สีของขี้มูกบอกอะไรคุณ
หากคุณมีขี้มูกสีขาวอาจจะเป็นเพราะคุณกินอาหารประเภทนม และโยเกิร์ตในปริมาณมาก ไขมันจากผลิตภัณฑ์ประเภทนมสามารถเปลี่ยนลักษณะของขี้มูกทั่วไปให้มีลักษณะ ข้นและเหนียวขึ้น คุณควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทนี้ในช่วงที่คุณเป็นหวัดหรือไซนัส หากร่างกายของคุณผลิตขี้มูกสีขาวข้น เพื่อช่วยคุณหายใจได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าคุณสบายดีแต่เผอิญมีขี้มูกสีขาวก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ
ขี้มูกสีเหลือง
ถ้าคุณมีขี้มูกสีเหลืองนั่นอาจจะเป็นสัญญาณที่บอกว่าคุณติดเชื้อไซนัส ขี้มูกสีเหลืองอ่อน หรือสีเหลืองแสดงให้เห็นว่าร่างกายกำลังต่อสู้กับเชื้อโรคในร่างกายในช่วง ที่เป็นหวัด ช่วงแรกที่เริ่มมีอาการขี้มูกมักจะมีสีเหลืองอ่อน หลังจากนั้นประมาณ 2-3 วันก็จะมีสีเข้มขึ้น เสมหะสีเหลืองเข้มอาจเป็นสัญญาณของโรคหลอดลมอักเสบ หรือติดเชื้อในอก การที่คุณมีน้ำมูกสีเหลืองไม่ใช่เรื่องที่คุณจะกังวลและหน้าตาตื่นไปหาหมอ ร่างกายของคุณกำลังต่อสู้กับเชื้อโรคอยู่ก็เท่านั้นเอง ยาฆ่าเชื้อช่วยได้แค่ลดการติดเชื้อของแบคทีเรียเท่านั้น เพราะหวัดยังไม่มียารักษาคุณหมอทำได้แค่รักษาตามอาการเท่านั้น
ถ้าหากคุณเป็นหวัดมาเกิน 1 อาทิตย์แล้วยังไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น แถมยังมีอาการหนักกว่าเดิมอีก หากมีไข้ ปวดหัว ไอแบบมีเสมหะ ก็ควรไปพบแพทย์
ขี้มูกสีน้ำเงิน
ขี้มูกสามารถเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินได้หากมีแบคทีเรียที่ชื่อ Pseudomonas pyocyanea อยู่ในร่างกาย โดยเฉลี่ยแล้ว 1 ใน 10,000 คนจะมีขี้มูกสีน้ำเงิน ถ้าขี้มูกของคุณมีสีน้ำเงิน และมีความเหนียวมากขึ้นมากหลายวัน นี่อาจจะถึงเวลาแล้วที่คุณต้องไปพบแพทย์
แต่ถ้าคุณสูดสารเคมีหรือฝุ่นแป้งสีน้ำเงินเข้าไปก็สามารถทำให้ขี้มูกของ คุณเป็นสีน้ำเงินได้เหมือนกัน แต่ลักษณะของขี้มูกจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมภายใน 1-2 วัน
ขี้มูกสีเขียว เป็นสัญญาณที่บอกว่าคุณติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อรา
สีเขียวเกิดจากปฏิกิริยาของเม็ดเลือดขาวต่อต้านการติดเชื้อในร่างกาย เมื่อเม็ดเลือดขาวตาย ก็เลยปล่อยสารสีเขียวออกมา เมื่อสารสีเขียวปนกับเสมหะเลยทำให้เสมหะมีสีเขียว ตอนแรก ๆ จะมีสีเขียวอ่อนและค่อยเข้มขึ้น 2-3 วันหลังจากมีขี้มูกสีเขียวอ่อน
อาการของไซนัสอักเสบทำให้บริเวณโพรงจมูกบวมขึ้น เลยทำให้น้ำมูกติดอยู่ภายในจมูกเกิดการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อราในน้ำมูก หากเป็นเช่นนี้แสดงว่าคุณต้องกินยาแก้อักเสบแล้วค่ะ
