นี่คือเหตุผล!! 'คดีแตงโม นิดา' เป็นไปได้ยาก การขอเปลี่ยนข้อหา จากประมาท เป็น ฆ่าอำพราง
ต้องเกริ่นนำ เรื่องการ 'รื้อคดี' ตามที่สื่อลงข่าวในคดีแตงโมนิดา มาตลอด ในช่วงที่ผ่าน ตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ 2526 กล่าวไว้ว่า “คดีใดที่ตัดสินให้บุคคลรับโทษไปแล้ว อาจมีการร้องขอให้รื้อฟื้นคดีขึ้นพิจารณาใหม่” เมื่อมีเหตุดังต่อไปนี้
1. เมื่อพยานในคดีเบิกความเท็จ
2. เมื่อพยานเอกสารหรือวัตถุพยานที่ใช้ในคดีเป็นของปลอมหรือเป็นเท็จ
3. เมื่อมีพยานหลักฐานใหม่
ผู้มีสิทธิและมีอำนาจยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ ได้แก่
-บุคคลที่ต้องรับโทษอาญาโดยคำพิพากษาถึงที่สุด
-ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือ ผู้อนุบาลของบุคคลผู้ต้องรับโทษอาญาโดยคำพิพากษาถึงที่สุดนั้น
-ผู้จัดการ หรือ ผู้แทนอื่นของนิติบุคคลกรณีผู้ต้องรับโทษอาญา
-ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน สามีหรือภริยาของบุคคลผู้ต้องรับโทษอาญาใน กรณีที่บุคคลนั้นถึงแก่ความตายก่อนที่จะมีการยื่นคำร้อง
พนักงานอัยการ ในกรณีที่พนักงานอัยการมิได้เป็นโจทก์ในคดีเดิม
นั่นก็หมายความว่า ผู้มีสิทธิและมีอำนาจยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ ตามระบบยุติธรรม คือ บุคคลที่ต้องรับโทษอาญา เท่านั้น ไม่ได้เอื้อให้ฝ่ายโจทย์
จากรายการ 'คุยข้ามช็อต | ไขปม คดีแตงโม สะท้อนระบบยุติธรรมไทย' พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ดร.น้ำแท้ มีบุญสล้าง อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ เผยเอาไว้ได้กระจ่าง กับการขอเปลี่ยนข้อหา จากประมาท เป็น ฆ่าอำพราง และ การขอรื้อฟื้นคดี โดยมีเนื้อหาว่า ....
1. การขอเปลี่ยนข้อหา จากประมาท เป็น ฆ่าอำพราง นั้นเป็นไปได้ยาก เพราะไม่มีหลักฐานแห่งการฆ่า แตงโม เช่น กล้องวงจรปิดคนกำลังฆ่า,มีดเปื้อนเลือด ,กองเลือด ฯลฯ
2. การขอเปลี่ยนข้อหา จากประมาท เป็น ฆ่าอำพราง เป็นไปได้ยาก เพราะคดีหลักแตงโม ขณะนี้ เหลือแค่ไต่สวนพยานปากสุดท้าย 29 ม.ค. 2568 หรืออีกแค่ 5 วัน ซึ่งหลังจากนั้นจะมีการพิพากษาคดีขึ้นแล้ว ซึ่งการขอเปลี่ยนข้อหา จะต้องทำโดย อัยการ หรือ คุณแม่ ซึ่งอัจฉริยะไปยื่นทางอัยการ และจะต้องมีการเปลี่ยนข้อหาก่อนคดีสิ้นสุด (ซึ่งคดีจะสิ้นสุดในไม่ช้านี้แล้ว)
3.การขอเปลี่ยนข้อหา จากประมาท เป็น ฆ่าอำพราง เป็นไปได้ยาก เพราะการตั้งคดี จากประมาท และการสู้คดี เป็นในแนวทางของคดีประมาทมาตลอด หากเปลี่ยนแปลงข้อหาตอนนี้ ไม่เป็นธรรมต่อจำเลย ซึ่งกฎหมายไทย ให้ประโยชน์ต่อจำเลยมากกว่า
4. การขอเปลี่ยนข้อหา จากประมาท เป็น ฆ่าอำพราง เป็นไปได้ยาก ที่จะขอเปลี่ยนแปลงโทษ ตาม มาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ 2526 ตามที่กล่าวข้างต้น เพราะที่ผ่านมา กฎหมายฉบับนี้ มีไว้เพื่อให้จำเลย (ที่มีการตัดสินสิ้นสุดแล้ว) ในการยื่นขอรื้อฟื้นคดีมากกว่า และที่ผ่านมา
แม้มีการยื่นขอรื้อฟื้นคดี แต่ไม่เคยมีคำตัดสินแม้แต่ครั้งเดียว ให้รื้อคดี เนื่องจากอาจสร้างความวุ่นวาย จาก กระบวนการสอบสวนคดี ที่จะมีความผิดไล่หลังตามมามากมาย การรื้อฟื้นคดี มักมีผลกระทบต่อครอบครัว และญาติ เช่น ผลกระทบทางจิตใจ และชื่อเสียง ซึ่งอาจนับไปอีก 100 ปี
5. กรณีนี้ ทางDSI ทำได้เพียง สืบสวนการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่ หรือ ม. 157 กรณีคำร้องมีการบิดเบือนคดีเพื่อเอื้อประโยชน์จำเลย และหากมีมูล ก็ส่ง ป.ป.ช. ซึ่งกรณีนี้ เป็นไปได้มากกว่า เพราะไม่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงคดีหลัก

















