หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

วิญญาณพลัดร่าง ตอนจบ

เนื้อหาโดย matin

ความเดิมตอนที่แล้ว >>>>>>https://board.postjung.com/1006887.html

 

ผมขับรถโรงพยาบาลหนีรถตำรวจออกมาด้วยความเร็วสูง จนรถคันที่อยู่ในเลนเดียวกัน เห็นรถโรงพยาบาลเปิดไฟฉุกเฉิน มีรถฉลามตามมาติดๆ ต่างพากันหลบเข้าไหล่ทางกันหมด
พยาบาลชะโงกหน้าออกมาที่เบาะด้านหน้า ถามว่าเกิดไรขึ้น แล้วก็ตกใจที่เห็นผมขับรถอยู่ แล้วก็ถามว่าอ้าวแล้วพี่คนขับหละ
ทุกอย่างเงียบไม่มีใครตอบอะไร


ลูกน้า ดูร้อนรนกว่าผม กระสับกระส่ายไปมา ถามผมว่า เราทำถูกแล้วใช่ไหม  
ผมก็บอกว่า พ่อเองก็แค่โกรธ แต่ไม่ถึงตายหรอก แต่แม่เองนี่  นี่เป็นโอกาสเดียวนะ
รถตำรวจเริ่มไล่ตามมาติดๆ ผมก็พยายามเร่งเครื่องหนี 

ขับไปได้สักพักใหญ่ 
ผมมองไปข้างหน้ามีรถติดไฟแดงจอดอยู่ มันใกล้จะเข้าในเมืองแล้ว เริ่มมีปริมาณรถมาก
ผมชะลอความเร็วลง รถตำรวจก็ยังตามมาติดๆ เปิดสัญญาณลั่น
ช่วงนั้นผมคิดว่าต้องโดนจับแน่ๆ คิดอะไรไม่ออก ว่าจะไปทางไหนดี
ถ้าติดไฟแดงแยกนี้ก็จบกัน

เสียงประกาศดังออกมาจากรถตำรวจ
ผมได้ยินแต่แว่วๆว่า รถพยาบาลหยุดด้วย จอดเดี๋ยวนี้


ผมยังขับต่อไป จนถึงบริเวณรถที่จอดติดไฟแดงอยู่  ปรากฏว่าพอไปถึงแยกไฟแดง  
รถที่จอดรอไฟเขียวอยู่นั้น ต่างพากันขยับรถเปิดทางให้รถที่ผมขับอยู่  ผ่านออกไปได้
ผมค่อยๆขับรถผ่านแยกนั้นช้าๆ แม้แต่แยกฝั่งที่มีไฟเขียว มีรถจอดอยู่ เขากลับไม่ขับออกมาจากแยก  
คงพากัน งง มั่งว่ามันอะไร  

เหมือนทุกคนจอดดูรถโรงพยาบาลเคลื่อนผ่านแยกไฟแดงนั้นไป โดยมีรถตำรวจตามมาติดๆ
หลังจากผ่านแยกไฟแดงนั้นไปได้ ดูเหมือนว่ารถตำรวจจะเลิกตามเรา คงเป็นเขตรับผิดชอบอีกพื้นที่หนึ่งไปแล้ว
ลูกน้าโทรไปหาพ่อเขา โวยวายกับพ่อเขาว่า พ่อแจ้งความจับเราทำไม

เสียงพ่อก็ตะโกนด่าตอบกลับมาฟังไม่ได้ศัพท์ ว่าพูดอะไรกัน
เพราะต่างฝ่ายต่างโวยวายใส่กัน แต่ทุกอย่างก็เงียบลงตรงที่ ลูกน้าพูดว่า
แม่ยังไม่ตายแล้วนี่ใกล้จะถึงบ้านยายแล้วด้วย พ่อยังจะให้แม่กลับไปอยู่ไหม


เมื่อเหตุการณ์สงบลง ผมก็ขับรถต่อไปสักพักใหญ่ๆ
ผมขับรถไปถึงที่บ้านยายเกือบจะเย็นมากแล้ว  
เจอรถตำรวจจอดอยู่ มีตำรวจยื่นรออยู่สี่ห้านาย

