หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

น่าคิด!! เราเรียนรู้อะไร จากวิธีการสร้างสรรค์ "ชุดประจำชาติไทย" ของเวที Miss Universe Thailand

โพสท์โดย ลูกสาวอบต

กรณีศึกษา: เราเรียนรู้อะไร จากวิธีการสร้างสรรค์
"ชุดประจำชาติไทย" ของเวที Miss Universe Thailand

Written by Thanabatra Beboyl Chaidarnn
Page Owner: ตุ๊ดส์review / Pussy can talk

เดาง่ายจะตายกับพฤติกรรมของคนไทย เราไม่ชอบอะไรเราก็แค่รุมด่า แต่เราไม่แสวงหา "สาเหตุต้นตอของปัญหา" และ "คิดสร้างสรรค์หาทางออกให้มันใหม่"

เราทำงานเหมือนเดิม วิธีการแบบเดิมๆ เพื่อหวังผลลัพธ์ใหม่ที่แตกต่าง และดียิ่งๆขึ้นไป ซึ่งตรรกะมันผิด มันไม่เกิดสิ่งนั้น ถ้าเริ่มต้นก็ไม่ใช่แล้ว

เหตุผลของการที่ประเทศเรายังพัฒนาได้ช้า และถอยหลังในบางเรื่อง เพราะเราไม่ปรับเปลี่ยนมันตั้งแต่ต้นทาง

ทั้งหมดสะท้อนผ่านชุดประจำชาติชุดเดียวชุดนี้ แล้วเราน่าจะตั้งต้นอะไรๆในประเทศได้ใหม่อีกมาก แค่เปลี่ยนวิธีคิด...ชีวิต (ประเทศชาติ) เปลี่ยน! แต่ทั้งนี้ ผมไม่ได้อยากเป็นนายกครับ 555+

--------

เห็นชุดนิ้งโสภิดาแล้ว พูดไม่ออก รู้เลยว่าน้องคงแบกความเครียด น้ำหนักชุด ความกดดัน กระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ มากมายเหลือเกิน ผมขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ผ่านไปให้ได้ และขอไม่วิจารณ์ตัวชุด-ตัวนางงาม แต่ผมสนใจ 'กระบวนการในการสร้างสรรค์งานออกแบบชุด' มากกว่า เพราะมันเป็นต้นตอของผลลัพธ์ทั้งหมดที่เราเห็นๆกันครับ และถ้าจะแก้ไขที่ชุด ต้องไปแก้ที่รากของปัญหา ไม่ใช่วิจารณ์ว่าแย่ แต่ไม่เคยแก้ไขเลยสักปี ออกมาก็เลยไม่ประทับใจกันเหมือนเดิม

ส่วนตัวคิดว่า คนไทยควรได้เรียนรู้บางอย่างจากการทำชุดประจำชาติ???

ผมเคยได้ยินสำนวนที่ว่า Imagination creates reality. แต่สำหรับผม ผมว่าไม่เสมอไปหรอก บางอย่างที่จิ้นไว้ มันอาจจะไม่ work เสมอไปก็ได้นะ

สำหรับงานออกแบบชุดประจำชาติ เป็นกรณีศึกษา ที่ผมมองว่ามันสะท้อนว่า วลีฝรั่งข้างต้น ไม่เป็นจริง เพราะ "Imagination can't create reality always." มันอาจจะมีบางอย่างที่คนเราคิดไว้ในหัว หรือเป็นภาพวาดฝันอันดีงาม เวลามันออกมาจริงๆ มันอาจจะไม่ได้เป็นเหมือนที่คิดฝันไว้ก็ได้

การประกวดแบบชุดประจำชาติ บางทีมันบังคับตัวงานออกแบบให้อยู่กับภาพแบบของชุดผู้ชนะเหมือนกันนะ พอมันบังคับให้ต้องเป็นไปตามแบบ จริงๆแล้วมันจำเป็นอยู่ไหม เพราะสิ่งที่อยู่ในกระดาษ เป็นความจริงที่สมบูรณ์แบบไม่ได้

ส่วนตัวไม่ได้เชื่อเรื่องการประกวดไอเดียออกแบบชุดเลยสักปี...เราชอบการนำไปใช้ได้จริง (practicality) ไม่ใช่แค่สร้างสรรค์สวยงาม (creativity) แต่พอทำจริงจัง มันไม่ค่อยเวิร์คไง

