รีวิวมหากาพย์2017รวมสบู่สมุนไพร(ของคนไทย)ยอดฮิตราคาไม่เกิน 99บาทไม่สิวแต่เน้นขาวใสและชุ่มชื้น
สวัสดีค่าาาาา เพื่อน วันนี้สาวชาวบ้านนนน จะมาลองใช้สบู่ไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลกกันค่ะ ตอนนี้ มีหลากหลายสบู่อินเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น soft bath จากอังกฤษยี่ห้อไรน้าจำไม่ได้ ฟิวบับเบิ้ลๆหน่อยน่าลองนะคะ แต่บ้านไม่มีอ่างชะกุชชี่ ก็เลยไว้ก่อนดีกว่า!!
และวันนี้กระทู้นี้เป้จะมารีวิวสบู่กู้ชาติ หรือง่ายๆจะเรียกว่าสบู่ Otop Thai เป้ขอเรียกแบบนี้นะคะ ที่ราคาไม่เกิน 99 บาท มารีวิวให้เพื่อนๆดูกัน ว่าแต่ละตัวจะเป็นอย่างไร ซึ่งทั้งที่เป้จะทำคือ 7 ตัวกันไปเลยจ้า ได้แก่
1.สบู่เบ็นเน็ท สูตรสีส้ม
2.สบู่ก๊กเลี้ยง
3.สบู่มะขามอิงอร
4.สบู่สมุนไพรก้อนสีขาวกลม
5.สบู่เมอรี่เบล
6.สบู่ขิง ตราเจดีย์
7.สบู่ขิง Lucky Nature
ซึ่งไม่ได้มารีวิวแค่สบู่อย่างเดียว เป้จะทำให้ดูด้วย ว่าค่า PH ของสบู่แต่ละตัวมีความชุ่มชื่นเป็นกรดเป็นด่างอย่างไร ให้กับผิวด้วยค่าท่านผู้ชมมมม และก็อย่าดราม่าเรื่องการเทสนะคะ เราก็มีศึกษามาบ้างว่าสบู่แต่ละตัวมันมีค่าวัดยังไง แต่ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญโดยตรงนะคะ แค่บอกว่าแต่ละตัวมีผลยังไงกับผิวเราจ้า มาคำอธิบายพอสังเขปจ้า
- ค่า PH balance 5.5-6.0 ในที่นี้หมายถึงค่าความเป็นกลางที่สมดุลระหว่าง ค่ากรดและค่าด่าง โดยความเหมาะสมของค่ากรดด่างในวัตถุแต่ละประเภทนั้น จะขึ้นอยู่กับการใช้งานด้วย
- สบู่ หากมีค่าด่างสูง หมายถึงประสิทธิภาพในการชำระล้างสูง ยกตัวอย่าง สบู่เด็กที่มักบอกว่าค่า PH5.5 ซึ่งเป็นค่า balance เหมาะกับเด็กเพราะเด็กไม่มี makeup บนผิว จึงไม่ต้องการการชำระล้างที่ล้ำลึกมากนัก
- หากสบู่มีค่าด่างน้อย (ค่า PH ต่ำ) ก็ส่งผลต่อการชำระล้างที่ไม่สะอาดเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผุ้มีผิวหน้ามัน
- เชื้อสิวโตดีในด่าง ด่างเยอะ (ค่า PH สูง) ทำให้เชื้อจุลินทรีโตดีขึ้น ทำให้สิวเติบโตได้ดีขึ้น
