โลกพิศวง (Lost in Space)..ทีวีซีรีส์สุดสนุกทางช่อง 4 บางขุนพรหม (ช่อง9 อสมท.ในปัจจุบัน) ..เมื่อพ.ศ.2509.
การ์ตูนสุดฮิตที่เคยฉายทางจอแก้วยุค 1980.. ซินแบท.
ครอบครัวโรบินสัน..กับหุ่นยนต์ B-9..และหมอสมิธจอมวายร้ายของเรื่อง..
การ์ตูนสุดฮิตที่เคยฉายทางจอแก้วยุค 1980..Space Ghost
การ์ตูนสุดฮิตที่เคยฉายทางจอแก้วยุค 1980..Wacky Races ..แข่งมหาสนุก
การ์ตูนสุดฮิตที่เคยฉายทางจอแก้วยุค 1980..
การ์ตูนสุดฮิตที่เคยฉายทางจอแก้วยุค 1980แซมซั่นแอนโกไลแอต
การ์ตูนสุดฮิตที่เคยฉายทางจอแก้วยุค 1980..เจ้าเต่าตูเช่
การ์ตูนสุดฮิตที่เคยฉายทางจอแก้วยุค 1980..ATOM ANT.....มดปรมาณู
เนื้อเรื่อง
องค์กรวายร้ายช็อคเกอร์ วางแผนจะสร้างมนุษย์ดัดแปลงสุดยอดขึ้นมาเพื่อใช้ยึดครองโลก จึงได้ออกค้นหาผู้มีคุณสมบัติที่สามารถเป็นมนุษย์ดัดแปลงได้และได้มาพบกับ "ฮอนโก ทาเคชิ" นักแข่งจักรยานยนต์ ช็อคเกอร์ได้จับตัวทาเคชิ มาเพื่อดัดแปลงให้กลายเป็น คาเมนไรเดอร์ ในช่วงสุดท้ายของการดัดแปลง คือการลบความทรงจำ เพื่อให้ทาเคชิทำงานรับใช้ช็อคเกอร์ ก็ได้เกิดอุบัติเหตุไฟดับขึ้น ทำให้เขาสามารถหนีออกมาจากการควบคุมของพวกช็อคเกอร์ได้ และสาบานตนว่า จะทำลายล้างช็อคเกอร์ให้สิ้นซาก แต่ต่อมาช็อคเกอร์ได้ขยายสาขาไปยังยุโรป และได้ทำการดัดแปลงคาเมนไรเดอร์คนที่สอง โดยการจับตัว "อิจิมอนจิ ฮายาโตะ" อาชีพตากล้อง ให้กลายมาเป็นคาเมนไรเดอร์อีกคนหนึ่ง แต่ทาเคชิได้เข้าไปช่วยและให้ฮายาโตะต่อสู้กับช็อคเกอร์ที่ญี่ปุ่น ส่วนตนจะกำจัดช็อคเกอร์ในส่วนอื่นๆ ของโลกแทน ในช่วงท้ายของเรื่อง ไรเดอร์ทั้งสองได้ผนึกกำลังร่วมกันเป็นดับเบิ้ลไรเดอร์ และต่อสู้กับองค์กรเกลช็อคเกอร์ เพื่อปกป้องสันติภาพของโลกต่อไป
ตัวละครหลัก
ฮอนโก ทาเคชิ (本郷 猛) / คาเมนไรเดอร์ หมายเลข 1 นักเรียนสาขาวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยโจนัน มีไอคิวถึง 600 เป็นนักแข่งรจักรยานยนต์ ทาเคชิโดนพวกช็อคเกอร์จับตัวไป เพื่อจะเปลี่ยนเขาเป็นคาเมนไรเดอร์ เพื่อให้ช่วยครองปะเทศญี่ปุ่น แต่ว่า ดร.มิโดริคาว่า ฮิโรชิ ได้ช่วยเหลือไว้จนทำให้กลายเป็นคาเมนไรเดอร์ในที่สุดและเพื่อความสงบสุขของโลก