ถ้าหากคุณเป็นหวัดมาเกิน 1 อาทิตย์แล้วยังไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น แถมยังมีอาการหนักกว่าเดิมอีก หากมีไข้ ปวดหัว ไอแบบมีเสมหะ และปวดบริเวณจมูก ให้ไปพบแพทย์
ขี้มูกสีส้ม แดงส้ม หรือสีสนิม
หากขี้มูกมีสีแดง หรือแดงน้ำตาลปนนั่นก็เท่ากับว่ามีเลือดปนออกมานั่นเอง เลือดที่ปนกับน้ำมูกออกมาไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องกังวลทุกครั้งไป มันอาจจะเป็นเพราะไซนัสอักเสบเลยเลือดไหล หรือไม่ก็เจ็บจมูก เส้นเลือดฝอยในจมูกก็ขาดง่ายเลยทำให้เลือดปะปนไปกับขี้มูก สาเหตุก็เนื่องมาจากอากาศแห้งเกินไป คุณสามารถใช้น้ำเกลือหยอดจมูกเพื่อรักษาความชุ่มชื้นภายในจมูกเอาไว้ และสั่งน้ำมูกเบา ๆ
ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้มักจะมีน้ำมูกสีส้มแดง หากว่าเสมหะของคุณเป็นสีนี้ อาจจะเป็นสัญญาณที่บอกว่าคุณเป็นหลอดลมอักเสบ แต่ถ้าคุณมีเลือดออกเป็นจำนวนมากติดต่อกันหลายวัน คุณควรไปพบแพทย์เพื่อการรักษาที่ตรงสาเหตุ
ขี้มูกสีน้ำตาล
ขี้มูกสีน้ำตาลส่วนใหญ่พบในคนที่สูบบุหรี่ เนื่องจากขี้มูกได้รับสารประกอบต่าง ๆ จากบุหรี่
การสูบบุหรี่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อจมูกเลยทำให้เลือดไหลได้ เลือดและสารประกอบต่าง ๆ ในบุหรี่ผสมกับขี้มูกเลยทำให้ขี้มูกหรือเสมหะกลายเป็นสีน้ำตาล ถ้าคุณมีเสมหะสีนี้ก็สืบเนื่องมาจากการสูบบุหรี่เช่นกัน หากสูบบุหรี่น้อยลงก็จะสามารถช่วยบรรเทาการผลิตเสมหะสีนี้ได้
ขี้มูกสีดำหรือสีเทา
ขี้มูกสีเข้มมีสาเหตุมาจากการหายใจเอามลภาวะทางอากาศเข้าไป ดังนั้นด่านแรกคือการกรองมลภาวะเหล่านี้จากจมูก น้ำมูกจึงทำหน้าที่ดักจับฝุ่นควัน สิ่งสกปรก ทั้งหลายในอากาศเอาไว้ คงไม่แปลกใจใช่ไหมคะ ที่เราจะพบขี้มูกสีแบบนี้ในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานคร
ตื่นเช้ามามีเสมหะ ตกกลางคืนไอ
ถ้าตื่นเช้ามาคุณมีเสมหะ หรือไอตอนกลางคืน อาจจะเกิดจากกรดไหลย้อน เพราะตอนที่คุณนอน กรดสามารถไหลย้อนขึ้นมาที่คอได้ เลยทำให้คุณไอ มีเสมหะและคันคอ บางคนเป็นกรดไหลย้อนแต่ไม่มีอาการของอาการจุกเสียดยอดอกหรือท้องเสียเลย
ลองปรึกษาคุณหมอดูถ้าคุณคิดว่าคุณเป็นกรดไหลย้อน ยาลดกรดอาจช่วยแก้ปัญหานี้ได้ นอกจากนี้คุณควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารอิ่มก่อนนอน และควรนอนให้ศีรษะสูงขึ้นประมาณ 5 นิ้วก็ช่วยให้กรดไม่ไหลย้อนขึ้นมาแล้วล่ะ
ปกติแล้วไวรัสเริ่มทำปฏิกิริยากับน้ำมูก แล้วเปลี่ยนให้มีสีเขียวหรือเหลือง หลังจากนั้นก็จะมีสีเข้ม แต่พอใกล้จะหายขี้มูกอาจจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล หรือแดง หลังจากนั้นขี้มูกก็ลดความเหนียวลงและกลับมามีลักษณะปกติ