เห็นน้าคนอื่นๆ เห็นญาติๆ ลูกเด็กเล็กแดงมายืนรออยู่หน้าบ้าน ราวกับว่านัดหมายกันมา
ผมเปิดประตูรถ พยายามจะเข้าไปในบ้าน แต่มีตำรวจมาแสดงตัว ขอเชิญไปที่โรงพัก
ญาติๆ กับน้าๆ ลงมาขวางแล้วถามผมว่าเกิดอะไรขึ้น


ผมได้ยินเสียงลูกน้าคุยโทรศัพท์กับพ่อเขาว่า พ่อหนูบอกให้ถอนแจ้งความไงเข้าใจไหม  ตอนนี้เรามาถึงบ้านยายแล้ว

  
ผมถามน้าๆกับญาติๆว่ามีใครรู้จัก จุดที่ น้าวิลัยเสียชีวิตบ้าง ผมจะต้องพาน้าไปที่นั้น
ญาติผมถามว่าไปทำไม ผมไม่รู้จะตอบยังไง จะพูดความจริงไปคนก็คงไม่เชื่อ
จะโกหกว่าน้าเขาอยากไปเองเป็นครั้งสุดท้าย มันก็เป็นการโกหกคนที่มามุงดูมากมายไปด้วย


ผมอ้ำๆอึ้งๆอยู่ครู่หนึ่ง อยู่ๆ ลูกน้าก็พูดขึ้นว่า แม่สั่งไว้ว่าก่อนจะตายอยากกลับไปที่ที่น้าวิลัยเสียชีวิต
ทุกคนหันไปมองลูกน้าเป็นตาเดียวกัน
แล้วญาติผมคนหนึ่งก็พูดขึ้นว่าเออ มันสองคนนี้เล่นกันมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก
บทจะตายก็อยากตายในจุดเดียวกัน ก็ถือว่าสงเคราะห์มันหน่อยเถอะวะ
อีนั่งคนนี้มันก็ป่วยมาครึ่งค่อนชีวิตของมันแล้ว มันจะไปสบายแล้ว  

สิ้นเสียงคำพูดของญาติผมคนนั้น  ดูเหมือนว่าสีหน้าทุกคนเปลี่ยนไป ญาติๆทุกคนก็ต่างพากันอาสาจะพาไป
ผมหันไปบอกตำรวจ ว่า ให้ผมพาคนไข้ไปจุดที่เขาต้องการก่อนนะครับ แล้วค่อยจับผม
ตำรวจนายหนึ่ง พูดว่า ไปเถอะ คนบ้านเดียวกัน เดี๋ยวผมจะนำทางให้ โอ๊ยคนรู้จักกันทั้งนั้น 

 
สักพัก รถตำรวจก็ขับนำทาง มีลูกเล็กเด็กแดงขึ้นไปนั่งอยู่เต็มหลังกะบะรถตำรวจ
มีญาติบางคนก็ขี่มอเตอร์ไซด์ตาม น้าสองคนกับลูกๆ ขึ้นมานั่งรถโรงพยาบาลไปด้วยกันกับผม
ผมได้ยินเสียงเขาทักทายกันกับน้าที่ป่วย ว่าจำคนนั้นได้ไหมคนนี้ได้ไหม
ผมรู้สึกอบอุ่น รู้สึกตื่นเต้นที่เห็น รถยนต์ เคลื่อนไปในหมู่บ้านเล็กๆ ราวกับขบวนแห่


พอไปถึงที่นั่น ตอนนั้นเกือบจะพลบค่ำแล้ว บรรยากาศเริ่มมีแสงน้อยลง
ผมกลัวว่าจะมืดค่ำก่อน เพราะจะทำให้การเดินทางลำบาก  
ผมต้องจอดรถอยู่ข้างทาง มองไปข้างหน้าเป็นทุ่งนา ไกลๆราวร้อยสองร้อยเมตร เห็นต้นไม้สูงๆต้นหนึ่ง
มีญาติๆ ผมชี้ว่าโน้นใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นโน้น ที่อีลัยมันตาย

คนหนึ่งพูดว่า ไม่มีถนนไปนะ จะพาผู้ป่วยไปยังไง นี่ก็ใกล้จะมืดแล้ว ก็พอดีกว่าจะหามกันไปถึง ก็คงจะมืดพอดี


พยาบาลลงมาจากรถบอกว่า เรามีเปลสนามคะ  สามารถหามผู้ป่วยไปได้  
ทุกคนก็รีบจัดแจงเตรียมตัวช่วยขนข้าวของกันทั้นที