แล้วจริงๆมันน่าจะปล่อยไหลแบบธรรมชาติว่า ตัวแบบคนนั้นเค้าเหมาะกับอะไร เค้าควรสื่อสารอะไรที่เป็นไทยในความเป็นอัตลักษณ์ของเขา มากกว่ายัดเยียดชุดที่ใครต่อใครออกแบบให้ มันสื่อสารแต่ความเป็นไทย มันไม่ได้สื่อสารความเป็นตัวตนผู้สวมใส่ ที่มีมุมมองไทยในแบบของตัวเอง นั่นแหละเสน่ห์ที่หายไปจากการขาดอัตลักษณ์เฉพาะของผู้สวมใส่เอง (Self-Identity) อย่างรุนแรงของตัวแบบกับชุดที่ขาดการเชื่อมโยง (connectivity) กันโดยสิ้นเชิง

เช่น ปัญหาของ 'มารีญา กับรามสูร-เมขลา' ก็ชัดเจนมากว่า ดูด้วยตาเปล่าเรามองว่าชุดมันสวยมาก สื่อสารความเป็นไทยมาก มารีญาก็ใส่แล้วสวยดี แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ "เธอไม่เป็นส่วนหนึ่งกับชุดเลย" มันแข็ง มันอึดอัด มันกระด้าง มันดูรัดตึงและทรมานมากกว่าสง่างามปกติ ซึ่งความสง่างามที่เป็นตัวตนมารีญาหายไปในชุดนี้ มันจมไปกับท่าทางแบบโขนที่ยัดเข้าไป การแบกน้ำหนักชุดหนักๆที่ใส่ไปบนตัวเธอ ความอึดอัดรวบตึงทั้งตัว สรุปคือชุดมันสวยมาก แต่สวยแบบที่ไม่มีความเป็นตัวเธอ สุดท้ายสิ่งที่ออกมา คือ มารีญา 'พยายามแสดง' ว่าเธอโอเค และเป็นส่วนหนึ่งกับชุดให้ได้ เพื่อทำหน้าที่ของชาติ ที่แบกไว้บนบ่าโดยการ present ชุดที่ไม่เป็นตัวเองเอาซะเลย ให้ดีที่สุด ตามสิ่งที่ได้รับมอบหมายมา จากชุดที่ประกวดชนะ ซึ่งมารีญาไม่ได้ทำได้แย่นะครับ เธอเจ๋งอยู่ แต่แค่ผมคิดว่ามันมีชุดที่น่าจะ "เป็นตัวตน" ของมารีญากว่านี้ได้อีกครับ

ในฐานะของผู้สร้างสรรค์ภาพลักษณ์บุคคล (Personal Brand Image) มาหลายปี ตามความคิดของผู้เขียน "อยากขอให้เลิกประกวดชุดประจำชาติแบบเก่า ที่คิดมาจนเสร็จแล้วบังคับสวมใส่" แต่ใช้วิธีสร้างสรรค์การออกแบบ ที่ทำภาพลักษณ์แบรนด์ไปพร้อมกับตัวนางงาม (Personal Branding) ในการออกแบบ มากกว่าการเริ่มต้นที่การออกแบบชุดที่สวยงามมาสำเร็จรูปแล้ว เพราะคิดว่าสวย และมีคอนเซปต์ที่ดี ไปสวมบนตัวแบบเลย

ผู้เขียนมีโอกาสใช้กระบวนการทำงานของ Personal Branding นี้ ตอนที่บอยทำงานค่ายเพลงที่เราทำ Artist Development ให้เกิดแบรนด์ของศิลปินคนหนึ่งๆที่ทรงพลัง แล้วบอยว่ามัน Work ทุกครั้ง ที่เราเข้าใจในบุคคลที่นำเอาเพลง เอางานศิลปะ เอาภาพลักษณ์ที่เราสร้างขึ้นไปใช้ เพราะเราสร้างมาเพื่อเค้าจริงๆ มันคือตัวตนของเขาจริงๆ ไม่ใช่แค่เปลือกที่เอามาห่อหุ้มตัวตนของเขา แต่หา 'เสน่ห์' ไม่เจอ

Personal Branding คืออะไร?