วิธีบรรเทาอาการเมื่อมีขี้มูก
- ใช้เสปรย์พ่นจมูกเพื่อรักษาความชุ่มชื้นภายในโพรงจมูก
- ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อลดความเหนียวของขี้มูก และทำให้โพรงจมูกมีความชุ่มชื้น
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงการอดอาหารเมื่อคุณไม่สบาย เพราะว่าร่างกายต้องการพลังงานเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคในร่างกาย
- รับประทานยาแก้ปวดลดไข้ เพื่อช่วยบรรเทาอาการ
- น้ำอุ่นช่วยให้บรรเทาอาการแน่นจมูกได้
- เมื่อมีเสมหะควรคายทิ้ง ไม่ควรกลืนลงคอ
- ใช้ยาอมเพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นในคอ หรือทานน้ำผึ้งสัก 1 ช้อนก็ช่วยบรรเทาเสมหะและไอลงได้
- หากเป็นภูมิแพ้ ก็สามารถทานยาแก้แพ้เพื่อช่วยบรรเทาอาการ
- ถ้าคุณมีขี้มูกสีเหลืองหรือสีเขียวติดต่อกันหลายวัน ควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาเรื่องการใช้ยาแก้อักเสบ
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และอยู่ใกล้กับควันบุหรี่
- ขี้มูกสีแปลก ๆ ไม่ใช่สัญญาณอันตรายเสมอไป หากมีขี้มูกสีแปลก ๆ อาจจะเป็นเพราะคุณกำลังมีไข้ ปวดหัว และไอ
สีของขี้มูกเป็นเพียงสิ่งที่คุณสามารถสังเกตความผิดปกติของร่างกาย แม้ว่าขี้มูกของคุณจะมีสีปกติก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ติดเชื้อ หากคุณไม่มั่นใจ ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์เพื่อการรักษาที่ตรงสาเหตุ
ความจริงของขี้มูกที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน
1. ร้อยละ 70 ยอมรับว่าตัวเองแคะขี้มูก ฟังดูแล้วน่าขยะแขยงใช่ไหม
2. จริง ๆ แล้วการกินขี้มูกไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรนักหรอก เพราะขี้มูกที่ถูกกินเข้าไปช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้แต่การใช้มือหรือ เล็บที่เปื้อนเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างหากทำให้คุณติดโรคและไม่สบาย ขี้มูกเลยถูกป้ายความผิดให้กลายเป็นผู้ร้าย
3. ไม่มีใครอยากมีขี้มูก แต่เชื่อไหมคะว่ามีขี้มูกอยู่นั้นกลับมีประโยชน์ เพราะขี้มูกทำให้คุณรู้ว่าร่างกายของคุณกำลังทำงานอย่างปกติ เพราะน้ำมูกช่วยดักจับฝุ่นหรือเชื้อโรคที่คุณหายใจเข้าไปก่อนที่จะไปสู่ปอด คุณ เมื่อฝุ่น ผง ทราย ควัน เชื้อโรค หรือสารพัดสิ่งที่เข้าสู่จมูกคุณผสมกับน้ำมูกแห้ง ผลลัพธ์ที่คุณได้ก็คือขี้มูกนั่นเอง
4. ร่างกายคนเราผลิตน้ำมูกถึง 1-1.5 ลิตรต่อวัน แต่มันได้ไหลลงคอโดยที่คุณไม่รู้ตัว