หุบเขาแสงจันทร์ ตอนที่ 47 (เมืองคนบาป)
เสียงของหญิงสูงวัยเอะอะโวยวาย หล่อนละความสนใจจากตัวของนีลอเสียสิ้น สิ่งที่เกิดขึ้น ณ วินาทีนี้ เหมือนเป็นเรื่องใหญ่ หล่อนรีบตามสามีออกไปข้างนอก ขณะที่ไต๋กงเชาว์ตะโกนเรียกคนงานชายให้รีบไปตามจับเอาตัวผู้ที่แอบเข้ามาภายในบริเวณบ้านให้จงได้
แม้จะร่วงหล่นจากที่สูงไม่ทันตั้งตัว
แต่ความชำนาญของบูงอก็ทำให้หล่อนรู้วิธีกระแทกตัวลงพื้นได้อย่างดี หญิงสาวรีบลุกขึ้น เมื่อมองเห็นชายฉกรรจ์สองคนจากเรือนหลังใหญ่ กำลังวิ่งตรงมาที่หล่อนเพื่อหมายจับตัวเป็นแน่ บูงอรีบวิ่งไปตามทางเดิมยังเรือนหลังเล็กเหมือนที่ตอนเข้ามา..
หญิงสาวไม่มีเวลาคิดถึงสิ่งใด หล่อนรู้แต่เพียงว่าจะต้องรีบปีนขึ้นไปบนหลังคาของเรือนหลังเล็กที่อยู่ชิดติดขอบรั้วทางด้านหลัง แล้วกระโดดออกจากรั้วสีขาวสูงใหญ่นี้ให้ได้โดยเร็ว
เสียงตะโกนโหวกเหวกไล่หลัง ยิ่งทำให้หล่อนไม่คิดสิ่งใด นอกจากเร่งวิ่งและวิ่ง วินาทีนั้น ร่างของบูงอวิ่งไปกระแทกกับร่างของใครบางคนเต็มแรง จนร่างหญิงสูงวัยใครคนนั้นเกือบล้มคะมำ..
บูงอตระหนกกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่หล่อนไม่มีเวลาที่จะคิดอะไรนอกจากการหนี
หญิงสูงวัยที่เกือบเสียหลักล้มลงจากโดนกระแทก รีบเอาผ้าฮิญาบที่หลุดร่วงกลับมาปิดบังใบหน้าทันที วินาทีของเสี้ยวที่บูงอเหลียวหลังกลับไปมอง แม้หญิงสูงวัยคนนั้นจะอยู่ในชุดอาบายะห์เรียบร้อย แต่กิริยาทีท่าก็บ่งบอกถึงความเป็นคนไม่เต็มเต็ง
เสี้ยววินาที..ของสายตาชราที่จ้องมองออกมา
ผ่านผ้าฮิญาบปิดบังซ่อนเร้นใบหน้านั้น
มันคือความคุ้นเคยบางอย่าง ที่บูงอไม่ทันสังเกต..
“อีบ้า -ึงรีบกลับเข้าไปในเรือนเดี๋ยวนี้”
ชายฉกรรจ์ที่วิ่งตามไล่หลังบูงอมา ตะโกนใส่อย่างเห็นเป็นความผิดมหันต์ ที่หญิงสูงวัยออกมาเดินเผ่นผ่านข้างนอก เสียงแว่วๆตะโกนด่าหญิงสูงวัยของชายฉกรรจ์ทั้งสอง แม้จะสร้างความสงสัยนิดๆให้แก่บูงอ แต่หล่อนไม่มีเวลาจะคิด นอกจากเร่งวิ่งและวิ่ง หนีและหนี ให้รอดจากการถูกไล่ล่า
บูงอปีนป่ายขึ้นไปบนหลังคา
กระโดดออกนอกรั้วไปอย่างคล่องแคล่ว
แต่ชายฉกรรจ์ทั้งสอง ยังคงติดตามหล่อนไปไม่ลดละ
ปล่อยทิ้งหญิงชราสูงวัยในชุดอาบายะห์สีดำ
จ้องมองเหตุการณ์อย่างมึนงง..