- แต่หากค่า PH สูงกว่าผิวหนังมากเกินไป อาจส่งผลต่อการระคายเคืองในผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย
อุปกรณ์ที่ใช้ก็ตามรูปภาพด้านล่างเลยค่ะ
1.ช้อน 7 คัน สำหรับใส่น้ำสบู่ 7 ชนิด
2.ตัวทำละลาย สิ่งที่วัดค่ากรด ด่าง โดยจะมีค่าชี้วัดระบุไว้ที่ข้างขวด
เริ่มจากตัวแรก สบู่เบ็นเน็ท สูตรสีส้ม ที่แม่บุ๋มปนัดดา เชียร์ว่าอะดีก็ว่าดี เพราะมี C&E ประโยคติดหู เริ่มจากเทสค่ากรด ด่างกันก่อนเลยย ถ่ายภาพไม่ค่อยสวยมาก ถ่ายจากมือถือค่ะ ><*
สีส้ม หลายคนเคยเห็นบ่อยๆตาม7-11ส่วนตัวก็ชอบเลยล่ะ หอมติดตัวดี ใช้ยันล้างหน้าเลยค่ะ ถูจบครบดี แต่พอได้ลองหยดดู น้ำสบู่ที่ได้จากสบู่สบู่เบ็นเน็ท สูตรสีส้ม มีสีม่วง ซึ่งหากสังเกตจากตาเปล่าแล้ว ค่าด่างของสบู่ตัวนี้น่าจะอยู่ที่ ค่า PH 6.8 ดูจากสี อยู่ระหว่างสีนี้เนาะ รักษาชั้นผิวปานกลาง
ต่อมาในส่วนการทำความสะอาด อาบน้ำกันค่ะ อย่างที่รู้พออาบแล้วผิวตึงเชียวล่ะ ฟองเยอะล้างออกง่ายแบบไม่มีความลื่นบนตัว อาบเสร็จกลิ่นติดตัวดีเลยล่ะ หอมดี แต่ !!! ผิวออกไปทางแห้งมากกว่า หลังจากอาบเสร็จ ต้องทาครีมเพิ่มล่ะ
ขออนุญาตถ่ายแผ่นหลังนะคะ ^^ จริงๆ หลังใช้ มันก็ขาวขึ้นจริงๆนะ ผิวใสดีแต่แห้งไม่ค่อยชุ่มชื่นเท่าไหร่ต้องทาครีมเพิ่มมนะจ๊ะสาวๆ ไม่งั้นจะตึงเกินนน คิดว่าสำหรับสาวผิวแห้งจะไม่ค่อยเหมาะกับสูตรนี้เท่าไหร่
อ่ะต่อมา การอยู่ด้วยกันนานมั้ย 555555 คิดว่าทุกคนก็น่จะรู้เหมือนกันว่ามันละเหย ละลายเร็วมากกกกกกกกกกกก กอ ไก่ ล้านตัว อันนี้จริงๆ ขนาดถูเสร็จเอาไว้ที่แห้ง มันก็ละลายเร็วอยู่ อ่ะเต็มที่เลย อาทิตย์กว่าๆ ถ้าให้ประหยัด ตัดแบ่งทีละครึ่งดีกว่าจ้า
สรุปโดยรวมๆค่ะ
1.ไม่ได้ทำให้สิวหาย เน้นเรื่องทำความสะอาดมากกว่า
2.ความกระจ่างใสและเรียบเนียนทำได้ค่อนข้างดีค่ะ
3.เรื่องของกลิ่น หอมค่ะ ออกฟิวน้ำหอมมากกว่าธรรมชาติ
4.ละลายเร็วมากก ควรตัดแบ่งใช้ดีกว่า
มาต่อกันตัวที่ 2 กับสบู่ก๊กเลี้ยงหม่อมแม่ท่านจัดมาให้ค่ะ นางคงไปจัดมาแล้วก็เผื่อแผ่ให้เรา เริ่มทดสอบรีวิวกันเหมือนเดิมเลยจ้า เริ่มจากหยดค่าวัด PH ของสบู่
