่างกายได้เร็วและทำแบบนี้ได้จนหมดคอร์ส

หลังจากที่จบคอคีโมหมอก็ให้ทำสเต็มเซลล์โดยการเจาะ of STEM cells ออกมาจากไขสันหลังแล้วไปเก็บรักษาไว้และทำคีโมให้แรงที่สุดและแบบที่จะฆ่าเราให้ตายให้ได้แล้วหลังจากนั้นก็ให้ Stem Cell กับเข้าไปเพื่อรักษาร่างกายให้กลับมาแข็งแรงซึ่งทำแบบนี้อยู่ 2 รอบหลังจากที่จบขอสเต็มเซลล์ก็รอร่างกายให้ฟื้นตัวเต็มที่แล้วหมอก็จะวางแผนการตามผ่าตัดต่อทันทีโดยหมอใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 10 ชั่วโมงผ่าตัดตรงที่เป็นเนื้อร้ายออกไปครึ่งหนึ่งของตับซึ่งนี่ก็ถือเป็นความรู้ใหม่ว่าตับที่เหลืออยู่ครึ่งนึงนั้นมันสามารถทำงานได้แบบปกติแล้วมันสามารถสร้างตัวเองให้กับมาโตได้เช่นเดิมได้เหมือนกันและหลังจากการผ่าตัด Sesame ก็ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปีเพื่อให้ตับนั้นกลับมามีขนาดเท่าปกติโดยระหว่างนั้นก็มีการติดตามผลอยู่ตลอดและมีการตรวจเลือดอีกทั้งยังมีทำ CT อยู่ตลอดผลกลับมาว่ามะเร็งนั้นมันได้ตายไปหมดแล้วและไม่สามารถกลับมาโตได้เหมือนทุกครั้งจนวันนั้นก็ถึง 8 ปีแล้วที่สามีของเธอนั้นมีชีวิต

ซึ่งในประสบการณ์ที่ผ่านมานั้นระหว่างที่ให้คีโมเป็นครั้งแรกก็รอหมดอะไรว่าดีก็วิธีย้ายกระดูกฉลามยาสาหร่ายทะเลยาสมุนไพรน้ำออกซิเจนฝังเข็มไม่กินเนื้อไม่กินสองของแสลงทำทุกอย่างที่คิดว่าดีเพื่อที่จะให้หายชักแม่น้ำทั้งห้าเพื่อที่จะทำให้สามีเชื่อและทำตามแต่ทว่าฝรั่งนั้นไม่ได้เป็นคนที่เชื่อในเรื่องแบบนั้นแต่เขาก็ยอมทำกินยาเป็นกำมือแต่ละที่สุดมันก็กลับมาอีกซึ่งในตอนนั้นก็ทำให้เราและสามีคิดว่าจะไม่กินยาอะไรนอกจากยาที่หมอสั่งเท่านั้นและกินอาหารที่มีประโยชน์และไม่เว้นอะไรอีกทั้งต้องทำให้ร่างกายแข็งแรงและจิตใจสดชื่นเมื่อจิตใจของเราแข็งแรงร่างกายของเราก็แข็งแรงไปด้วยก็จะทำให้เซลล์ในร่างกายของเรานั้นสามารถต่อสู้กับมะเร็งร้ายแล้วค่อยๆตายไปจากร่างกายได้

โดยท้ายที่สุดมีก็ขอให้ทุกคนโชคดีอย่ายอมแพ้ต่ออุปสรรคถ้าเราไม่ยอมแพ้ที่จะชนะเราก็สามารถจะทำให้ตัวเองเป็นผู้ชนะได้และขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วยทุกคนและคนที่คอยดูแลคนป่วยเพราะคุณคือคนสำคัญที่สุดเหนื่อยมากเราเข้าใจเพราะเราผ่านกันมาหมดแล้วอยากให้จับมือสู้กันไปไม่ว่าจะเกิดในคลื่นอนาคตเราจะไม่เสียใจเพราะเราทำดีที่สุดแล้ว

โพสท์โดย: NIXA
แหล่งที่มา: www.temjor.in.th
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
NIXA's profile


โพสท์โดย: NIXA
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ชาวเน็ตฮือฮา! ขายที่ดินพร้อมบ้าน 200 ล้าน ติดวิวสภาสัปปายะสภาสถาน"มนต์สิทธิ์" เผยเลขเด็ดงวด 2 พ.ค.67..คอหวยห้ามพลาด!หนุ่มเร่ขาย "ลาบูบู้" กลางสี่แยก..ทำเอาหลายคนแห่ถามพิกัดหรือจะถึงคราวต้อง " อำลา TikTok " แล้วจริงๆเผยคำพูดปารีณา พูดกับเสรีพิศุทธ์ ในงานศwพ่อหนุ่มเครียด! สอบติดอัยการผู้ช่วย ควรเลิกกับแฟนที่เป็นพนักงานบริษัทดีไหม?ทำรากฟันเทียม แต่หน้ากลายเป็นสัตว์ประหลาดทีมเชื่อมจิตจ่อฟ้อง! สื่อปล่อยเฟกนิวส์..ไม่เคยบอกเชื่อมจิตแล้วจะไปนิพพาน5 สาเหตุ ที่คนแก่ยึดติดกับอะไรเดิม ๆ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เผยคำพูดปารีณา พูดกับเสรีพิศุทธ์ ในงานศwพ่อ"ใบเตย สุธีวัน" กลับสู่บ้านเดิม เซ็นสัญญาเข้าบ้าน "อาร์สยาม"ชาวเน็ตฮือฮา! ขายที่ดินพร้อมบ้าน 200 ล้าน ติดวิวสภาสัปปายะสภาสถานหรือจะถึงคราวต้อง " อำลา TikTok " แล้วจริงๆ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ความรัก, ประสบการณ์ชีวิต
ชุดปลุกอารมณ์ ผู้ชายเห็นแล้วหลงไหล อยากสัมผัส??ช้าหน่อยนะครับ!! เมื่อเจ้าของร้านไล่พนักงานออกยกเซต 8 คน เพราะขโมยเงิน งานนี้ต้องกลับมาทำทุกอย่างเองทั้งหมด 😌แม่จีนโกรธจัดตบลูกชายหน้าหัน เหตุเพราะแอบดูสาวในห้องน้ำ จนตำรวจตามจับถึงบ้าน เเม่สุดเอือมเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งเเรก😌สาเหตุที่น้องสาวมีกลิ่น และวิธีกำจัดกลิ่นน้องสาวอย่างได้ผล??
ตั้งกระทู้ใหม่