แต่สักพักเมื่อไต๋กงเชาว์ที่ตามออกมาดูเหตุการณ์ พบเห็นหล่อนเข้า ความบ้าไม่สมประดีก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
“กูไม่รู้ กูไม่เห็น”
เสียงตะโกนโหวกเหวกของหญิงสูงวัย
ทำให้ไต๋กงเชาว์อารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาทันที
“-ึงกลับเข้าไปในเรือนพักของ-ึงเดี๋ยวนี้ ไปๆ”
ไม่เพียงแค่พูดไล่ แต่ไต๋กงเชาว์ทั้งผลักทั้งดันและดึงร่างของหล่อนให้กลับเข้าไปในเรือนอย่างเร่งรีบ เหมือนกลัวใครจะมาพบเห็นเข้าเสียก่อน แต่เสียงโวยวายไม่สมประดีของหญิงวัยชราก็ยังดังลั่น พอจะให้ได้ยินเข้าไปถึงที่เรือนหลังใหญ่
“นั่นมันเสียงของใครเหรอ”
ฮารีถามขึ้น ท่ามกลางความสงสัยของมอแกนทั้งสาม
“เออ..”
ทีท่าคุณสมศรีครุ่นคิดคำตอบอยู่นิดๆ “เออ.. ไม่มีอะไรหรอก อีเป็นผู้หญิงบ้า อั๊วกับผัวไปเจอเข้าที่ตลาดท่าเรือเมื่อหลายปีก่อง เห็นสงสารก็เลยพามาอยู่ล้วย แค่นั้งเอง”
คำตอบของคุณสมศรี ทำให้คนทั้งสามคลายความสงสัย วกกลับมาคิดเรื่องคนที่แอบเข้ามาในบริเวณบ้านแทน ภาพไหวๆที่มองเห็นจากทางหน้าต่าง ร่างไหวๆที่วิ่งหนีไปทางเรือนหลังเล็กตรงสุดริมรั้วด้านโน้น..
ไม่มีใครเห็นต่างเลยว่า ..คือร่างของผู้หญิง
“ป่านงี้ คงของอั๊วจะตามไอ้ผู้ร้ายนั้งทังหรือเปล่า อา..”
คุณสมศรีเปลี่ยนมาสนใจเรื่องราวตรงหน้าแทน ด้วยวุ่นวายในจิตใจอยู่มากว่า อีคนนั้นมันแอบเข้าในบริเวณบ้านของหล่อนทำไม แล้วนี้ถ้าคนของหล่อนไปตามจับอีคนนั้นมาไม่ได้ การจะรู้ความจริงก็คงยาก
และแม้จะยากเย็น..
แต่ชายฉกรรจ์ทั้งสองก็ยังคงวิ่งไล่ตามบูงออย่างไม่ลดละ แม้ความคล่องแคล่วของทั้งสองจะไม่ปราดเปรียวเหมือนยิปซีสาว แต่ความวุ่นวายตลอดเส้นทางที่บูงอมุ่งหนี ก็ทำให้พอตามกันทันอยู่บ้างในบางช่วง
บูงอบ่ายหน้าตรงไปยังชายหาด ที่เรือของหล่อนจอดรอท่าอยู่
เมื่อวิ่งตรงลิ่วมาถึงตรงทางแยกที่แสนจะวุ่นวายไปด้วยพ่อค้าแม่ค้าและคนเดินตลาด อุบัติเหตุก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อร่างบูงอไปกระแทกใส่หญิงสาวอีกคน
“เอะ”
เสียงอุทานแทนที่จะเป็นคำตกใจที่ถูกชนกระแทก กลับเป็นคำประหลาดใจแทน หญิงสาวในชุดเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ้องหญิงสาวที่มาชนหล่อนอย่างคุ้นตา
“นี่เธอ..”
คุณดุจเดือนเรียกหญิงสาว อย่างนึกไม่ถึงว่าเธอคนนี้ขึ้นมาทำธุระอะไรถึงที่นี่
บูงอหันขวับกลับไปมองเจ้าของเสียงที่บูงอไปชนกระแทกใส่.. ..
อ่านต่อในครั้งหน้า
หุบเขาแสงจันทร์ / นฤดม
สำนักพิมพ์บ้านทะเลล้อม 2008
ความเดิม ตอนที่ 46 https://board.postjung.com/1100258.html