หุบเขาแสงจันทร์ ตอนที่ 46 (เมืองคนบาป)
บูงอที่แอบดูอยู่ เหลียวหน้ามองหลังเมื่อเห็นว่าไม่มีใคร..
หล่อนจึงออกจากที่หลบซ่อนหลังต้นไม้สูงตระหง่านที่อยู่ถัดจากประตูรั้วในระยะสายตา บูงอก้าวเท้าเดินมาถึงหน้าประตูรั้วสีขาวอย่างระแวดระวัง ความไม่รู้และความสงสัยในหลายสิ่งหลายอย่างที่มีต่อคนทั้งสาม ทำให้หล่อนกวาดตามองหาช่องทาง ที่จะทำให้หล่อนมองเห็นสิ่งต่างๆที่อยู่ภายในรอบขอบรั้วสีขาวนั้น และก็มีเพียงช่องประตูเล็กๆที่หล่อนพอจะสอดสายตามองเข้าไปดูสิ่งที่อยู่ด้านหลังประตูและกำแพงสูงใหญ่
สายตาที่ส่องมอง ต้องเพ่งมากกว่าปกติ เพราะช่องประตูช่างแคบและเล็กเสียจริง ร่างไหวๆของชายสูงวัยที่คนทั้งสามกำลังยืนเจรจาด้วย คือไต๋กงเชาว์
ที่แท้ นี่มันคือบ้านของไต๋กงเชาว์หรอกหรือนี่.. ..
คำถามสับสนมากมายเกิดขึ้นในใจของบูงอ สองคนพี่น้องนี้มันพาอีนีลอมาพบไต๋กงเชาว์เพื่อการใด หาคนไปเป็นลูกเรือประมงหรือ ไม่น่าจะใช่ เด็กวัยแรกสาวอย่างนีลอ มันจะทำอะไรได้ แล้วนี่ซายอพี่ชายมันก็คงไม่รู้ ว่าน้องสาวนอกรีตของมันคนนี้ขึ้นมาบนฝั่งเมือง
ความอยากรู้อยากเห็นมากมาย ล้นใจเกินกว่าจะหยุดยั้ง
บูงอกวาดตามองหาช่องทางที่จะข้ามกำแพงรั้วสีขาวสูงใหญ่เข้าไปข้างในให้ได้ หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่าสองคนพี่น้องนั่น มันพานีลอมาหาไต๋กงเชาว์ทำไม ธุระกงการของมันคืออะไรกันแน่ แม้นีลอจะเป็นน้องสาวของผู้ชายคนที่มันไม่ชอบขี้หน้า แต่ความช่วยเหลือมนุษย์ระหว่างมนุษย์มันก็ต้องมีในสายเลือดของคนทุกคนอยู่แล้ว
บูงอก้าวเท้าเดินสำรวจทั่วขอบรอบรั้วสี่เหลี่ยมสูงใหญ่
และมันก็ทำให้หล่อนได้รู้ว่า อาณาบริเวณบ้านของไต๋กงเชาว์มันกว้างใหญ่ทีเดียว แต่แปลกนักทำไมมันช่างเงียบแสนเงียบ คนอย่างไต๋กงคงจะมีสิ่งที่เรียกว่าเงินตรามากพอ ที่จะว่าจ้างคนมาเฝ้าดูแล
แต่ทำไมกลับไม่มี..
ความเงียบเชียบ วิเวกวังเวง
ทำให้ความอยากรู้อยากเห็น ทวีเอ่อล้น
เมื่อก้าวเท้าเดินมาถึงขอบรั้วอีกฟากด้านหลัง สายตาของหญิงสาวกวาดไปเห็นหลังคาเรือนหลังเล็กๆปลูกอยู่เกือบชิดติดกับขอบรั้ว หล่อนตัดสินใจในวินาทีนั้น ปีนขอบรั้วสูงใหญ่และกระโดดข้ามไปยังหลังคาอย่างเงียบกริบ.. เหมือนใบไม้ร่วงหล่นกระทบพื้นดิน
บูงอนึกระแวงระวังอยู่ว่า..
