วิธีใช้หนี้พ่อแม่
คนเราเกิดมาพร้อมหนี้สิน หนี้สินก้อนแรกเราคือลูกหนี้ พ่อแม่ของเราคือเจ้าหนี้ ส่วนหนี้ที่เราติดไว้ก็คือบุญคุณของท่าน ที่ทำให้เราได้เกิดมาเป็นคน ได้เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ด้วยพระคุณของท่านที่ชุบเลี้ยงเรามา หนี้ก้อนนี้เป็นหนี้ที่ไม่มีวันหมด ชดใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมด อยู่แค่ว่าเราจะชดใช้ได้มากแค่ไหน วันนี้ผมมี วิธีใช้หนี้พ่อแม่ มาฝากกันครับ จะต้องทำอย่างไรให้ชดใช้หนี้อภิมหาศาลของพ่อแม่ได้หมด ไปดูกันเลย
1) จงสร้างความดีให้กับตนเอง เป็นการใช้หนี้ตัวเอง ตัวเราพ่อให้หัวใจ แม่ให้น้ำเลือดน้ำเหลืองอยู่ในตัวแล้ว จะไปแสวงหาพ่อที่ไหน จะไปแสวงหาแม่ที่ไหน บางคนรังเกียจแม่ ว่าแก่เฒ่า ไม่สวย ไม่งาม พอตัวเองแก่ก็เลยถูกลูกหลานรังเกียจ จึงเป็นกงกรรมกงเกวียนยืดเยื้อต่อไปอีก
2) คุณแม่ของใครที่ล่วงลับไปแล้ว ก็ให้หมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่าน และถ้าจะทำบุญด้วยการเจริญกรรมฐาน แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้ การทำเช่นนี้ถือว่าได้บุญมากที่สุด ทั้งฝ่ายผู้ให้และผู้รับ
3) ผู้ใดก็ตาม ที่คุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ให้กลับไปหาแม่ ไปกราบเท้าขอพรจากท่าน จะได้มั่งมีศรีสุข ส่วนคนที่เคยทำไม่ดีไว้กับท่าน ก็ให้นำธูปเทียนแพและเครื่องทองน้อยไปกราบขออโหสิกรรม ล้างเท้าให้ท่านด้วย เป็นการขอขมาลาโทษ
4) ขอฝากท่านไว้ไปสอนลูกหลาน อย่าคิดไม่ดีกับพ่อแม่เลย ไม่ต้องถึงกับฆ่าหรอก แค่คิดว่าพ่อแม่เราไม่ดี จะทำมาหากินไม่ขึ้น เจ้ง ท่านต้องแก้ปัญหาก่อน คือ ถอนคำพูด ไปขอขมาลาโทษเสีย แล้วมาเจริญกรรมฐาน รับรองสำเร็จแน่ มรรคผลเกิดแน่
5) บางคนลืมพ่อแม่ อย่าลืมนะ การเถียงพ่อแม่ไม่ดี ผมขอบิณฑบาต สอนลูกหลานอย่าเถียงพ่อเถียงแม่ อย่าคิดไม่ดีกับพ่อแม่ ไม่อย่างนั้นจะก้าวหน้าได้อย่างไร ก้าวถอยหลังดำน้ำก็ไม่โผล่
6) คนที่มีบุญวาสนา จะกตัญญูกับพ่อแม่ คนเถียงพ่อเถียงแม่เอาดีไม่ได้ คนไม่พูดกับพ่อแม่ นั่งกรรมฐานร้อยปีก็ไม่ได้อะไร ถ้าไม่ขออโหสิกรรม ที่คิดไม่ดีกับพ่อแม่ คิดไม่ดีกับครูบาอาจารย์ คิดไม่ดีกับพี่ๆน้องๆจะไม่เอาอีกแล้ว เอาน้ำไปขันหนึ่ง เอาดอกมะลิโรย ให้พูดตามนี้ "กายกัมมัง วจีกัมมัง มโนกัมมัง โยโทโส อันว่าโทษทัณฑ์ใด ความผิดอันใด ที่ข้าพเจ้าได้พลั้งเผลอสติไป ด้วยกายก็ดี วาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ขอให้คุณพ่อคุณแม่ คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย คุณพี่คุณน้อง อโหสิกรรมให้ด้วย" แล้วเอาน้ำรดมือรดเท้า
7) ลูกหลานโปรดจำไว้ เมื่อแยกครอบครัวไปมีสามีภรรยาแล้ว อย่าลืมไปหาพ่อแม่ ถึงวันว่างเมื่อไร ต้องไปหาพ่อแม่ ถึงวันเกิดของลูกหลาน อย่าลืมเอาของไปให้พ่อแม่รับประทาน อย่ากินเหล้า เข้าโฮเต็ล ประพฤติผิดศีล
8) ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้ เป็นมงคลนามไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน เพราะชื่อเป็นเพียงนามสมมุติแทนตัวเรา อย่างพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม) ชื่อจรัญ ปู่ตั้งให้ หมอดูบอกเป็นกาลกิณี แต่ทำไมเจริญรุ่งเรือง ขอให้เชื่อพระพุทธเจ้า ทำดีได้ดี
9) ของดีของ ปู่ยา ตายาย อย่าไปทำลาย
ของพ่อแม่อย่าไปทำลายนะ หนีได้แน่นอน ฝึกตนให้มีกรรมฐาน มีทรัพย์ มีชื่อเสียง ความรัก บูชาทรัพย์ บูชาชื่อเสียง ความรักของพ่อแม่ได้ เงินจะไหลนอง ทองจะไหลมา พ่อแม่ให้อะไรเอาไว้ก่อน อย่าไปทำลายเสีย ถึงจะเป็นถ้วยที่พ่อแม่ให้มา ก็ไว้เป็นที่ระลึก ก็ยังดี อย่าเอาไปทิ้งขว้าง
10) ถ้าต้องการเจริญก้าวหน้า ขอฝากไว้ด้วย
คนเรามี 2 ก้าวจะก้าวขึ้นหรือก้าวลง ดำน้ำไม่โผล่ ก้าวลงมันง่ายดี ก้าวขึ้นมันต้องยาก ของชั่วมันง่าย หลั่งไหลไปตามที่ต่ำ นี่บอกสอนลูกหลาน ต้องการจะบรรจุงานไม่ต้องไปวิ่งเต้น ดูลูกเสียก่อน กุศลเพียงพอหรือเปล่า ต้องเพิ่มกุศล ตัวอย่างเรียนจบครู สวดมนต์เข้าเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นครู ทำงานธนาคารก็ได้ บริษัทก็ได้ เดี๋ยวมีคนรับ บางรายทั้งสอบทั้งสมัครหลายแห่งไม่เคยเรียกเลย ขอให้นั่งกรรมฐาน พอ 7 วันผ่านไป พวกมาตามให้เข้าไปทำงานแล้ว
อานิสงฆ์นั้นจะเกิดได้จากตัวเราเองเป็นอันดับแรก หากเราเป็นคนดี ก็ใช้หนี้พ่อแม่ได้บ้างแล้ว ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าการทำให้พ่อแม่สบายใจและมีความสุขจริงๆครับ