10 ข้อเท็จจริงของ "นักบวชกินคน" ในอินเดีย ที่จะทำให้คุณขนหัวลุก
Aghori คือนักบวชหรือฤาษีในประเทศอินเดีย ที่รู้จักกันในเรื่องของพฤติกรรมความเชื่อแปลกๆ ที่ผิดมนุษย์มนา โดยเฉพาะพิธีกรรมการกินเนื้อมนุษย์ ที่ใช้กระโหลกศีรษะของคนมาเป็นส่วนประกอบ และการมีเพศสัมพันธ์กับศพ นอกจากนั้น Aghori ยังสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า และเล่นยาเสพติดอีกด้วย
ลองไปชม 10 ข้อเท็จจริงของพวกฤาษีกินคนเหล่านี้ แล้วจะรู้ว่า พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่ชวนหลอนที่สุดกลุ่มหนึ่งบนโลกนี้ก็ว่าได้
1. สาวกของเจ้าแม่กาลี
พวกเขาเชื่อว่าเจ้าแม่กาลี พึงพอใจกับการกินเนื้อมนุษย์ เหล้า และเพศสัมพันธ์ จึงส่งผลให้พิธีกรรมของพวกเขา มักจะมีสิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องอยู่เสมอ
2. อยู่เป็นโสด...แต่
เช่นเดียวกับนักบวชนิกายอื่นๆ พวกเขาต้องอยู่เป็นโสด แต่ Aghori จะเสพสังวาสกับศพมนุษย์ด้วย
3. แสวงหาความบริสุทธิ์ผ่านพิธีกรรมที่แสนสกปรก
ในพิธีกรรมของนักบวช Aghori พวกเขาจะมุ่งระลึกถึงพระเจ้า ในขณะที่กำลังมีเพศสัมพันธ์กับศพ หรือในขณะที่กำลังกินสมองมนุษย์
4. รู้จักแบ่งปันและป้องกัน
พวกเขารู้จักแบ่งปันอาหารของพวกเขาให้กับสุนัขและวัว และสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากศพ เพื่อป้องกันตัวเองจากโรคและยุง
5. กระโหลกมนุษย์
กระโหลกมนุษย์ คือสัญลักษณ์ที่แท้จริงของนักบวช Aghori พวกเขาจะใช้หลุมไฟแทนวัด และบ้านเป็นสถานที่ประกอบพิธี
6. การทำสมาธิ
สถานที่ๆ นักบวช Aghori ใช้ทำสมาธิก็คือสุสาน ซ่งพวกเขามักจะทำกันยามดึก เพราะถือว่านี่ถือสงบและดูมีมนต์ขลัง
7. ไม่อวยพร
แทนที่จะสวดอวยพร แต่พวกเขาเลือกที่จะสาปแช่งผู้คนที่ดูหมิ่นพวกเขา และจะขว้างอุจจาระเพื่อเป็นการตอบโต้
8. นิสัยการกินที่น่าขยะแขยง
พวกเขากินปัสสาวะ อุจจาระ และซากศพของมนุษย์ เพื่อที่จะกำจัดอัตตา และบรรลุในความเชื่อของตนเอง
9. กินเปิดเผย
แน่นอนว่า พวกเขาไม่รู้สึกละอายต่อการกินศพ จึงทำให้พวกเขากินศพดิบๆ ถึงที่ฌาปนกิจ ได้อย่างเปิดเผยต่อหน้าสาธารณะชน
10. แฟชั่นสุดแนว
นักบวช Aghori มีแนวแฟชั่นเป็นของตัวเอง พวกเขาใช้ขี้เถ้ามาปกคลุมร่างกาย และนำกระโหลกมาทำเป็นเครื่องประดับ
และนี่ก็คือเรื่องราวของนักบวช Aghori ที่แม้แต่ชาวอินเดียด้วยกันยังไม่ยอมรับ และพยายามขับไล่คนเหล่านี้ออกไปให้ไกลที่สุด จนสุดท้าย นักบวชนอกรีตเหล่านี้จึงต้องอพยพไปอยู่ในป่า แต่เนื่องจากทำเลที่อยู่อาศัยของ Aghori อยู่ในแถบพาราณสี ซึ่งมีแม่น้ำคงคาไหลผ่าน จึงทำให้พวกเขามีศพกินตลอดทั้งปี เพราะชาวอินเดียนิยมเผาศพและปล่อยให้ลอยตามแม่น้ำมานั่นเอง