ภายใต้หลังคาเรือนหลังนี้มีคนอาศัยอยู่หรือไม่ หล่อนค่อยๆถ่ายตัวไปเหยียบกิ่งก้านของโพธิ์ต้นใหญ่ที่ปลูกอยู่ข้างๆเรือนอย่างชำนาญ และไม่นานนักก็ก้าวลงมาสู่พื้นดินเบื้องล่างอีกครั้ง
บูงอไม่ยอมเสียเวลาไปแม้เพียงวินาที หล่อนค่อยๆคลานๆย่องๆไปรอบๆตัวเรือน ขณะสายตานั้นพยายามสอดส่ายตามช่องประตูหน้าต่าง เพื่อต้องการรู้ว่ามีคนอาศัยอยู่ภายในหรือไม่ เพราะหล่อนต้องวกกลับมายังที่ทางตรงนี้ เพื่อปีนกลับออกไปอีกครั้ง
สภาพภายในเรือนที่มองผ่านช่องลอดเล็กๆตรงหน้าต่าง ทำให้พอคะเนได้ว่าน่าจะมีคนอาศัยอยู่ เพราะมีเครื่องใช้ไม้สอย มีเสื้อผ้าวางพาดเกะกะอยู่ในนั้น แต่ตอนนี้พอมองจนทั่ว คนที่อาศัยในเรือนคงออกไปทำอะไรข้างนอกเป็นแน่ จึงปล่อยทิ้งให้เรือนร้างไร้สรรพเสียง
บูงอบอกย้ำแก่ใจ โชคคงเข้าข้างหล่อน ฉะนั้นจะรอช้าอยู่ใยรีบไปสืบความที่อยากรู้ก่อนดีกว่า หล่อนต้องรีบทำเวลา วกกลับมาใช้เส้นทางนี้กลับออกไป และต้องก่อนคนพักอาศัยในเรือนหลังนี้จะกลับมา
บูงอรีบไปที่เรือนหลังใหญ่ของไต๋กงเชาว์ แต่ทางที่จะเข้าไปใกล้เรือนไม่ง่ายนัก เพราะเริ่มเห็นมีผู้คนเดินเข้าๆออกๆเรือน บูงอระแวดระวังตัว และสุดท้ายหล่อนก็เข้ามาถึงต้นไม้สูงเด่นที่ใกล้ตัวเรือนหลังใหญ่จนได้
หล่อนหลบตัวอยู่หลังต้นไม้สูงใหญ่ มองหาวิธีเพื่อให้เห็นการเคลื่อนไหวของคนทั้งสามที่กำลังอยู่ภายในเรือนให้ได้ มันเรื่องอะไรกันดอกหรือ ที่มันสามคนด้นดั้นจากเกาะแสงจันทร์มาถึงบนฝั่งทางนี้
บานหน้าต่างสีชมพูเก่าๆที่เปิดกว้าง แต่มันก็ยังอยู่ในระดับเหนือสายตาของหล่อน ทางเดียวที่จะมองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นภายในเรือน ต้องปีนต้นไม้นี้ขึ้นไป แล้วหล่อนก็เลือกทำตามนั้นอย่างว่องไว และมันก็ไม่ผิดไปจากที่คาดเดา หล่อนสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวผ่านทางบานหน้าต่างอย่างชัดเจน
“ขอบใจมากนะอาฮารี เพื่อนลื้อคนนี้มันเหมาะดีจริงๆ”
หญิงชาวจีนสูงวัยเมียไต๋กงเชาว์ จ้องมองนีลอตาไม่กระพริบตาเลยสักนิด
รูปร่างหน้าตาคมเข้มแบบของนีลอ มันดีนักเหมาะนัก แม้ผิวพรรณจะไม่ได้ขาวสะอาดเหมือนคนฝั่งเมืองก็เถอะ ขัดสีฉวีวรรณสักหน่อย ก็คงได้ราคาไม่น้อย
“ลื้ออยากมาทำงานบนฝั่งเมืองนี้ไหมอานีลอ”
คุณสมศรีถามถึงสิ่งที่ต้องการไม่รอช้า
..แต่ไม่ทันที่นีลอจะได้ตอบคำ
เสียงกิ่งไม้หักร่วงหล่นลงพื้นดินก็ดังสนั่นโครมใหญ่ ตามด้วยเสียงร้องของคนที่ร่วงหล่นลงมาพร้อมกิ่งไม้นั่น ทุกคนในบ้านหันมองออกไปนอกหน้าต่างตามที่มาของเสียง ไม่ทันพ้นวินาทีเสียงคุณสมศรีก็ดังลั่น
“อาหย่า มีคนแอบเข้ามาในบ้าน”
อ่านต่อในครั้งหน้า
หุบเขาแสงจันทร์ / นฤดม
สำนักพิมพ์บ้านทะเลล้อม 2008
ความเดิม ตอนที่ 45 https://board.postjung.com/1096403.html