Jesse James ประวัติ เจสซี่ เจมส์
เห็นรูปหล่ออย่างนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนที่ เลือดเย็นและโหดเข้าขั้นเลยที่เดียว
ข้อมูลจาก answer.com
นาย เจสซี่ เจมส์ เกิดเมื่อ 5 กันยายน ค.ศ. 1847 (พ.ศ.2390) ที่ เซนทราวิลล์ (ปัจจุบันเป็นเมืองเคียร์นี่), มิสซูรี่ ด้วยประสบการณ์ในการรบแบบกองโจรใน Civil War หล่อหลอมให้เข้ากลายเป็นโจรในที่สุด เมื่อสงครามสิ้นสุด
ในปี 1866 เจสซี และแฟรงค์ น้องชาย กับพรรคพวก ลงมือปล้นธนาคาร เคลย์ เค้าท์ตี้ เซฟวิ่ง แอสโซซิเอชั่น ในวันวาเลนไทน์ ได้เงินไป 6 พันเหรียญ เจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร ออกตามไปในทันทีที่รู้เรื่องว่า ธนาคารโดนปล้น
แต่ด้วยความฉลาดของหนุ่มเจสซี่ จึงเหมือนหายเข้ากลีบเมฆ โดยที่กลุ่มไล่ล่า แกะรอยไม่เจอ
พี่น้องเจมส์ กบดานแบบสยายใจเฉิบที่ไร่ของนาง เซเรลด้า แซมมวล เหนือเมืองที่ปล้นมาเพียงช่วง 1 สถานีรถไฟ (ประมาณ 20 ไมล์) โดย แม่ของ 2 พี่น้องและเพื่อนบ้านไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ลูกไปปล้นเขามา
2 พี่น้อง อยู่บ้านทำตัวเป็นเด็กดี ช่วยแม่ทำงานบ้าน ดูแลไร่ ไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ ....
รูปจาก www.legendsofamerica.com
ช่วงที่สงครามกลางเมืองสิ้นสุด (Civil War) ทหารฝ่ายใต้ ได้รับนิรโทษกรรม รวมไปถึงกลุ่มแก๊งค์ของเจสซี่ ที่เข้าร่วมด้วย แต่คนเมืองเล็กซิงตัน มิสซูรี่ ไม่ยอมให้อภัย เจสซี่ถูกยิงกลางหน้าอกทั้งๆที่ขี่ม้าชูธงขาวเข้าเมือง
คนมันโหดแค่ไหนก็กลัวตาย เจสซี่หันม้ากลับกระแทกเสปอร์เต็มแรง ม้าวิ่งฝุ่นตลบไปจนม้ามันเหนื่อยผ่อนมาเป็นวิ่งเหยาะๆและเดินในที่สุด แต่ เจสซี่สลบฟุบอยู่บนหลังม้าคู่ใจ ชาวไร่คนหนึ่ง ช่วยปฐมพยาบาล แล้วพากลับเข้าเมืองเล็กซิงตัน ด้วยอาการของ เจสซี่ ดูแล้วท่าจะไม่รอด นายทหารยอมจ้างรถม้าไปส่งเจสซี่ ที่บ้านเคียร์นี่ แต่ก็รอดมาได้ในที่สุด
นายเจสซี่ ก็กลับมาอ้อนแม่ที่บ้าน และฟื้นตัวจนไปโบสถ์ได้ใน 2 เดือนถัดมา เอากลอนจิ๊กโก๋ไทยมาผนวก ก็คงจะเป็น คนไม่ถึงที่ตายวายชีวาต ใครพิฆาตเข่นฆ่าไม่อาสัญ คนที่ถึงที่ตายวายชีวัน ไม้จิ้มฟันแทงเหงือกยังเสือกตาย
ในระหว่างทำตัวเป็นเด็กดีของแม่ เจสซี่ ก็วางแผนไว้สำหรับครั้งต่อไปอย่างใจเย็น โดยมุ่งเป้าไปที่ธนาคารในเมืองเล็กซิงตัน โกยเงินให้สมแค้นที่โดนยิงเกือบตาย....