น้ำสบู่ที่ได้จากสบู่ก๊กเลี้ยงก็ยังคงมีสีม่วงค่อนไปทางเข้มนะคะ ซึ่งหากสังเกตจากตาเปล่าแล้ว ค่าด่างของสบู่ตัวนี้น่าจะอยู่ที่ ค่า มากกว่าแถบวัด
มาสู่ขั้นตอนการอาบน้ำกันค่า ซึ่งชื่อก็บอกที่มาเลยนะคะ ว่ามีส่วนผสมจากสมุนไพรจีนแน่นวลลล เห็นแม่บอกว่าซื้อมาจาก Top หรืออะไรเนี่ยแหละ สบู่ก้อนสีเหลืองนวล กลิ่นออกคล้ายๆสมุนไพรจีนค่ะ คล้ายยาจีนประมาณนี้อ่ะค่ะ ก้อนจะเป็นรูปทรงมาตรฐานของสบู่นะคะ ที่เราๆคุ้นเคยค่ะ ฟองก็ไม่ค่อยเยอะค่ะ ต้องถูๆ บิวท์สักพัก ฟิวแบบสบู่ไม่มีฟองอะไรประมาณนั้น
ต่อมา ดูก่อนและหลังใช้ 2 สัปดาห์ สบู่ก๊กเลี้ยงนะคะ ตัวสบู่เล็กถือถนัดมือค่ะ โอเคเลย แต่สีนั้นหายไปเร็วมาก แปปเดียวสีเหลืองของสบู่เปลี่ยนเป็นสีขาวเลยอ่ะ งงเด้ งงเด้
มาดูสรุปโดยรวมกันจ้า
1.เหมือนสิวจะเพิ่มขึ้นเลยค่ะ T_T มีผดแซมมาด้วยเป็นหย่อมๆ กลิ่นจะออกแรงนิดหน่อยนะคะ ตามสไตล์สมุนไพรจีนค่ะ
2.เน้นทำความสะอาดมากกว่า ผิวคงสภาพตึงปกติหลังจากอาบน้ำ
3.ขาวขึ้น ยังไม่เท่าไหร่
ละลายเร็ว / ไม่ค่อยมีฟอง
ตัวที่ 3 ชวนกินมะขาม ไม่น่าใช่ มาสบู่กันต่อ สบู่มะขามอิงอร ชื่อไทยแท้ๆ Otop เชียวล่ะ
มาหยดค่าวัดน้ำสบู่ที่ได้จากสบู่มะขามอิงอร ได้เป็นสีม่วงเข้มค่ะ ซึ่งค่าด่างนี้จึงน่าจะอยู่ที่มากกว่าแถบวัดเข้มสุดเลยย
เนื้อสัมผัสสบู่มีสครับปนด้วยค่ะ ซึ่งตอนใช้ไปเนี่ยมันแอบบาดผิวนิดนึงค่ะ เพราะสครับค่อนข้างคม ระหว่างอาบน้ำเมื่อถูไปฟองก็มีความพอดีค่ะ ผิวแอบคันยุบยิบด้วยค่ะ เพราะกรดจากมะขามที่อาจจะไปทำปฏิกริยากับผิว อาบน้ำเสร็จผิวก็ตึงนิดหน่อยแต่มีความลื่นๆ ในผิวอยู่บ้าง
มาดูภาพสบู่ก่อนและหลังใช้ 2 สัปดาห์ สบู่มะขามอิงอร ด้วยเนื้อสัมผัสสครับของมะขามที่อยู่ในสบู่ ทำให้ง่ายต่อการใช้ค่ะ แต่เนื้อสบู่ค่อนข้างที่จะนิ่มค่ะ และละลายค่อนข้างที่จะเร็ว
สรุปโดยรวมจ้า
1.สิวก็ลดลงบ้างค่ะ แต่จะมีความแห้งตึงหลังจากใช้นิดหน่อยนะคะ กลิ่นของสบู่ชัดเจนเป็นเอกลักษณ์กลิ่นของมะขามเลย และค่อนข้างติดผิวหลังอาบน้ำเสร็จค่ะ