อิจิมอนจิ ฮายาโตะ (一文字 隼人) / คาเมนไรเดอร์ หมายเลข 2 ชายหนุ่มที่ถูกพวกช็อคเกอร์จับตัวมาดัดแปลงเช่นเดียวกับทาเคชิ และเพื่อจะให้มีพลังมากกว่าคาเมนไรเดอร์ 1 แต่ทาเคชิก็เข้ามาช่วยไว้ ในช่วงแรกนั้นฮายาโตะ ต่อสู้อยู่คนเดียวในญี่ปุ่น ในขณะที่ทาเคชินั้น จะไปต่อสู้กับพวกช็อคเกอร์ที่ยุโรป ตอนหลังกลับมาผนึกกำลังกันเป็นดับเบิ้ลไรเดอร์ เหตุผลของการสร้างคาเมนไรเดอร์คนที่สองนั้น เพราะว่าผู้แสดงเป็นทาเคชิ ประสบอุบัติเหตุระหว่างการถ่ายทำ จึงต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน ทางทีมงานจึงต้องสร้างไรเดอร์คนใหม่ขึ้นมาทดแทน ซึ่งเป็นที่มาของไรเดอร์คนที่สองนั่นเอง
อิจิมอนจิ ฮายาโตะ เป็นคาเมนไรเดอร์คนแรกที่มีท่าแปลงร่างของตัวเองอย่างเป็นทางการ ต่อมาหลังจากที่ทาเคชิกลับมาที่ญี่ปุ่น จึงได้มีท่าแปลงร่างของตัวเอง โดยใช้ คำว่า "ไรเดอร์ เฮนชิน"
Kamen Rider ( 仮面ライダー ) แพร่ภาพครั้งแรกในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 3 เมษายน 1971 - 10 กุมภาพันธ์ 1973 ( 98 ตอน )
ไอ้มดแดงอาละวาด แพร่ภาพครั้งแรกในประเทศไทยออกอากาศครั้งแรก วันที่ 14 กันยายน พ.ศ.2514 ออกอากาศทุกค่ำวันอังคาร เวลา 18.40น ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ขาวดำ
ไอ้มดแดงหมายเลข 1 - ฮอนโก ทาเคชิ ( 本郷猛 ) นำแสดงโดย ฟูจิโอกะ ฮิโรชิ ( 藤岡弘 ) ปัจจุบันอายุ 65 ปี
ไอ้มดแดงหมายเลข 2 - อิจิมอนจิ ฮายาโตะ ( 一文字隼人 ) นำแสดงโดย ซาซากิ ทาเคชิ ( 佐々木剛 ) ปัจจุบันอายุ 64 ปี
โรโบคอน เจ้าหุ่นคอมพิวเตอร์ กัมบาเระ โรโบคอน (ญี่ปุ่น: がんばれ!!ロボコン Ganbare!! Robokon ) หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า Good Luck, Robocon! เป็นภาพยนตร์ซีรีส์แนวโทคุซัทสึของประเทศญี่ปุ่น เขียนบทโดย โชทาโร่ อิชิโนะโมะริ ผู้ให้กำเนิดไอ้มดแดง เริ่มออกฉายที่ญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 4 ตุลาคม 1974 - 25 มีนาคม 1977 รวมทั้งสิ้น 118 ตอน นับว่าเป็นซีรีย์ยอดฮิตอีกเรื่องหนึ่ง เคยเข้ามาฉายในบ้านเราทาง ททบ. 5 ในชื่อเรื่อง "เจ้าหุ่นคอมพิวเตอร์" และนำกลับมาฉายใหม่ทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี
"เจ้าหุ่นคอมพิวเตอร์" เป็นเรื่องเกี่ยวกับหุ่นยนต์สีแดงที่ชื่อ โรโบคอน ที่อาศัยอยู่กับครอบครัวคุริฮะระ และอยู่ในการดูแลของโรงเรียนหุ่นยนต์ ซึ่งฝึกฝนให้เป็นหุ่นยนต์ที่มีจิตใจดีงาม ในแต่ละตอน โรโบคอนจะออกไปผจญภัยร่วมกับเพื่อนหุ่นยนต์ โดยมีนางฟ้าคอยให้ความช่วยเหลือ ในตอนท้ายของตอนจะมีการสรุปผลการทำความดีในสัปดาห์นั้น ให้คะแนนโดย Mr. Gantz (อาจารย์กังจึ) ครูใหญ่หุ่นยนต์ โดยหุ่นยนต์แต่ละตัวจะยื่นการ์ดให้อาจารย์กังจึนำใส่เข้าไปในปาก แล้วผลคะแนนจะออกมาตรงพุง หากทำได้ 100 คะแนนเต็ม จะได้รางวัลเป็นรูปหัวใจมาประดับที่ตัว จึงต้องช่วยกันลุ้นกันทุกตอนว่าเจ้าหุ่นโรโบคอนของเราจะทำได้กี่คะแนน แต่โดยมาก โรโบคอน จะทำคะแนนได้ดี แต่ทำผิดพลาดเสียหายในตอนท้าย จึงมักจะถูกหักคะแนนจนเหลือ 0 อยู่เสมอ.." จนเป็นวลีที่ฮิตติดปาก ได้ 0 คะแนน เศร้าอีกแล้วสิเรา "