ความหมายของวิธีการดังกล่าวคือ จับนิ้งมานั่งคุยเชิงลึกกับ Creative Designer ให้เข้าใจตัวตนของนิ้ง นิ้งควรจะสื่อสารอะไรที่เป็นไทยในแบบของเค้า จุดเด่นของแบบคนนี้อยู่ที่ไหน อัตลักษณ์ที่เขามีไม่เหมือนใครเลยแล้วโดดเด่นออกมาคืออะไร สีไหนที่สะท้อนความเป็นตัวตนของผู้หญิงคนนี้ วัสดุหรืออัญมณีที่ตรงกับราศีเกิดหรือเครื่องประดับที่นางงามคนนั้นชอบสวมใส่คืออะไร ข้อมูลทั้งหมดจะนำว่ากลั่นกรอง และพัฒนาเป็นความคิดสร้างสรรค์ จนตกผลึกเป็น 'Big Idea' ที่เชื่อมโยงตัวนิ้งผู้เป็นแบบ กับความเป็นไทย แล้วค่อยออกแบบชุดเพื่อคนคนหนึ่งจาก Big Idea นั้นเอาไปใช้แข่ง ให้เขาเกิดความเป็นตัวแทนชาติที่แท้จริงผ่านความเป็นตัวตนของเขา (Thailand's Representative) แล้วสิ่งที่เค้าสื่อสาร และทำออกมาจะเป็นตัวตนของนางงามที่มีความเป็นไทยอยู่ด้วย เสน่ห์จะเกิดขึ้นเต็มๆ

"ถ้าหากอยากคงการประกวดชุด ต้องเปลี่ยนกระบวนการทำงานใหม่"

ผมอยากแนะนำ ให้ใช้วิธี Pitching เหมือนงาน Design Agency ที่เข้ารับฟัง Brief ของลูกค้าคือกองประกวด โดยมีนางงามเป็น product

เริ่มต้นจาก ให้นักออกแบบที่ต้องการประกวดมีโอกาสเข้าไปทำความรู้จักตัวแบบ คือนางงามจนถึงแก่นแท้ของความเป็นตัวตน (Core Brand DNA/ Brand Identity) ให้เธอเล่าเรื่องชีวิตเธอกับวิถีไทย ดึงตัวตนของนางงามออกมา ผู้ออกแบบควรเห็นสรีระอันเป็นจุดเด่นจุดด้อย สิ่งที่นางงามคนนี้ชอบ และไม่ชอบ พอไปรับ Brief จากการสัมภาษณ์เชิงลึกแบบ depth interview ค่อยกลับมาสร้างสรรค์ออกแบบอย่างเข้าใจตัวนางแบบ แล้วเอาชุดพวกนั้นที่ออกแบบมาแข่ง ชุดจะแข็งแรงขึ้น เพราะคิดงานบนโจทย์ที่เป็นตัวตนนางงามจริงๆ

มันจะเปลี่ยนวิธีคิดจากการทำชุดให้ประเทศที่ออกแบบเพื่อความเป็นไทยจ๋าๆ (Thainess) เป็นการถ่วงดุลงานดีไซน์เป็น 3 ขาในเชิงหน้าที่ (Function-based Design) ได้แก่

1) ความเข้าใจในตัวตน/ อัตลักษณ์ที่โดดเด่นของตัวแบบผู้สวมใส่ (From Self-Identity to Personal Branding)
2) ความงามของงานออกแบบที่ทรงความเป็นไทยอย่างมีเสน่ห์ (Thai's Aesthetic) อันแตกต่างจากคู่แข่ง (Differentiation)
3) ประโยชน์ใช้สอยในเชิงกระบวนการผลิตที่ทำได้จริง และการนำเสนอของนางงามที่ง่ายและลงตัว (Practicality)

ถ้าคิดได้ใน 3 มิตินี้อย่างแตกฉาน ผมว่างานที่ออกมาจะดีเลิศแน่นอน เพราะทุกชุดที่ออกแบบมาในการประกวดทุกปี มันก็สวยหมดแหละครับ แค่คอนเซปต์ต่างกันเฉยๆ สร้างสรรค์เก๋ไก๋หมด แต่ทุกคนคิดแค่มิติเดียวคือ มิติข้อ 2) คุณลืมตัวแบบผู้สวมใส่ และลืมการนำไปใช้งานจริงไม่ได้เลยครับ สุดท้ายในทุกปี งานออกแบบที่ทำมามันเลยไม่ตอบโจทย์อย่างอื่นเลย นอกจากความเป็นชาติไทย/ ความชาตินิยมจ๋าๆ (Ethnocentrism) ดังนั้น ทุกมิติควรคิดให้ครบตั้งแต่ตอนที่ออกแบบ พอตอนผลิตตัดเย็บจริง เมื่อมันคิดงานมาครบแล้ว งานจะออกมาสมบูรณ์แบบ และกลมกล่อมครับ