น้าผมบางคนประกาศตรงนั้นเลยว่า ขออาสาสมัครชายฉกรรจ์ 4 คน
ไม่นานก็มีชายร่างใหญ่มายืนรอพร้อมจะช่วยหาม
พยาบาลจัดแจงเอาถังออกซิเจนขนาดเล็ก เปลี่ยนจากหน้ากากครอบจมูก เป็นแบบ สายเล็กๆที่ไปจ่อตรงจมูกโดยตรง
ทุกคนช่วนกันย้ายน้าจากเตียงบนรถไปที่เปลสนาม ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก
ไม่นาน ก็เห็นร่างชายสี่คนช่วยกันหามน้าผมไปพร้อมกับพยาบาลถือถังออกซิเจนเดินตามกันริ่วๆผ่านทุงนาไป
โดยมีขบวนทั้งญาติทั้งชาวบ้านแห่ตามก้นกันไปมุงดูราวกับว่ามีมหรสพ

ไม่นานก็ถึงใต้โคนต้นไม้นั้น แสงอาทิตย์เริ่มหดหาย ทุกอย่างค่อยๆสลัวสลัว  ผมเดินไปหาน้าที่นอนอยู่ในเปลสนาม
ผมปลุกน้า แล้วก็บอกว่า น้าเตรียมพบกับสิ่งที่หายไปนะ  น้าพยักหน้ารับทราบ
ผมค่อยๆลุกออกมา ยื่นดูอยู่ห่างๆ มองไปรอบๆต้นไม้ ผมไม่เห็นควันสีฟ้านั้นเลย
รออยู่สักพักจึงบอกให้ทุกคนเรียกชื่อน้า เรียกชื่อน้าดังๆ  
ตอนแรกไม่มีผู้ใหญ่คนไหนกล้าเรียก มีเสียงเด็กๆพากันเรียกชื่อน้าขึ้นมาก่อน ถึงมีผู้ใหญ่บางคนเรียกตาม
แล้วชื่อน้าก็ดังกระหึ่มไปทั่วแถวนั้น

  
ไม่นาน ผมเห็นกลุ่มควันสีฟ้าค่อยๆลอยออกมาจากป่าใกล้ๆแถวนั้น  ค่อยๆลอยเข้ามาใกล้ๆต้นไม้
ผมบอกให้ทุกคนเงียบ ทำมือห้ามที่ปากเป็นสัญญาณให้เงียบ ทุกคนเงียบกันหมด
ควันสีฟ้ารวมตัวกันเป็นสีน้ำเงินเข้ม แล้วหยุดอยู่ใต้โคนต้นไม้  ผมค่อยๆเดินไปหาน้าที่นอนอยู่
กระซิบให้แกเรียกชื่อตัวเอง น้าผมแกก็ค่อยๆเรียกชื่อตัวเอง แต่เสียงดังไม่พอ  
แกพยายามอยู่สามสี่ครั้งจนครั้งสุดท้ายก็เรียกชื่อตัวเองออกมาเสียงดังจนผมก็ได้ยินเสียงนั้นด้วย
แล้วอยู่ๆกลุ่มควันสีน้ำเงินนั้นก็วิ่งเข้าไปในตัวน้าอย่างเร็ว  
เหมือนเด็กน้อยที่ ผลัดหลงจากแม่ แล้วรีบถลาเข้ากอดผู้เป็นแม่ทันทีเมื่อเจอกัน
ผมมองไปเห็นน้าสะดุ้งเฮือกตอนที่กลุ่มควันวิ่งเข้าหาตัวน้า


ทุกอย่างเงียบลงอีกครั้ง ทุกคนลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ
อยู่ๆ ผมก็เห็นกลุ่มควันสีขาวลอยออกมาจากตัวน้า
แล้วก็ค่อยๆเรียงตัวกันเป็นรูปเด็กผู้หญิงอยู่ตรงแถวๆปลายเท้าของน้า
ผมเผลอหลุดปากออกมาโดยไม่รู้ตัว “น้าวิลัย” ลูกน้ามองหน้าผมด้วยความฉงน ว่าผมเห็นอะไร
แล้วกลุ่มควันสีขาวก็ค่อยๆโตขึ้นโตขึ้นจนเท่ากับร่างผู้ใหญ่
แล้วก็กลายเป็นเงาสีดำโปรงแสง ค่อยๆลอยหายเข้าไปในต้นไม้ใหญ่นั้น