โรโบคอน เป็นหุ่นยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าและน้ำมันเป็นเชื้อเพลิง มีเครื่องยนต์ติดตั้งที่บริเวณหน้าท้อง รูปร่างคล้ายกระโปรงหน้าของรถเต่าโฟล์กสวาเกน ซึ่งเป็นที่นิยมในประเทศญี่ปุ่น โรโบคอน มีความสามารถพิเศษเก็บขาเข้าไปในตัวถัง เปลี่ยนเป็นล้อเพื่อให้เดินทางได้อย่างรวดเร็วและมีใบพัดอยู่ที่หลัง ทำให้สามารถบินได้ แต่มีข้อเสียตรงที่กลัวแมลงสาบเป็นอย่างมาก ในปี พ.ศ. 2542 ได้มีการนำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง โดยใช้ชื่อว่า Ganbare! Robocon VS Moero! Robocon
เหล่าผองเพื่อนของเจ้าหุ่นโรโบคอน...ตัวนางพยาบาลจะเป็นตัวที่หลงรักเจ้าหุ่นมากตามติดตลอดและจะคอยฉีดยาเจ้าหุ่นเป็นประจำ
นางเอกเป็นหุ่นนักบัลเล่ย์ชื่อโรบิน คอยดูแลและช่วยเหลือเจ้าหุ่นตลอดเพื่อที่จะไม่ให้เจ้าหุ่นได้ 0 คะแนน
อาจารย์กังจึผู้ให้คะแนนแก่บรรดาหุ่นทั้งหลายในตอนท้ายเรื่อง
槇さおり Maki Saori แสดงโดย 紀比呂子 (Kino Hiroko)ที่แสดงเป็นผู้พี่ หนังทีวีเรื่องนี้ออกฉายที่สถานี Fuji เวลา 1 ทุ่มถึง 1 ทุ่มครึ่ง ทุกวันศุกร์์ตั้งแต่วันที่ 3 กันยายนปี 1971 และจบในวันที่ 25 สิงหาคมปี 1972 รวมทั้งสิ้น 52 ตอน โดยต้องต่อกรกับ 帰ってきたウルトラマン (Return of Ultraman) และ ウルトラマン A (Ultraman Ace) ทางสถานี TBS ที่ฉายในเวลาเดียวกัน
ยอดหญิงสิงห์สนามถูกช่อง 7 นำกลับมาฉายอีกครั้งในราวปีพ.ศ.2523 ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 18:00 น. แต่เปลี่ยนชื่อเป็น "ยอดหญิงสิงเทนนิส"
อีกหนึ่งภาพยนตร์ทีวีสำหรับวัยรุ่นและกีฬา แม้ว่าเทนนิสยังไม่ได้จัดอยู่ในโอลิมปิคช่วงนั้น แต่ 2 พี่น้อง ซาโอริและมาโกโตะ ก็ร่วมกัันสานฝันไปสู่การแข่งขันสุดยอดของเทนนิส คือ วิมเบิลดัน ที่อังกฤษ
コートにかける青春 ( Ko-to ni kakeru seishun - การแข่งขันในคอร์ตเทนนิสของวัยรุ่น ) เป็นการ์ตูนตีพิมพ์ในแม็กกาซีนรายสัปดาห์ Margaret ในปี 1969 ก่อนนำมารวมเล่ม 4 เล่มจบในปี 1970 ดำเนินเรื่องจากจุดที่ ฮิโรยุกิ โทโจ หลงรักในกีฬาเทนนิสแบบหัวปักหัวปำเป็นเหตุให้เลิกกับภรรยา ฮารุโกะ โดย ฮิโรยุกิ พาลูกสาวคนเล็ก (มาโกโตะ) ไป ส่วน ฮารุโกะ เลี้ยงดูลูกสาวคนโต (ซาโอริ) หลังจากที่ทั้งสองโตขึ้น ทั้งสองต้องมาเจอกันในการแข่งขัน All-Japan junior tennis Championship รอบชิงชนะเลิศ