ส่วนตัวชุดนิ้งเอง ผมมีคำถามที่อยากหาคำตอบเยอะมาก ซึ่งทุกคำถามจะตอบได้เลย ถ้าวิธีการสร้างสรรค์ชุดนี้เปลี่ยนไป มันทำให้งานสร้างสรรค์ที่ออกมามีคุณค่ากับตัวนางงามได้จริงด้วย และจริงๆมันควรตอบได้ เพราะมันเป็นวิธีคิดที่สำคัญที่ทำให้ชุดสร้างสรรค์อย่างมีมิติที่สมบูรณ์ เช่น

- ทำไมช้างต้องนิ้ง?
- 'ช้าง' คือความเป็นไทยเสมอมา แต่เราเคยส่งออกชุดที่เล่าเรื่องช้างแล้ว ก็เล่าเรื่องเดิม แล้วอะไรคือความสร้างสรรค์ใหม่ ที่ทำให้งานนี้โดดเด่น และสื่อสารตัวนางงามได้?
- 'นิ้ง' relate อะไรกับ 'ช้าง'?
- ประสบการณ์ของนิ้งที่จะถ่ายทอดความภูมิใจของชุดนี้คืออะไร
- จะเล่าเรื่องช้างของชุดนี้ ยังไงให้น่าประทับใจบนงานดีไซน์ที่ชาติอื่นทำไม่ได้?

ถ้ามันมากกว่าแค่จับชุดมา match กับคนเพื่อสวมใส่มันเฉยๆ แต่เริ่มต้นที่คิดมาโคตรดี ชุดจะมีความหมายและทรงคุณค่ามากกว่าคำว่า "ช้าง = ไทย" ครับ ซึ่งผมอยากเห็นวิธีคิดงานแบบนั้น

"ชุดที่ไม่เข้าใจผู้สวมใส่ คือชุดที่ไม่สร้างความสำเร็จ"

เราไม่ได้สร้างชุดนางงามเอาไปขาย หรือแค่นำเสนอเสื้อผ้าห้องเสื้อ ภารกิจของการสวมใส่ชุดใดๆมันยิ่งใหญ่ระดับชาติ (เราต้องมองข้ามความเป็น commercial ของแบรนด์ผู้ออกแบบให้ได้ โดยเฉพาะในชุดราตรี อย่าคิดเพียงขายของ ขายแบรนด์ตัวเอง เรากำลังขายนางงาม ขายประเทศของเราสู่สากล) เพราะเราให้นางงามสวมใส่ เพื่อสื่อสารความเป็นตัวตนของเขา เพื่อส่งเสริมตัวเขาให้เกิดความน่าดึงดูดใจ เกิดพลังแห่งความสำเร็จ ดังนั้น ตัวคนใส่ ต้องพุ่งเสน่ห์ออกมาโดดเด่นบนชุดที่สวมใส่ ไม่ใช่ชุดสวยโดดเด่น แต่ไม่ส่งเสริมนางงาม เป็นชุดเขวี้ยงมง ชุดฆ่านางงาม

ถ้าอยากให้ชุดประจำชาติ มีเสน่ห์ และทรงพลัง น่าจะเลิกวิธีคิดการสร้างสรรค์การออกแบบเก่าๆ แล้วลองปฏวัติวิธีใหม่ๆ ใช้กลยุทธ์การออกแบบจากความเข้าใจตัวแบบผู้สวมใส่ดู แล้ว Branding ของนางงาม และ Branding ของประเทศ จะออกมาชัดเจน และกล่มกล่อม เป็นเนื้อเดียวกัน อย่างชาญฉลาด

ถ้าเราสร้างชุดนางงามจาก Personal Branding ของเขา ไม่ว่าจะชุดประจำชาติ หรือชุดราตรี (ขอไม่พูดถึงชุดแบรนด์ ASAVA เมื่อปีที่แล้วนะครับ ผมเจ็บปวดมากๆครับ) ทุกชุดจะทรงคุณค่ามาก บนตัวแบบ และตัวนางงามเองจะนำเสนอออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ และสมบูรณ์แบบสุดๆ เพราะมันเกิดมาเพื่อคนคนนั้นจริงๆ ไม่ใช่การยัดเยียดความสวยที่ไม่รู้ว่าเข้ากับตัวแบบไหม ให้เขาใส่ เพื่อ Represent สิ่งที่ไม่ใช่ตัวเขาครับ อะไรที่ออกแบบมาแล้วเหมาะกับผู้สวมใส่...ผมเชื่อว่าสวยตรงใจ และการทำงานจะง่ายกว่านี้อีกมากครับ

'แค่เปลี่ยนที่วิธีคิด...ชีวิตเปลี่ยน!'

