หุบเขาแสงจันทร์ ตอนที่ 37 (เพชรมรณะ)
เสียงเร่งรีบก้าวฝีเท้าของพ่อใหญ่บันลือและลูกน้องหยุดชะงัก แวบแรกที่ทั้งสองหันหลังกลับไปมอง มีเพียงความว่างเปล่าตรงหน้า แต่ชั่ววินาทีร่างของซายอก็ค่อยๆก้าวออกมาจากพุ่มไม้ใหญ่ข้างทาง สายตาของมอแกนวัยหนุ่มจ้องมองคนฝั่งเมืองทั้งสอง อย่างคนโกรธแค้นกันมาสิบชาติ
“จัดการมัน”
พ่อใหญ่บันลือออกคำสั่งทันทีเมื่อปะหน้า ไม่รีรอแม้วินาที
ชายฉกรรจ์ฝั่งเมืองกระโดดง้างดาบจะฟันเข้ากลางศีรษะมอแกนหนุ่ม แต่คนชำนาญการอาวุธว่องไวดั่งพายุอย่างซายอ ก็กระชากดาบที่เหน็บเอวออกมารับปะดาบศัตรูนั้นได้ทัน
เสียงปะดาบหมายเอาชีวิตกันและกัน
บรรเลงขึ้นอีกครั้ง นานหลายนาที
จนวินาทีแห่งความตายของฝ่ายหนึ่งมาถึง
เมื่อซายอได้จังหวะกระโดดค่อมร่างชายฉกรรจ์ และใช้ดาบแทงเข้าที่กลางหน้าอกของร่างนั้นเต็มแรง วินาทีที่พ่อใหญ่บันลือคิดว่าเป็นจังหวะของตัว พ่อใหญ่บันลือรีบกระโดดง้างดาบของตน ตั้งใจมั่นฟันเข้าที่กลางหลังคอของซายอ
แม้ร่างของซายอจะยังนั่งค่อมและหันหลังให้ แต่เสี้ยววินาทีที่รับรู้ ซายอก็รีบกระชากมีดสั้นเหน็บไว้ที่เอวอีกข้าง หันไปปะหน้า พร้อมเหวี่ยงมีดสั้นด้ามนั้นใส่กลางหน้าอกของพ่อใหญ่บันลือเต็มสุดแรง
วินาทีที่ดาบของพ่อใหญ่บันลือ
จวนจะถึงกลางหลังคอของซายอหยุดชะงัก
ร่างของพ่อใหญ่ ค่อยๆทรุดลงที่พื้นดิน
และค่อยๆหมดลมหายใจ ตามลูกน้องคนสำคัญไปอีกคน..
เลือดของศัตรู..เปรอะเนื้อตัวและผ้าผ่อนของซายออยู่บ้าง หากแต่มอแกนหนุ่มไม่ได้ใส่ใจ เมื่อดูจนแน่แล้วว่าคนทั้งสองสิ้นชีวิต ซายอก็รีบดึงดาบออกจากร่างของศัตรู เช็ดรอยเลือดที่ดาบทั้งสองเล่มและเก็บเหน็บไว้ที่เอวตามเดิม จากนั้นร่างอันว่องไวก็หายวับจากที่ตรงนั้น มุ่งตรงไปที่หน้าชายหาด หมายมั่นจะตามไปจัดการกับพวกคนฝั่งที่เหลือ
ไม่มีใครรู้หรอกว่า ความจริงต่อจากนี้เป็นเช่นไร
เพราะนับจากเรือก่าบางของซายอ
เร่งเครื่องยนต์ออกจากหน้าชายหาดไป
เหตุการณ์ต่างๆในเวลาชั่วข้ามวัน
ก็ไม่อาจปะติดปะต่อให้เป็นภาพสมบูรณ์ได้เลยจนถึงคืนนี้.. ..