コートにかける青春 "ยอดหญิงสิงห์สนาม"
槇さおり Maki Saori แสดงโดย 紀比呂子 (Kino Hiroko) ส่วนผู้น้อง 東城真琴 Tojo Makoto แสดงโดย 森川千恵子 Chieko Morikawa ทั้งสองร่วมกันใช้ท่าไม้ตาย 「ニュー・ローリングフラッシュ」 "New rolling flash" บ้านเราเรียก "นางแอ่นเหิรลม" ที่โค้ช 甲山健 Takeshi Kozan 「นำแสดงโดย 大出俊 Ooide Shun ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้วเมื่อปลายปี 2001 ช่วยฝึกสอนให้ คงจำได้ดีว่าในการฝึกเกิดพลาด ลูกเทนนิสกระแทกลูกตาโค้ชคนนี้บอดไปข้างนึง
บุสก้า หรือ KAIJU BOOSKA (快獣ブースカ) สัตว์ประหลาด (ผู้น่ารัก) เป็นหนังทีวีอมตะเรื่องหนึ่งของญี่ปุ่น (รวมถึงในเมืองไทยด้วย)....ในเมืองไทย รัชฟิล์ม ได้นำเข้ามาฉายและใช้ชื่อไทยว่า "บุสก้า จอมอภินิหาร" โดยออกอากาศทางช่อง 7 ขาวดำ ซึ่งก็คือ ททบ. 5 ในปัจจุบัน ในปีพ.ศ.2513 ฉายทุกวันพุธ เวลา 1 ทุ่มและเอามาฉายซ้ำอีกทีที่ช่องเดียวกันในวันเสาร์เวลา 11:40 น. เมื่อปีพ.ศ. 2514....
เนื้อเรื่องบุสก้า จอมอภินิหาร เริ่มต้นที่เด็กชายนักประดิษฐ์ที่ชื่อ ไดซาคุ ทอนดะ ต้องการทดลองสัตว์เลี้ยง อิกัวน่า ให้ขยายร่างให้ได้สัก 300 เท่า (ทำนองให้กลายเป็น ก็อตซิลล่า ที่ฮอลลีวูด แอบขโมยไอเดียญี่ปุ่นอีกแล้วนะ หนัง ก็อตซิลล่าของฝรั่งก็เอาเรื่อง อิกัวน่ากลายพันธ์จากปรมาณูจนขยายร่างได้) โดยใช้สารอาหารพิเศษที่คิดค้นขึ้นมา (เรียกว่า クロパラ KURO PARA) แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นสัตว์ประหลาดหน้าตาแปลกๆ มีขนสีส้มทั้งตัวและจุดสีน้ำตาล แต่มีความเฉลียวฉลาดเทียบเท่าเด็กนักเรียนชั้นประถม 5 แถมพกด้วยพลังมหัศจรรย์ ซึ่งกลายมาเป็นที่รักของเพื่อนบ้าน
ในตอนกำเนิด ที่การทดลองใส่ KURO PARA ให้ตัวอิกัวน่า แล้วโถกระเบื้องร้าวจนระเบิดแล้วปรากฏตัวบุสก้านั้น ไดซาคุออกสีหน้าผิดหวังที่เห็น บุสก้า ในครั้งแรกตัวเล็กมาก (มองผ่านโถแก้ว นึกว่าตัวใหญ่) แต่ บุสก้า ขยายร่างได้นะ ไดซาคุเลยดีใจใหญ่ แล้วทำมั้ยมันมีรูปโถกระเบื้องเคลือบอยู่คู่กับ บุสก้า เป็นประจำก็มาจากตอนนี้แหละ....บุสก้า มีส่วนประกอบของสัตว์หลายชนิดดังนี้ หู มาจาก หมี ตา มาจาก กระต่าย ฟัน มาจาก หนู พุง (กระเพาะ) มาจาก แร็ดคูน หาง มาจาก หมู
ความลับของบุสก้า