2.ความกระจ่างใสและเรียบเนียนก็ ได้ในระดับปานกลาง ชอบที่มีความลื่นๆ หลงเหลือด้วยค่ะ
3.ละลายก็ปกติ ไม่ได้เร็วเกินไป แต่ตามแบบ ที่ควรจะเป็น
4.มีฟองปกติเลยจ้า
มากันต่อที่ ตัวที่ 4 สบู่สมุนไพรก้อนสีขาวกลม
น้ำสบู่ที่ได้จากสบู่สมุนไพรก้อนสีขาวกลมมีสีม่วงเข้ม ค่าด่างกับสบู่ตัวนี้จึงค่อนข้างสูงค่ะ ค่า มากกว่าแถบวัด
และมาดูก่อนและหลังใช้ 2 สัปดาห์ สบู่สมุนไพรก้อนสีขาวกลม สบู่ยังคงสภาพเดิม ไม่ละลายช้าอาจจะเพราะก้อนใหญ่และแน่นมาก ไม่ค่อยถนัดมือเลย เอะอะหล่นๆ ต้องก้มเก็บบ่อยๆ อิอิ ยิ่งเรามีมือเล็กด้วย หล่นบ่อยมาก 55555 แนะนำให้ตัดแบ่ง
มาถูสบู่ต่อกันค่ะ ใช้ตอนอาบน้ำ สบู่แน่นและมีความหนาค่ะ ฟองไม่ค่อยมาก กลิ่นธรรมชาติไม่ออกไปทางน้ำหอมจ้า ไม่ฉุนเกินไป แอบชอบแค่ติดที่มันใหญ่นี่แหละ ฟองก็ปกติมีถูกันไป
ตัวที่ 5 มากันต่อ สบู่สมุนไพรโบราณเมอรี่เบลล์ ชื่อนี้แปลกดี เชื่อว่าหลายคนเห็น แต่ลังเล เอ๊ะ จะหยิบดีไหม แต่เราหยิบมาลองค่ะ ^^
น้ำสบู่ที่ได้จากสบู่เมอรี่เบลก็ยังคงมีสีม่วงค่อนไปทางเข้มนะคะ ซึ่งหากสังเกตจากตาเปล่าแล้ว ค่าด่างของสบู่ตัวนี้น่าจะอยู่ที่ ค่า PH 6.5-6.8
มาดูจากภาพ ก่อนและหลังใช้ 2 สัปดาห์ สบู่เมอรี่เบลค่ะ ตัวสบู่ก้อนใหญ่ ก้มเก็บสบู่บ่อยเช่นกัน 5555 หากคุณมีมือที่เล็กเหมือนเรา ด้วยขนาดที่ใหญ่ สบู่หนักเท่าอันบนเลยค่ะ ใช้ได้นานนนๆๆ เลย ล่ะ ละลายช้าดี ^^
มาดูแผ่นหลังอันเย้ายวนต่อ ตอนอาบน้ำ ฟองไม่เยอะต้องค่อยๆผสมน้ำและถูๆหน่อยค่ะ หลังอาบเสร็จ จะมีความแห้งอยู่ มีความผิวไม่ลื่นหลังอาบเสร็จ ต้องโปะครีมหน่อยนะจ๊ะสาวๆ
สรุปโดยรวมกันจ้า
1.ตัวนี้เหมาะกับคนเป็นสิวที่หลังนะ หัวสิวมันแห้งหลุดออกมา
2.กลิ่นไม่ค่อยแรง ออกไปทางสมุนไพร อาบน้ำเสร็จก็ไม่ค่อยติดผิวมากค่ะ
3.ความกระจ่างใสให้เฉยๆ ค่ะ เหมาะกับคนมีปัญหาผิวเรื่องสิวมากกว่า
4.ฟองไม่เยอะค่ะ
เดินทางมาถึง ตัวที่ 6 แล้วจ้า กับสบู่ขิงเจดีย์ไทย ได้กลิ่งขิงลอยมามั้ยคะ ^^ มาวัดค่า PH เริ่มต้นกันต่อ
น้ำสบู่ที่ได้จากสบู่ขิงตราเจดีย์มีสีม่วงที่อ่อนลง ค่าด่างนั้นจึงอยู่ที่ประมาณ PH 6.0-6.5
