เก็บรักไว้ในส่วนลึก ep.3
EP.1 >> https://board.postjung.com/985907.html
EP.2 >> https://board.postjung.com/986805.html
อะไรกัน มันไม่ใช่ความฝันใช่ไหม?
“ยัยเอส...”
“เอส...”
“ยัยเอส...”
“ยัยเอสเทอร์!” เสียงยัยนิวเยียร์ตะโกนล้าดังทำให้ฉันตื่นจากภวังค์
“แกจะตะโกนทำไมว้ะ...”ฉันพูด
“แกนั่นแหละ ยืนเอ๋อเด๋ออยูได้ ไปกันได้แล้ว”เยียร์พูดเมื่อเห็นฝั่งชายเริ่มเดิน
“อ้าว...ทำไมไม่เรียกห้ะ”ฉันถามเสียงห้วน
“เดี๋ยวฉันก็ตะบันหน้าแกให้หรอก ฉันเรียกแกตั่งสามสี่รอบแล้วน้ะ แกก็มัวยืมเหม่ออยู่นั้นแหละ เหม่อมองอะไรก็ไม่รู้...เออว่าแต่แกกะเอเทลล์ทำไมจ้องกันอย่างกับเจอนางฟ้าเทวดาล้ะ สายตาไม่ขยับไปไหนเล้ยยยย”เยียร์พูด
“จะไปรู้เรอะยัยบ้า”ฉันตอบกลับแล้วเดินตามฝั่งชายไป
“อ้าว ยัยบ้า มีความลับก็ไม่บอก”นิวเยียร์พูดเบาๆกับตัวเองแล้วส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับเพื่อนของตัวเอง
“เธออยากกินอะไรล้ะ เอสเทอร์”โปรเจกต์หันหน้ามาถามฉัน
“อืม...ฉันหรอ...อะไรก็ได้น้ะ”ฉันตอบกลับไป โปรเจกต์ก็ทำแค่ยิ้มหวานแล้วพยักหน้า
“นี่ๆ กินร้านนี้ดีกว่า”ฟอลโล่หันมาพูด แล้วลากแขนยัยเยียร์เข้าไปในร้าน sizzler
“เอ้อ เดี๋ยวค่าหัวของเธออ้ะไอ้เทลล์มันจ่ายให้น้ะเอสเทอร์ ส่วนเธอฉันออกเอง”ฟอลโล่หันมาพูดกับฉันแล้วสะบัดหน้าไปทางยัยเยียร์
“ไม่เป็นไร ฉันกินฉันก็ต้องจ่ายเองสิ”ฉันพูดกับฟอลโล่แต่เอเทลล์มองฉันอย่างไม่เข้าใจ
“เดี๋ยวค่าตัวเอฉันออกเอง ห้าม!.........ปฎิเสธ”เอเทลล์พูดแล้วหันไปพูดกับพนักงานแล้วเดินเข้าไปในร้าน
“เจ็ดที่ครับ” =0=
แหม่ๆ ช่างเลือที่นั่งให้ฉันจริงจริ๊งงงงง ฉันนั่งตรงกลางตรงข้ามคือเอเทลล์ฝั่งซ้ายของเค้าคือยัยเยียร์ฝั่งขวาคือโปรเจกต์ฝั่งซ้ายของฉันคือเรดส์ที่นั่งตรงข้ามกับโปรเจกต์ฝั่งขวาคือฟอลโล่ที่นั่งตรงข้ามกับยัยเยียร์ส่วนเทนเดอร์นั่งตรงมุมโต๊ะฝั่งซ้ายมือของฉัน ทำม๊ายยยยย ฉันต้องนั่งตรงข้ามเค้าด้วยยยยยย
“แล้วเธอ...อยากทานไรล่ะ หื้ม” ฟอลโล่ถามนิวเยียร์ด้วยคำแปลกๆ
“อะ...เอ่อ....ได้ทุก...อย่าง”อร๊ายยยย ยัยเยียร์หน้าแดงใหญ่เล้ย
“อะ...อื้ม”อ๊าย สองคนนี้ยังไงกันเนี่ย ยัยเยียร์กับฟอลโล่หน้าแดงแปร๊ดเลยน้า
Atal talk
ผมกำลังมอง.......มอง.....เจ้าของรอยยิ้ม ดูคล้ายกับความสุขที่ผสมปนเปไปกับความเศร้า รอยยิ้มที่ทำให้ผมจ้องมอง จ้องแล้ว จ้องอีก จ้องจนรู้สึกประหลาด ความสุขกำลังแล่นผ่านเข้ามาในหัวใจช้าก่อนจะค่อยๆกลายเป็นความสุขที่เอ่อล้นอยู่เต็มไปหมด ทำไม.... ทำไมน่ะ...ทำไม...ทำไมดวงตาของเธอช่างสวยงามอะไรเช่นนี้ ดวงตากลมโตแสนจะน่ารักคิคุอาโนเนะเรียกได้ว่าไม่เหมาะกับการที่นัยน์ตาจะฉายแววแห่งความโศกเศร้าเอาซะเลย แต่ทำไม...เมื่อเธอคนนี้เป็นเจ้าของดวงตาคู่นั้นมันกลับดูดีแบบไม่น่าเหลือเชื่อ เธอกำลังคิดอะไรอยู่น่ะ ผมอยากจะแวบเข้าไปในสมองเธอจริง
“เทลล์...”
“เอเทลล์...”
“เทลล์ย่าส์...”