1) เวลาโกรธจะมีควันหุ่งออกมาจากมงกุฎบนหัว ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานของบุสก้า ถ้ามนุษย์ได้สวมมงกุฏของบุสก้า ก็จะทำให้มีพลังเพิ่มขึ้น มงกุฏบนหัวยังใช้ได้อีกหลายอย่าง เช่น ใช้พ่นควัน (ตอนที่ 14) ออกมาจากมงกุฏนี้อำพรางศัตรู หรือในตอนที่ 17 บุสก้าใช้สองมือแตะที่หูทำให้มงกุฏส่องสว่าง 2) หูของบุสก้า สามารถได้ยินไปไกลถึง 10 กิโลเมตร3ตาและจมูกของบุสก้ามีสมรรถนะดีกว่าสุนัขเสียอีก โดยเฉพาะจมูกนี่ได้กลิ่นที่อยูไกลไปถึง 10 ไมล์เชียว แถมลูกตาของบุสก้านั้น สามารถมองเห็นได้แม้ในความมืด
4) ด้วยพลังแขน 100 ตัน บุสก้า สามารถน็อค ไจแอนท์ บาบะ (นักมวยปล้ำญี่ปุ่นที่เก่งที่สุดในยุคนั้น) ได้ด้วยแขนเพียงข้างเดียว ส่วนขาก็มีพลังเตะ 100 ตัน (ตอนที่ 43)
5) ถ้าใครมาแหย่สะดือ บุสก้า จะะหัวเราะไม่หยุด (ตอนแรก)
ก่อนจะกลายเป็นหนังดังที่สุดในยุคนั้นภาพยนตร์ทีวีชุดนี้มีชื่อเรื่องญี่ปุ่นคือ おれは男だ! Ore wa otoko da! หรือแปลให้เหมาะสมว่า “ข้าคือลูกผู้ชาย!” แต่บ้านเราตั้งชื่อว่า “เคนโด้” เพื่อความเหมาะสม เพราะคงไม่ค่อยมีใครรู้จักกีฬาชนิดนี้กันเท่าไหร่ฉายทางทีวีที่ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2514 ทางสถานีนิปปอนเทเรบิ มาฉายทางช่อง 9 ขาวดำที่เมืองไทยเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2514 ในเวลา 19.20 น. ทุกวันจันทร์....เคนโด้ ภาพยนตร์ทีวียอดฮิตในปีพ.ศ. 2514
นำแสดงโดย โมริตะ เคนซากุ และ ฮายาเสะ คูมิ..
....ขอขอบคุณ ข้อมูลจากคุณ booska
เคนโด้ ภาพยนตร์ทีวียอดฮิตในปีพ.ศ. 2514
นำแสดงโดย โมริตะ เคนซากุ และ ฮายาเสะ คูมิเนื้อเรื่องย่อ
โรงเรียนมัธยม อาโอบะ เป็นโรงเรียนที่มีนักเรียนหญิงเป็นส่วนใหญ่ กลุ่มนักเรียนชายที่มีจำนวนเล็กน้อยย่อมรู้สึกถูกครอบงำเป็นธรรมดา โคยิ โคบายาชิ (โมริตะ)นักเรียนหนุ่มเลือดร้อนที่เพิ่งย้ายเข้ามา ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เป็นมาในโรงเรียน จึงลุกขึ้นเรียกร้องสิทธิของนักเรียนชายอย่างเข้มแข็งด้วยการเปิดชมรมเคนโด้เพื่อเป็นสื่อในการรวบรวมจิตใจนักเรียนชาย แต่ต้องเริ่มต้นด้วยความลำบากตั้งแต่การหาอุปกรณ์กีฬาจากโรงเรียนอื่น และที่โรงเรียนไอซาว่า โคยิ ได้ประมือกับ ทังเกะ เรียวโกะ กัปตันทีม
หมายเหตุ คุณชูชาติ อินทร พากย์เสียง โคยิ ส่วน คุณมาลี ผกาพันธ์ พากย์เสียง มิซาโอะโคบายาชิ โคจิ กัปตันทีมเคนโด้ โรงเรียน อาโอบะแสดงโดย โมริตะ เคนซากุ และ " โยชิคาว่า มิซาโอะ กัปตันทีม ดรัมเมเยอร์ โรงเรียนอาโอบะ แสดงโดย ฮายาเสะ คูมิ
....ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณ booska
หนังสือการ์ตูนเด็ก ฉบับพิเศษ หุ่นอภินิหาร ที่ออกมาเอาใจเด็กๆตอบรับกระแสในหนังทีวีเมื่อปีพ.ศ.2511..