หลังจากนั้น ผมเห็นน้าคนที่ป่วยเอามือมาจับที่แขนพยาบาล พยายามจะลุกนั่ง
จนพยาบาลเองต้องพยุงน้าให้ลุกขึ้นมานั่ง
น้าหันมาทางผมหันไปมองดูรอบๆตัว อยู่ๆสิ่งที่ทุกคนไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
น้าผมลุกขึ้นยืน โดยมีพยาบาลพยุงตัวขึ้นช้าๆ ทุกคนที่เห็นต่างโห่ร้องยินดี พากันปรบมือกันเสียงดังสนั่นโดยไม่รู้ตัว
วินาทีนั้นอยู่ๆผมก็รู้สึกตื้นตันขึ้นมาที่ลำคอ รู้สึกว่าสิ้นสุดการรอคอย
รู้สึกถึงการรอค่อยที่โดดเดี่ยวมานานนับสิบๆปีมันจบแล้ว  
น้ำตาผมเอ่อขึ้นมาเต็มเบ้าตา
มองไปเห็นลูกน้ายืนน้ำตาเอ่อเต็มใบหน้าอยู่ข้างๆ  
ผมมองไปเห็นญาติคนหนึ่งปกติแกจะเป็นคนที่เข้มแข็งคนหนึ่ง วันนั้น น้ำตาแกไหลออกมาอาบแก้มทั้งสอง  
พลอยทำให้น้ำตาที่คลอๆอยู่ที่ตาของผมทะลักออกมาเต็มใบหน้าไปด้วย
ผมใช้มือปาดน้ำตา เป็นน้ำตาแห่งความปิติ เป็นน้ำตาแห่งชัยชนะ เราเหนื่อยกันมาหลายปี
ลูกน้าปกติเขาไม่เคยเห็นผมร้องไห้เลย พอเห็นผมเอามือปาดน้ำตา แกก็เข้ามากอดผมอยู่ข้างๆ
บอกว่า เฮีย ขอบคุณนะที่ทำทุกๆอย่างให้กับแม่หนู  
ผมอยากจะพูดอะไรออกไปแต่มันรู้สึกจุกอยู่ที่คอหอย จนพูดไม่ออก ได้แต่สะอื้นไห้ออกมาแทน
พี่น้องของน้าต่างพากันเข้าไปพูดจากับน้าด้วยความยินดี  เหมือนคนที่จากกันมานานนับปีพึ่งได้มาเจอกันอีก


หลังจากนั้นเราก็พาน้ากลับบ้าน ลูกน้าโทรไปหาพ่อเขา    เล่าเรื่องวันนี้ให้พ่อเขาฟัง
ตำรวจที่ว่าจะมาจับผมก็กลายเป็นมาแสดงความยินดีด้วย และก็มาแจ้งว่ามีการถอนแจ้งความแล้ว
ส่วนคนขับรถโรงพยาบาล ตำรวจก็ขับรถมาส่งถึงที่บ้าน
หลังจากกินอาหารค่ำเสร็จ คนขับรถกับพยาบาลก็ขอตัวกลับ
พวกญาติๆ น้าๆทั้งหลาย ต่างมารวมตัวกันที่บ้านยาย เล่าเรื่องราวในอดีตกันสนุกสนาน
ผมเห็นใบหน้าของน้าคนที่ป่วยยิ้มมีความสุขมาก แม้จะยังคงดูอิดโรยเพราะป่วยมานาน แต่ก็ยังมีเรี่ยวแรงมานั่งฟัง
จนประมาณสองทุ่มลูกน้าก็เลยพาแกไปพักผ่อน
สามทุ่มทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน

ผมเข้านอนแล้วก็หลับไปด้วยความเพลีย แต่พอกลางดึก อยู่ๆก็รู้สึกตัว เพราะหนาว
ผมลืมตาตื่นขึ้นมาในความมืด เห็นควันสีขาวลอยอยู่บนเพดาน แล้วก็ค่อยๆลอยต่ำลงมา ลงมา
จนกระทั้งปกคลุมไปตามลำตัวผม
อยู่ๆก็มีกลุ่มควันลอยพุ่งออกมาจากตัวผม ไปรวมกับกลุ่มควันก้อนแรกจนดูสีเข้มขึ้นเป็นควันหนา
แล้วก็ค่อยๆลอยสูงขึ้น สูงขึ้นจนติดเพดานสักพักก็จางสลายหายไป