ปานกลางๆๆ ไม่สูงไม่ต่ำ
มาดู สบู่ขิง ตราเจดีย์ หืมมม คือก้อนเล็กถนัดมือสุดๆค่ะ แบบมันได้ฟีลเลย ไม่ลื่นไม่หลุดมือ ไม่ต้องก้มเก็บบ่อยๆ แล้วค่ะ ส่วนการละลายของสบู่นั้นก็ค่อนข้างไวค่ะ เพราะอาจจะก้อนเล็กด้วย พอถูๆไปเลยเล็กลงๆค่ะ
อาบน้ำดูแผ่นหลังและบรรยายความรู้สึกต่อผิวกันต่อค่ะ มีฟองเยอะอยู่ ผิวค่อนข้างไปทางชุ่มชื่นหลังอาบเสร็จแต่ งง ว่า ทำไมมันละลายเร็วจัง
สรุปโดยรวมกันค่ะ
1.สิวเริ่มจะค่อยๆหายไปค่ะ หลังจากอาบผิวก็ไม่ค่อยตึงค่ะ อาบแล้วผ่อนคลาย ได้กลิ่นติดผิวจางๆค่ะ
2.พูดถึงความกระจ่างใส ก็ยังเฉยๆ ถึงปานกลาง
3.กลิ่นไปทางธรรมชาติ แต่ไม่ได้มีกลิ่นขิงแรงนะ กลิ่นอ่อนๆ
4.ฟองมี แต่ะลายเร็ววว ไปหน่อย คือเล็กลงทันทีเมื่ออาบน้ำ
เมื่อยยย มากกก มาค่ะ
สุดท้ายแล้วจ้ากับสบู่ตัวที่ 7 ค่ะ คือ สบู่ขิง Lucky Nature ขิงตัวที่ 2 ได้มาลอง ได้มาตอนไปซื้อของที่ห้างบิ๊กซี มีป้ายแปะสินค้าใหม่เลยคว้ามาลองซะหน่อย มัน 2 ฟรี 1 อ่ะ และราคาดีงาม งั้นเรามาเริ่มทำการทดสอบกันเลยค่ะ เนื่องจากช้อนหมด เราขอใช้อุปกรณ์จากก้นขวดพลาสติกแทนนะคะ
สังเกตจากน้ำสบู่ที่ได้นั้น มีสีม่วงที่อ่อนจนเห็นได้ชัดค่ะ คืออ่อนลงค่ะ ค่าด่างนั้นจึงอยู่ที่ประมาณ PH 6.0 อ่อนสุดเลยในบรรดา 6 ตัวที่ทำไป
สบู่ขิง Lucky Nature จัดมา ก็ลองแกะเทสเล้ยย ซึ่งตกใจมากค่ะ แกะกล้องปุ๊บ คือไร ได้มา 3 ก้อนเลยค่ะ ดีต่อใจ ชอบความแถมเค้าล่ะ คือตอนหยิบไม่ได้ดูหน้ากล่องอะไรมากเห็นว่าเป็นสบู่ขิงจบพอ อยากอลอง สำหรับเรื่องกลิ่นกำลังดีเลยค่ะ ฟองก็ไม่เยอะมากจนเกินไป การละลายของสบู่เห็นได้ช้ามากค่ะ อาจจะเพราะสบู่มีความแน่นแต่น้ำหนักเบาค่ะ
มาลองเอาขิง Lucky Nature ถูตัวกันค่ะ ตัวนี้เราว่าเหมาะกับทุกสภาพผิว ฟองไม่เยอะประมาณปานกลางค่ะ ฟองดูนุ่มเนาะ ดูจากภาพ อาบเสร็จผิวไม่แห้งตึงเกินไป ด้วย คือยังมีความลื่นของผิวหลงเหลืออยู่
สรุปโดยรวมกับตัวสุดท้ายจ้า
1.เหมาะกับทุกสภาพผิวค่ะ จะผิวแห้ง ก็ใช้ได้ให้ความลื่นต่อผิวอยู่
