ภาษีบาป คืออะไร
นพ.พลเดชปิ่นประทีปรองกรรมาธิการวิสามัญการมีส่วนร่วมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนสภาปฏิรูปแห่งชาติได้ให้สัมภาษณ์กับนายนิมิตสิทธิไตรย์สปช.อุบลราชธานีในรายการทุกคำถามมีคำตอบถึงกรณีของภาษีบาปว่าภาษีบาปคือมันเป็นคำที่แปลมาจากภาษาอังกฤษที่เรียกว่า (Sin tax)โดยการมีแนวคิดของการในเรื่องนำภาษีซึ่งเป็นเรื่องของสินค้าและบริการที่อาจจะมีผลกระทบต่อสังคมต่อสุขภาพคือสินค้าและบริการบางอย่างเช่นบุหรี่เหล้าการพนันต่างๆทั้งหลายอาจจะเป็นการบริการสินค้าหรือบริการที่สังคมนั้นเป็นค่านิยมของสังคมเป็นพฤติกรรมบางอย่างของสังคมที่ยังไม่สามารถที่จะเลิกไปได้เช่นจะไปห้ามทุกคนไม่ให้กินเหล้าหรือไม่ให้สูบบุหรี่นั้นมันห้ามไม่ได้ดังนั้นเมื่อมีสิ่งค้าและบริการในเชิงที่อาจจะเป็นผลกระทบในทางศีลธรรมในทางสุขภาพนั้นต่อประชาชนหรือต่อผู้เสพหรือผู้บริการกิจการนั้นก็ควรจะเอาภาษีควรจะเก็บภาษีโดยใช้มาตรการทางภาษี 2 นัยนัย 1 นั้นก็คือว่าการเพิ่มภาษีให้กับสินค้าและบริการเหล่านี้นั้นก็จะเป็นการสร้างกำแพงเพื่อไม่ให้คนที่มีรายได้น้อยหรือว่ามีความจำเป็นต้องใช้เงินใช้ทองในเรื่องอื่นนั้นจะได้ไม่ต้องตะเกียกตะกายที่จะมาซื้อบริการหรือซื้อสินค้าที่มันทำลายสุขภาพเป็นกำแพง
เพราะฉะนั้นถ้าราคาเสียภาษีมากราคาสินค้าและบริการนั้นก็จะมากด้วยก็จะทำให้คนยากจนคนที่มีรายได้น้อยอยู่แล้วนั้นก็ไม่เข้ามาใช้บริการใช้หรือซื้อสินค้าเหล่านี้ก็จะเป็นผลดีต่อตัวเขาเองดังนั้นก็จะทำให้พฤติกรรมการเสพการติดนั้นก็จะลดลงไปอันนี้ก็จะเป็นมาตรการที่ในหลายประเทศที่พัฒนาแล้วเขาก็สามารถใช้มาตรการทางภาษีเป็นการเพิ่มราคาสินค้าขึ้นก็จะทำให้คนสูบบุหรี่น้อยลงกินเหล้าน้อยลงหรือว่ามีพฤติกรรมทางอบายมุขลดลง
ในแง่มุมที่สองนั้นก็เอาเงินจากภาษีนั้นจากภาษีบริการและสินค้าเหล่านี้นั้นเอามาใช้เพื่อประโยชน์ต่อสังคมเพื่อกลับคืนไปสู่สังคมไปดูแลเรื่องสุขภาพไปดูแลเรื่องรณรงค์สร้างทัศนคติความรู้ความเข้าใจในเรื่องของสุขภาพในเรื่องของบุหรี่พิษภัยของบุหรี่เหล้าต่างๆการพนันต่างๆทั้งหลายอันนี้ก็มีอยู่สองนัยอย่างนี้นะครับ
สำหรับในประเทศไทยเราก็ได้ศึกษาสิ่งเหล่านี้จะต่างประเทศได้มานานจากอังกฤษจากออสเตรเลียจากอเมริกาจากแคนนาดานะครับจากตรงนี้เราก็เริ่มเอาภาษีบาปมาใช้ประโยชน์เป็นครั้งแรกเมื่อเกิดสสส.ขึ้นเพื่อเอาภาษีจากเหล้าและบุหรี่ในประเด็นสมมุติว่าในการเก็บภาษีเหล้าและบุหรี่นั้น 100 บาท 100 บาทนั้นก็เข้าไปสู่ระบบงบประมาณของรัฐก็เก็บภาษีก็เข้าไปสู่การคลังกระทรวงการคลังของรัฐเก็บจากนั้นก็มีภาษีของสสส.ขึ้นมาก็เพิ่มขึ้นจากเก็บภาษี 100 บาทก็เพิ่มขึ้นมา 2 บาท (เพิ่มมาอีก 2% ) ก็เป็น 100+2 ใน 2 เปอร์เซ็นที่บวกเพิ่มขึ้นนั้นก็เข้าสู่กองทุนของสสส.เลยเพราะฉะนั้นรัฐก็ยังได้เงิน 100 บาทเท่าเดิมไม่ได้ไปแบ่งให้กับกองทุนแต่จะใช้วิธีการบวกเพิ่มและส่วนที่บวกเพิ่มนั้นก็จะมาเข้ากองทุนเพื่อเอาไปรณรงค์สร้างเสริมสุขภาพลดในพฤติกรรมกรรมเสี่ยงต่างๆทั้งหลาย
ต่อมาก็มีช่วงของรัฐบาลของคมช.ในยุคของท่านสุรยุทธ์จุลานนท์เป็นนายกรัฐมนตรีก็มีสสส.ในยุคนั้นรัฐบาลในยุคนั้นก็ออกกฎหมายอีกอันหนึ่งตั้งสถานีวิทยุไทยพีบีเอสไทยพีบีเอสก็บวกเพิ่มไปอีก1.5% เพื่อเข้าสู่ให้ไทยพีบีเอสและล่าสุดนั้นมีการตั้งกองทุนกีฬาในยุคนี้ที่สนช.พึ่งผ่านกฎหมายไปนั้นก็เพิ่มไปอีก 2% เพิ่มเข้ากองสนับสนุนทุนกีฬาดังนั้นภาษีเหล้าบุหรี่ที่เป็นภาษีบาปนั้นที่มาจากฐานเหล้าและบุหรี่ในขณะนี้นั้นเก็บ100 บาทบวกกับ 2 บาทบวกกับอีก 1.5 บาทบวกกับอีก 2 บาทก็เป็นอย่างนี้และครับภาษีบาป
สรุปแล้วภาษีบาปคือภาษีที่เก็บจากตัวอย่างง่ายๆคือภาษีบุหรี่เหล้าและก็เป็นภาษีส่วนเพิ่มและก็ส่วนที่นำภาษีนี้ไปใช้ประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนก็มีทั้งสสส. ไทยพีบีเอสและก็กองทุนสนับสนุนกีฬา