กลุ่มควันสีขาวเหลานี้ พลอยทำให้ผมนึกถึงพ่อหมอขึ้นมา ในวันที่วิญญาณผมไปที่บ้านพ่อหมอคนนี้
ผมก็เจอกลุ่มควันสีขาวลักษณะนี้เหมือนกัน
วันที่ผมประสบอุบัติเหตุถ้าผมไม่ได้ไปเข้าพิธีกรรมของพ่อหมอ
ไม่มีกลุ่มควันสีขาวเหล่านี้มาปกปักรักษาตัวผมไว้
ป่านนี้ผมคงกลายเป็นผีตัวตายตัวแทนเฝ้าสี่แยกไฟแดงแทนวิญญาณสองตนนั้นไปแล้ว

รุ่นขึ้น ผมไปปรึกษากับน้าคนหนึ่งว่า อยากจะไปนิมนต์พระไปสวดทำบุญ แผ่บุญกุศลให้กับ น้าวิลัย ที่ต้นไม้ใหญ่นั่น
ผมเล่าให้น้าคนนี้ฟังว่า เมื่อวานเห็น วิญญาณน้าวิลัยหายเข้าไปในโคนต้นไม้ใหญ่
พอแกได้ฟัง แกก็เห็นด้วย
ผมก็เลยรีบไปจัดแจงเตรียมข้าวปลาอาหารต่างๆ ของถวาย  และไปนิมนต์พระไปทำบุญตามที่ตั้งใจไว้



ผมกลับมาทำงานตามปกติ เรื่องหูแว่ว เห็นอะไรเพี้ยนๆ ไม่ปรากฏให้เห็นอีกเลย
นับตั้งแต่วันที่ ควันสีขาวนั้นออกจากร่างผม  
ส่วนน้า ก็อยู่บ้านยายที่ต่างจังหวัด นานเป็นเดือนแล้ว ดูอ้วนท้วนขึ้น แข็งแรงขึ้น เดินเหินคล่องแคล่วกว่าแต่ก่อน

“และนี้แหละ เป็นเรื่องอันอัศจรรย์ที่สุดในชีวิตของผม  แล้วคุณหละ มีเรื่องอัศจรรย์อะไรในชีวิตบ้างไหม”

THE END

เนื้อหาโดย: matin
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
matin's profile


โพสท์โดย: matin
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
12 VOTES (4/5 จาก 3 คน)
VOTED: John thongpoon, แมวฮั่ว แมวขี้น้อยใจ
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ปิดตำนานไร่ชื่อดังที่วังน้ำเขียว ลานกางเต็นท์ยอดนิยมได้ประกาศหยุดดำเนินการแล้วรวมเลขเด็ด! หวยแม่จำเนียร งวดวันที่ 1 ธันวาคม 2567
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สิงโตคู่หนึ่งซั่มกัน อย่างไม่แคร์สายตาฝูงควาย ที่ยืนดูอยู่กัน จอมพลัง ไม่ทอดทิ้ง! เร่งเข้าช่วย อินฟลูเอนเซอร์ มอสเจีย หลังจากที่พี่เลี้ยงชาวพม่าทำให้ลูกเกิดอุบัติเหตุ นอนรักษาตัวในห้อง ICUแอนนา ยอมรับสภาพคดีฉ้อโกง ศาลสั่งจำคุกกว่า 100 ปี พร้อมฝากคำขอโทษผู้เสียหาย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
เปิดตำนาน "ลิโป้" ขุนศึกผู้ห้าวหาญแห่งยุคสามก๊ก4 หัวใจแห่งขุนเขา กำเนิดซีรีย์ไทยชุดแรกของช่อง 3 แจ้งเกิดดาราแถวหน้าของวงการเปิดตำนาน "ยุทธหัตถี" วีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเปิดตำนาน "กวนอู" เทพเจ้าแห่งสงคราม ผู้ซื่อสัตย์และเกรียงไกร
ตั้งกระทู้ใหม่