2.รักษาสิวได้ด้วย เป้เอามาล้างหน้าด้วย สิวที่หน้ามันแห้งออกเป็นเม็ด
3.ความกระจ่างใส ปานกลาง แต่ถ้าใช้หมด 3 ก้อน นี่มันต้องใสขึ้นบ้างล่ะ
4.ความฟองของน้องสบู่ขิงกำลังดี ไม่น้อยเกินไปจ้า หลังอาบผิวจะนุ่มๆหน่อย มีความลื่น
หลังจากใช้สบู่ ทั้งหมด 7 ตัว ต้องบอกก่อนเลย เป้เป็นคนผิวแทนค่อนไปทางคล้ำนะคะ แน่นอนว่าความขาวที่จะเกิดขึ้นกับผิวเราอะ เป็นไปได้ค่อนข้างยากเลยค่ะ เป้เลยหวังแค่ให้ได้ผิวที่เนียนขึ้น เรียบขึ้นค่ะ ไม่แห้งตึงค่ะ และปัญหาที่เห็นได้ชัดเจนคือ สิวที่หลังค่ะ มาดูกันค่ะว่าสบู่แต่ละตัวจะให้ผลลัพธ์กับผิวเป้อย่างไรบ้างค่ะ ปล เป้ถ่ายรูปข้างหลังด้วยไม้เซลฟี่ขออภัยหากรูปมันแปลกๆค่ะ
และมาถึงการสรุปว่า ตัวไหนดี ตัวไหนโดน และเห็นผลสำหรับปัญหาสิวต่างๆ ที่หลังของเป้นะคะ เป้ขอจัดอันดับตามนี้เลยค่า
อันดับ 1 ขอให้กับ สบู่ขิง Lucky Nature ค่ะ ยกใจให้ไปเล้ยยยค่ะ ชอบสุด 2 แถม 1
อันดับที่ 2 ให้ สบู่มะขามอิงอร
อันดับที่ 3 ให้ แม่บุ๋ม เบนเน็ต
อันดับที่ 4 ให้คงเป็นสบู่ขิงค่ะ คือ สบู่ขิง ตราเจดีย์
อันดับที่ 5 ให้สบู่เมอรี่เบล
อันดับที่ 6 ให้สบู่สมุนไพรก้อนสีขาวกลม
และอันดับสุดท้ายคืออันดับที่ 7 ให้แก่ สบู่ก๊กเลี้ยงค่ะ
ยังไงเรารีวิวไปตามสภาพผิวที่ใช้จริงๆ ไม่ได้ต้องการ กล่าวอ้างหรือดิสเครดิตค่า บางคนอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ แบบเรา
อันนี้ต้องไปลองใช้กันดูนะค้า หวังว่าเพื่อนๆ จะลองไปหาเลือกซื้อกันดูจ้า
เพิ่มเติมผลที่ได้จากการทดลองประมาณนี้นะคะ
- สีที่อ่อนสุดจะเป็นสบู่ขิง Lucky Nature แสดงถึงความมีค่าที่สมดุล ใกล้เคียงผิวหนังมากที่สุด
- สีอ่อนรองลงมาคือสบู่ขิงเช่นกัน ของเจดีย์ คือส่วนผสมหลักคงมีความใกล้เคียงกัน แต่ Lucky Nature มีใส่ส่วนผสมที่อ่อนโยนต่อผิวเพิ่ม เลยมีค่ากลางมากกว่า
- สีอื่นๆ มีค่าสูงมาก น่าจะเป็นเรื่องประสิทธิภาพการชำระล้างที่อยู่ในส่วนผสม ซึ่งค่าด่างสูงกว่าผิวมาก อาจส่งผลต่อการระคายเคือง อันนี้ขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละคนด้วยค่ะ