ฉากต่อสู้ระหว่างโกลด้ากับกิ้งก่ายักษ์..มีให้เด็กๆได้ตื่นตากันทุกสัปดาห์แค่นี้ก็สนุกถูกใจแล้ว..ทั้งๆที่ก็รู้ว่านั่นเป็นคนที่ไปสวมชุดยางมาสู้กันให้เราดู..
หุ่นยักษ์โกลด้าเดินทางไปบนท้องฟ้าด้วยการแปลงร่างเป็นจรวดในภาพนี้เป็นครอบครัวจรวด 3 ลำ..ซิลเวอร์..โกลด้า..และจรวดลำเล็กเป็นลูกชายที่ชื่อว่า คำ เมื่อมีเหตุร้ายเกิดขึ้นบนโลก..หนูน้อยมิกโก้จะเป่านกหวีดเพื่อเรียกหุ่นยนต์จรวดมาช่วยเป่า 1 ครั้งเรียก คำเป่า 2 ครั้งเรียก ซิลเวอร์..และเป่า 3 ครั้งเรียก โกลด้า
ภาพเปิดเรื่องของหุ่นอภินิหารหน้าจอโทรทัศน์ก่อนที่หนังจะฉาย..ใครที่เป็นเด็กๆในยุคนั้นคงพอจำกันได้
มิซากิ ยูริโกะ หรือ มนุษย์คลื่นไฟฟ้า Tackle ผู้ช่วยไอ้มดแดง stronger ผู้ที่แสดงเป็น มิซากิ ยูริโกะ หรือ มนุษย์คลื่นไฟฟ้า Tackle ก็คือ Kyoko Okada .ใครจำละครตัวนี้ได้บ้าง.. cgi-bin/board/YaBB.pl?num=1240643309%2F0
Tackle & Stronger คาเมนไรเดอร์สตรองเกอร์ มีภาพลักษณ์ที่ได้แรงดลบันดาลใจมาจากด้วงแรดของญี่ปุ่นและสวมเครื่องแบบที่คล้ายกับเครื่องแต่งกายของนักอเมริกันฟุตบอล โดยมีตัวอักษร S อยู่ตรงกลางอกแบบซูเปอร์แมน ทั้งนี้ผู้ออกแบบมีวัตถุประสงค์ต้องการให้ตัวละครหลักนี้แลดูแข็งแกร่ง ให้สมกับชื่อ "สตรองเกอร์" นั่นเองโจ ชิเงรุ ( Jō Shigeru ) ชายหนุ่มอายุ 22 ปี ผู้เป็นนักอเมริกันฟุตบอลระดับมหาวิทยาลัย โดยในภายหลัง เขาได้เกิดความเคียดแค้นต่อองค์กรแบล็คซาตาน ที่นำเพื่อนรักของตนไปผ่าตัดทดลองเป็นมนุษย์ดัดแปลง ทว่า การผ่าตัดกลับล้มเหลว ส่งผลให้เพื่อนรักของเขาต้องสิ้นใจ "โจ ชิเงรุ"มีความปรารถนาที่จะล้างแค้น เขาตัดสินใจเสนอตัวให้องค์กรแบล็คซาตานผ่าตัดตนเอง เพื่อให้กลายเป็นผู้ที่มีความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ ภายหลังจากการผ่าตัดประสบผลสำเร็จ โจ ชิเงรุจึงลักลอบหนีออกจากองค์กรแบล็คซาตาน และรอคอยวันที่จะกำจัดองค์กรแบล็คซาตานให้พินาศ เพื่อสันติสุขของชาวโลกต่อไป เครดิตhttp://www.thai-toku.com/cgi-bin/board/YaBB.pl?num=1240643309%2F0
หน้ากากแสงจันทร์GEKKO KAMEN สติกเกอร์ชุดนี้ใครๆต้องเคยเอาไปแปะกระเป๋านักเรียนแน่ๆ.. เครดิต bookka SIDE KICK HERO BUDDY
MACH CONDOR ( マッハコンドル) 1975 คอนดอร์แมนคอนดอร์แมนเป็นฮีโร่สวมผ้าคลุมของผู้กำกับ คาวาอุจิ โคฮัน ( 川内康範)..ผู้ที่เคยสร้างตำนานฮีโร่หน้ากากแสงจันทร์ GEKKO KAMENและ ยอดมนุษย์สายรุ้ง RAINBOW MAN จนโด่งดังมาแล้ว..แต่พระเอกคอนดอร์แมนของเขาคราวนี้ดูจะไม่เหมาะกับยุค 1975 เสียชีวิตแล้ว..กลายเป็นฮีโร่ตกเทรนด์..เพราะหนังสร้างไปได้แค่ 24 ตอนก็ต้องจบชุดลงแล้ว..ส่วนรถสปอร์ตเปิดประทุนสีเหลืองสดของพระเอก..ก็ยังคงโดดเด่นในสีสันตามสมัยนิยมของยุคนั้น.. - See more at: http://www.j-plan.co.th/index.php?op=jlife-detail&cid=15&id=328#sthash.Y8tD9TA5.dpuf
ย้อนกลับไปประมาณ ปีพ.ศ. 2515 - 2516 ทุกเย็นวันพฤหัสฯ มีหนังฮีโร่อีกเรื่องหนึ่งที่แหวกกระแสหนังฮีโร่ในสมัยนั้น ....