“ไอ้คุณเอเทลล์!” เหวอ! ไอโปรเจกต์เรียกผมสามสี่รอบแล้วแต่ผมมัวเหม่อกับภาพหน้าจอข้างหน้าจนลืมตัว
“อืม...ขอโทด”ผมพูดสั้นๆแล้วหลุบตาต่ำลงมาที่จานรับรอง
“จะกินไร สั่งสิ”โปรเจกต์พูดกับผมน้อยเบาๆแล้วมองที่พนักงานสาว ผมจิ้มไปที่รูปนึงที่คิดว่ามันมีเสต็กชิ้นน้อยๆ แต่มันบดเยอะ ฮ่าๆๆ คงไม่เชื่อล่ะสิว่าหนุ่มนักบอลเย็นชาอย่างผมจะชอบกินอะไรแบบนี้ อ่อ ผมชอบกินสตอวเบอร์รี่ กับขนมที่เป็นรสสตอวเบอร์รี่ด้วยล่ะ เอาเป็นว่าชอบทุกอย่างที่เกี่ยวกับมันยกเว้นนมรสสตอวเบอร์รี่ อ่า อยากกินซุปเห็ดแล้วล่ะสิ
“เดี๋ยวมาน่ะเว้ย”ผมหันไปพูดกับไอโปรแล้วเหลือบๆมองเอสเทอร์นิดนึงเธอจ้องผมเขม็งเลย ง้า อย่ามองแบบนั้นสิ น่ากลัวววววว
Aster talk
เง้อออออ มองเอเทลล์มุมนี้แล้วเค้าหล่อแบบไม่บันยะบันยังโลย เอเทลล์ลุกไปนานแล้วฉันยังยิ้มอยู่เลย เอิ๊กส์ๆ คนอะไรหน้าตาดีขนาดนี้เนี่ย เฮ้อออออ ฉันเลือกกินสิ่งที่มันน้อยที่สุด นั้นก็ชุดเด็กน้ะแหละ เพื่อไว้กินซุปเยอะๆ 55+ ชอบๆ มาก กินแทนข้าวได้เล้ยยยยย
“ยัยเอสฉันอยากเข้าห้องน้ำอ่า เดี๋ยวมาน่ะ” อ้าววววว
“ง้า =0=”ทำไมแกต้องไปตอนที่เอเทลล์เดินกลับมาด้วยเนี่ยยยยยย เดินมาพร้อมซุป ซุป ซุป ซุป ซุปจ๋า คิดถึงจังงงงงง ฉันค่อยๆลุกขึ้น แล้วเก็บเก้าอี้เข้าที่
“ไปไหนหรอ”เรื่องของฉันโว้ยย ฟอลโล่ถามฉัน เอ๋ ว่าแต่ทำไมเอเทลล์เอาสตอวเบอร์รี่จิ้มกินกับซุปอ้ะ อย่าบอกน่ะว่าเขาเป็น..........
“ไปตักซุปจ้ะ”ฉันตอบไปด้วยน้ำเสียงใสๆ(กัดฟันนิดนึง)
หลังจากที่ฉันเดินไปตักซุปเสร็จฉันก็กลับมานั่งที่เดิม เราคุยกันไปกินไปหัวเราะไป มันเหมือนมีความสุขบางๆผ่านเข้ามาในช่วงนี้เลยอ่ะ
“เอ้อ เอสเทอร์ คือ...แบบว่า...เธอมีแฟนยังอ่ะ”เฮือก ถามยังนี้เล่นเอาไปไม่เป็นเลย มาถามทำไมตอนนี้ฟ้ะ หึ้ยยยยยยย ฟอลโล่น่ะฟอลโล่
“เอ่อ......คือ เคยมีน่ะ”ตอบตามความจริง
“หมายความว่าไง เคยมี แล้วทำไมไม่มีคนใหม่อ่ะ ”ก็หมายความว่าเคยมีแต่ตอนนี้ไม่มีไง ตาเบื๊อก
“ก็คือ...แฟนยัยเอสอ่ะชื่อเรนท๊อป เสียเมื่อสองปีที่แล้ว ยัยนี่มันยังทำใจไม่ได้ก็เลยยังไม่คบกับใครเพราะกลัวว่าเรนจะโกรธเอาน่ะ” พูดทำไม
“เปลี่ยนเรื่องเถอะ...........”ยิ้มสิยัยเอส แกต้องยิ้มน่ะ
“อ่า ยัยบ้านี่ขี้งอลน่ะ ฮ่าๆๆๆๆ”
บทที่ 1
ชายชราอายุราวๆหกสิบ ผมสีขาวโพลน นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้หน้าบ้านในมือลูบคลำไซเรนรูปปีกนก ภาพในอดีตฉายเข้ามาทีละฉากคล้ายกับว่ากำลังระลึกความทรงจำตอกย้ำไว้ว่าห้ามลืมมันเด็ดขาด เขาหัวเราะกับตัวเองเบาๆ ในเวลาที่ย่างเข้าช่วงบ่าย แสงแดดอ่อนๆส่งความรู้สึกอบอุ่นผ่านเข้ามาในหัวใจแต่สายของเขาหาตรงกับความรู้สึกไม่ สายตาของชายชรามองไปยังปลายขอบฟ้าดวงตาแสดงความรู้สึกที่ว่างเปล่าแต่เศร้าสร้อย ชายชราเดินกลับเข้าไปในบ้านล้มตัวลงเอนหลังลงบนโซฟาสีครีมแก่ การตบแต่งบ้านเป็นไสตล์เรียบง่าย บ่งบอกได้ว่าเจ้าของบ้านเคว้งคว้างและว่างเปล่า ชายชราหลับตาลงแล้วนึกภาพในอดีต