บูงอค่อยๆเงยหน้าขึ้น และหันไปจ้องมองหน้าผาเพชรอีกครั้ง แสงสะท้อนงามของเพชรดิบที่ต้องสะท้อนกับแสงจันทร์ ยิ่งทำให้หญิงสาวร้าวรอนไปทั้งใจ จะอีกนานไหม ภาพร้ายๆเมื่อครั้งนั้นจะชัดเจนขึ้น มันจะได้เลิกกัดกินแรงกำลังแห่งชีวิตของหล่อน..ไปเสียที
บูงอจำได้ว่าหล่อนไม่ได้พบเจอซานัมอีกเลย หลังจากหล่อนวิ่งหนีการถูกตามฆ่าจากพวกของพ่อใหญ่บันลือ และปล่อยทิ้งซานัมให้อยู่ต่อสู้กับคนพวกนั้นเพียงลำพัง หล่อนไม่รู้หรอกว่าจนถึงทุกวันนี้ ซานัมยังอยู่หรือตายจากหล่อนไปแล้ว
บางชีวิต..ที่เกี่ยวข้องกับหน้าผาเพชรในอดีตคราวนั้น จบลงด้วยความตาย หากแต่บางชีวิตที่เกี่ยวข้อง และยังคงมีลมหายใจอยู่จนถึงนาทีนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายแล้วทั้งเป็น
ทั้งหล่อน ซายอ รวมถึงบูแล
ทั้งสามคน ยังฝังใจลึกอยู่กับอดีตที่ไม่ชัดเจน
เรือก่าบางของซายอ กลับคืนสู่ชายหาดหน้าเกาะในยามดึกมากแล้ว จากการถามไถ่เอาความจากซายอโดยป้าบูแลในคืนนั้น ได้ความเพียงว่าสมุนที่เรือนบนฝั่งทางโน้นของพ่อใหญ่บันลือถูกฆ่าตายทั้งหมด ก่อนที่ซายอจะตามไปถึง หากที่แปลกอยู่บ้าง คนที่เสียชีวิตบนเรือนนั้นมีศพพ่อของซานัมรวมอยู่ด้วย
แม้จากการถามไถ่เอาความจากซายอโดยบูงอในอีกรุ่งเช้าถัดมา ความที่ได้ก็ยังคลุมเครือเช่นเดิม..
“ตกลง-ึงเจอซานัมหรือไม่”
บูงอคาดคั้นเอาความ เมื่อหล่อนแน่แก่ใจแล้วว่าคนรักของหล่อนไม่ได้ฆ่าพ่อใหญ่มาดีนะ แต่เขาคนที่หล่อนกำลังคาดเค้นเอาความ ยังเชื่อมั่นในสิ่งที่ประจักษ์เดิม
ซายอยังคงจ้องหน้าบูงอด้วยความเคืองแค้น ที่ไม่มีวันจางลงได้เลย
“ถ้ากูเจอมัน กูก็จะเอาศพมันมาฝาก-ึงแทน”
“แต่ซานัมมันไม่ได้ฆ่าพ่อ-ึงนะ พ่อใหญ่บันลือเป็นคนฆ่า”
บูงอก็เล่าความจริงได้เพียงเท่านี้ ในเมื่อหล่อนไม่มีหลักฐานใดๆ นอกจากคำบอกเล่าของซานัม และคำทะเลาะต่อกันของซานัมกับพ่อใหญ่บันลือที่หล่อนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย
“แค่ลมปากของ-ึง กูจะเชื่อได้ยังไง ในเมื่อ-ึงเป็นคนรักของมัน”
ซายอนึกคิด มองหญิงสาวตรงหน้าอย่างนึกสมเพช
หากแต่หญิงสาวคนตรงหน้า ก็ไม่อาจเอ่ยวาจาใดๆ ได้มากไปกว่านี้อีกเลย
แม้เวลาผ่านพ้น นานวัน นานเดือน นานปี
ปริศนาคาใจก็ยังคงค้างคาอยู่แบบนั้น
โดยเฉพาะหญิงสาวอย่างบูงอ
มันไม่อาจลบล้างจากใจได้เลยแม้เพียงสักวัน
แม้กระทั่งคืนนี้ ที่พระจันทร์ทอแสงเต็มดวงอีกครั้ง
บูงอค่อยๆเงยหน้าขึ้น จ้องมองประกายเพชรที่เกาะติดอยู่ทั่วแผ่นผาสูงใหญ่ แสงประกายที่สะท้อนจากแสงจันทร์ ดูเบาบางเย็นตา แต่ความเจ็บร้าวในใจก็ยังเจ็บลึกเหมือนเคย
“จนล่วงมาหกปีแล้ว -ึงยังไม่ลืมมันอีกหรือ อีบูงอ”
เสียงคุ้นแสนคุ้นของใครคนหนึ่งดังขึ้น..จากทางด้านหลังของบูงอ หญิงสาวตะลึงงัน รีบหันหน้าไปมองเจ้าของเสียงอย่างนึกไม่ถึง อย่างที่ต่างคนต่างไม่คิดว่าจะได้มาพบเจอกัน ณ ที่แห่งนี้อีก
อ่านต่อในครั้งหน้า
หุบเขาแสงจันทร์ / นฤดม
สำนักพิมพ์บ้านทะเลล้อม 2008
ความเดิม ตอนที่ 36 https://board.postjung.com/1088477.html