ด้วยเนื้อหาที่ออกแนวดราม่าผสมกับเนื้อหาที่แหวกแนวด้วยการนำเอาชื่อวันต่างๆในสัปดาห์ มาผสานเข้ากับเนื้อเรื่องที่ตัวเอกแม้จะเก่งกาจ แต่ก็มีบ่อยครั้งที่ต้องเพลี่ยงพล้ำให้แก่ศัตรู แม้พระเอกจะมีอาคมอันเก่งกาจแต่เมื่อเจอกับวิทยาศาสตร์อันชั่วร้ายและความโลภ ก็ทำให้เขาเกือบสิ้นชื่ออยู่หลายครั้งเขาก็คือ ยอดมนุษย์สายรุ้ง RAINBOWMAN นั่นเอง.....
จากนักมวยปล้ำผู้ต้องการฝึกปรือฝีมือให้เก่งกล้ากว่าผู้ใด เพื่อหาเงินมารักษาขาทีพิการของน้องสาว ทำให้เด็กหนุ่มนาม ยามาโตะ ทาเคชิ ออกเดินทางไปถึงเทือกเขาหิมาลัยเพื่อตามหา ผู้เฒ่าวิเศษที่เขาได้ยินมาจากรุ่นพี่ว่าเก่งกาจด้านการต่อสู้ น่าเสียดายเมื่อเขาเดินทางไปถึงก่อนจะได้พบกับผู้เฒ่าเขาก็ต้องตายในสมรภูมิจากฝีมือของทหาร ดีที่ท่านผู้เฒ่าสามารถหยั่งรู้ด้วยญาณทิพย์ทำให้มารักษาเขาได้ทันท่วงทีและฝึกปรือให้เขาเป็นยอดมนุษย์สายรุ้ง แต่ไม่ใช่เพื่อเงิน แต่เพื่อปกป้องสันติภาพและความสงบสุขของชาวโลกพระเอกของเราสามารถแปลงกายได้เจ็ดร่างครับcgi-bin/board/YaBB.pl?num=1215839996%2Fall
ยอดมนุษย์สายรุ้ง
สายรุ้งสายที่หนึ่ง พลังแห่งแสงจันทร์ สามารถหดกระดูกเปลี่ยนกล้ามเนื้อด้วยวิชาโยคะชั้นสูง สามารถดูดเอาพิษออกจากร่างกายของตนเองและผู้อื่น อาวุธสูงสุดของร่างนี้ก็คือ สามารถเรียกสายฟ้ามาเป็นอาวุธได้ ร่างนี้เป็นตัวแทนของวันจันทร์
สายรุ้งสายที่สอง พลังแห่งเพลิง สามารถยิงไฟประลัยกัลป์ความร้อนสูงออกมาได้ อีกทั้งยังสามารถทนทานต่อความร้อนได้ เป็นตัวแทนของวันอังคาร
สายรุ้งสายที่สาม พลังแห่งสายน้ำ สามารถฉีดน้ำออกจากปลายนิ้วเพื่อดับไฟและดำน้ำได้ลึก เป็นตัวแทนของวันพุธ
สายรุ้งสายที่สี่ พลังแห่งต้นไม้และสายลม สามารถหลบซ่อนตัวในต้นไม้ใหญ่ อีกทั้งใช้เสียงใบไม้เสียดสีเป็นอาวุธ นอกจากนี้ยังใช้ใบไม้แทนอาวุธลับซัดใส่ศัตรูได้ เป็นตัวแทนวันพฤหัส
สายรุ้งสายที่ห้า พลังแห่งทองคำ นอกจากร่างที่เจ็ดแล้ว ก็มีร่างนี้ที่บินได้ใช้สำหรับลาดตระเวนบนท้องฟ้า มีแสงทองคำจากปลายนิ้วเป็นอาวุธ เป็นตัวแทนวันศุกร์