ผมเชื่อในการใช้วิธีคิดที่เข้าใจในปัญหาของงาน ผมว่าถ้าเราเข้าใจมัน เราจะไปแก้ที่ปัญหา ไม่ใช่การรุมด่าชุด การรุมด่าไม่ได้อะไร ผมอยากให้กองประกวดได้อ่านวิธีคิดของผม เอาไปใช้สร้างสรรค์งานออกแบบใหม่ เราจะได้ชุดที่ไปกี่ปีก็จะไม่ฆ่านางงามของเรา เป็นชุดที่ส่งเสริมนางงามให้โดดเด่น เพื่อการแข่งขันที่สร้างความสำเร็จจริงๆครับ

(อยากแก้ปัญหาอะไรในโลกใบนี้ ต้องแก้ที่รากของปัญหา คือวิธีการคิดที่เป็นแก่น ไม่ใช่เพียงวิจารณ์ที่ผลลัพธ์สำเร็จแล้วครับ)

// อยากวอนขอคนไทย อย่า bully ชุดของเธอจนเสียความมั่นใจไป นึกถึงใจคุณว่าถ้าต้องสวมใส่มัน ทำหน้าที่ประเทศ คงจิตตก ที่มีเสียงกระหน่ำด่า และขาดแรงเชียร์เธอ ให้กำลังใจกันมากๆนะครับ...คนไทยจ๋า

 

 

สวยงาม!!ทรงคุณค่า!! กับ Chang the icon of Siam เป็นชุดที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นชุดประจําชาติปีนี้

 

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
16 VOTES (4/5 จาก 4 คน)
VOTED: เก็บซิงไว้ชิงโชค, แสร์, vho, โดนแมวตบ
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ภาพสะท้อนความโหดร้ายของสงครามเวียดนาม: ปี 1973 ผ่านเลนส์กล้อง20 แคปชั่นวันพืชมงคล กวนๆ ฮาๆ เอาไว้โพสต์ลงรูปน่ารักๆ ในวันหยุดปิดฉากรัก 18 ปี "แม่สิตางศุ์" ร่ำไห้เลิกผัว ลั่นแช่งทุกวันขอให้ตๅยเร็วๆโซเชียลแห่แชร์ภาพอาหารญาติโยมใส่บาตร ถูกทิ้งถังขยะหน้าร้านรับซื้อของเก่า?เปิดภาพ"น้องเนย" เด็กถือปืนขู่ลิงที่ลพบุรีสรุปดราม่า "พีเค" หลังถอยกรูดสัมพันธ์นางแบบเหงียน"หนิง ปณิตา" ขี่ม้าขาวเตือนสติ "พีเค"น่าชื่นชม🙏🙏 “น้องโอ” เด็ก ม.4 ขายไข่เจียว เลี้ยงน้อง อีก 5 คน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สรุปดราม่า "พีเค" หลังถอยกรูดสัมพันธ์นางแบบเหงียนคนสิงคโปร์แนะนำใครที่จะไปเที่ยวเมเลเซียให้ติดป้าย "ห้ามขโมย" ไว้บนกระจกรถ ทำให้คนเมเลย์จำนวนมากไม่พอใจกับป้ายนี้"จังหวัดที่มีป่าไม้"มากที่สุดในประเทศไทย☺ ชวนเข้ามาดูสิ่งไม่คาดคิดที่ดูคล้ายกันอย่างน่าประหลาดใจ 😃น่าชื่นชม🙏🙏 “น้องโอ” เด็ก ม.4 ขายไข่เจียว เลี้ยงน้อง อีก 5 คน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ศัลยกรรม ความงาม แฟชั่น
อยากสิวหายไว ไม่ควรทำสิ่งเหล่านี้8 ท่าออกกำลังกาย ช่วยหน้าอกกระชับ4 วิธีลดกลิ่นตัวทำรากฟันเทียม แต่หน้ากลายเป็นสัตว์ประหลาด
ตั้งกระทู้ใหม่