สายรุ้งสายที่หก พลังแห่งแผ่นดิน เป็นร่างที่ใช้ดำดินเพื่อค้นหาฐานศัตรูในใต้ดิน นอกจากนี้ยังมุดดินเพื่อหลบหนีและสามารถใช้คาถาแยกแผ่นดินหรือธรณีสูบได้ เป็นตัวแทนวันเสาร์
สายรุ้งสายที่เจ็ด พลังแห่งแสงอาทิตย์ เป็นร่างหลักของยอดมนุษย์สายรุ้งก่อนจะแปลงเป็นร่างอื่นๆสามารถบินได้ มีอาวุธมากมายใช้สยบศัตรู.... เครดิตhttp://www.thai-toku.com/cgi-bin/board/YaBB.pl?num=1215839996%2Fall
“ DEVILMAN ” ค้างคาวกายสิทธิ์ หนังซีรี่ส์ปี 1972 สร้างโดย TOEI ANIMATION กำกับภาพยนตร์โดย MASAYUKI AKIHI และ TOMOHARU KATSUMATA อำนวยการสร้างโดย KEN ARIGA และ YOSHIFUMI HATANO เขียนบทโดย MASAYUKI TSUJI, SUSUMU TAKAKU,
TADAKI YAMAZAKI และ TOYOHIRO SHIMOKAWA ความยาว 39 ตอนๆละประมาณ 20 นาที
หนังซีรี่ส์เรื่องนี้ยังจบไ
ม่สมบูรณ์แบบ เป็นหนังการ์ตูนที่ติดท็อปฮ
ิตเรื่องหนึ่งในยุคนั้น เพลงประกอบไพเราะมาก เนื้อเรื่อง อา กิระ ฟูโด คือเเด็กกำพร้าที่ครอบครัว มากิมูระ รับไว้เลี้ยงดู หลังจากที่พ่อแม่ของเขาเสีย
ชีวิต จากนั้นเขาก็ใช้ชีวิตตามประ
สานักเรียนม.ปลายทั่วไปกับเ
พื่อนสนิทชื่อ เรียว อาซุกะ แต่แล้วกองทัพปีศาจได้เคลื่
อนทัพเข้าบุกโลก อากิระจึงยอมให้ปีศาจเข้าสิ
งร่างก่อนที่จะใช้พลังจิตอั
นแข็งแกร่งสยบมันเอา ไว้ในร่างและยืมพลังจากปีศาจเพื่อแป
ลงร่างเป็น เดวิลแมน เขาจึงใช้พลังอำนาจของปีศาจ
เข้าห้ำหั่นกับพวกปีศาจเพื่
อปกป้อง มิกิ หญิงคนรักและมวลมนุษยชาติ แต่ว่าในท้ายที่สุดเขากลับพบว
่า เรียว เพื่อนรักของเขานั้นกลับกลา
ยเป็นซาตานไปแล้ว หรือนี่คือเจุดจบของมวลมนุษ
ยชาติ และเขาจะสามารถช่วยชีวิต มิกิ ไว้ได้หรือไม่? แล้วอนาคตของโลกจะเป็นเช่นไ
ร?....เครดิต
http://thaiboran.com/index.php/topic,337.0.html
หนังสือ ดารา ทีวี เล่มละ 2 บาท เมื่อปี 2514ในสมัยที่โทรทัศน์ในกรุงเทพยังเป็นช่อง 3 4 7 9 มักจะมีหนังสือคู่มือการชมทีวีรายการต่างๆ บ้างก็แจกฟรี ถ้าทำโดยช่องโทรทัศน์เอง หรือ จำหน่ายแบบราคาย่อมเยาว์ก็มี ภายในจะบอกรายการโทรทัศน์ในแต่ละวันและช่วงเวลาของแต่ละช่องว่ามีอะไรบ้างพร้อมกับสอดแทรกภาพ, ข่าวหนังหรือรายการใหม่ , ดารา, เรื่องย่อ เล็กๆน้อยๆ ประกอบด้วย