ภาพจาก www.reddellstory.net
เดือน ตุลาคม ค.ศ. 1866 เจสซี่และพรรคพวก ก็ลงมือปล้น โดยใช้มุขเดิมๆ เข้าไปที่เคาน์เตอร์แล้วบอกว่า เฮ้ย..ไอ้น้อง..ขอแตกแบงค์หน่อยว่ะ ระหว่างยื่นแบงค์ก็ยกปืนขึ้นมาด้วย
การนี้ เจสซี่ได้เงินไปแค่ 2 พันเหรียญ ก็สำเหนียกว่า เออ เงินแค่นี้ แบ่งให้ทุกคนแล้วจะพอสำราญกับอบายมุขกันได้ซักกี่วันเอง
การวางแผนปล้นครั้งต่อไปก็เกิดขึ้นทันทีที่แบ่งเงินเสร็จ ว่าเขาและพวกจะไปเยี่ยมธนาคารในเมือง ริชมอนด์ ชะรอย เส้นความชั่วจะขึ้นเด่นชัด ผู้คนในเมืองริชมอนด์ ต่างพากันเป็นหนี้ธนาคารกันถ้วนหน้า เพราะสงครามที่โดนทหารฝ่ายเหนือ เข้ามาโจมตีทำเอาสิ้นเนื้อประดาตัว ต้องกู้แบงค์สร้างฐานะกันใหม่ แถมยังโดนดอกแพงเหมือน บาบูปล่อยเงินกู้บ้านเรา โร้ยละยีสีบบาดนะนาย
การปล้นครั้งนี้ก็เลยสะดวกโยธิน สร้างความสะใจให้ชาวบ้านอย่างยิ่ง
หลังจากกระเป๋าตุงแฟนตรึม ก็เป็นช่วงกบดาน เจสซี่และพวกตัดสินใจไป เคนตั๊กกี้ โดยเที่ยวนี้ มีเพื่อนเก่าที่พบกันระหว่างทางมาเข้าพวกอีก 1 คือนาย จอร์จ ทหารเก่าฝ่ายใต้ที่ที่เคยร่วมเป็นร่วมตายกันมา จอร์จไปพาพรรคพวกทหารเก่ามาสมทบอีก โดยในพวกที่มาสมทบนี่ มีกระทาชายนาย โคล ยังเกอร์ ที่ชื่อแซ่คุ้นหูคนชอบ ติดตามเรื่องราวคาวบอย
ตอนบ่ายวันหนึ่งของเดือนมีนาคม ปี 1868 เจสซี่ก็ลงมือ โดย โคล ยังเกอร์ เป็นคนเปิดเกมส์ด้วยการเดินเข้าไปแลกเงินในธนาคาร
การนี้ได้เงินไปเกลี้ยงธนาคาร แถมขากลับไปยังไปแบบเงียบๆ ชาวเมืองกว่าจะรู้ว่าธนาคารถูกปล้น ฝุ่นจากฝีเท้าม้าของกลุ่มเจสซี่ ก็จางไปหมดแล้ว
เจ้าหน้าที่ของเมืองและอาสาสมัคร ได้เบาะแสสำคัญ เพราะพนักงานธนาคารจำนาย จอร์จ หนึ่งในสมุนของ เจสซี่ได้ กองไล่ล่า มาถึงบ้านไร่ของนายจอร์จ ล้อมบ้านไว้ แล้วตะโกนว่า พี่จอร์จคร๊าบ ขอเงินคืนธนาคารเถอะคร๊าบ ....
เสียงตอบกลับคือเสียงปืน ของสามโจร จอร์จ แฟรงค์ และเจสซี่ ส่วนคนอื่นๆ ได้ส่วนแบ่งแล้ว ชิ่งไปตามระเบียบ
เจสซี่และแฟรงค์ ขี่ม้าฝ่าวงล้อมออกมาแบบอินเดียนแดง โดยแอบข้างม้า ส่วนนายจอร์จไม่เอาด้วย พอเจสซี่กับแฟรงค์ไปไกลแล้ว จอร์จกลัวตายมอบตัวซะงั้น ศาลเลยให้นายจอร์จเข้าซังเตซะ 3 ปี โดยมีพยานบุคคล ให้การว่า จอร์จเป็น 1 ในพวกปล้น ส่วนเจสซี่กับแฟรงค์ก็กลับไปเป็นเด็กดีของแม่อีกซักพักนึง
ภาพจาก http://warchild13.com
คนเราพอทำชั่วเข้าหลายๆครั้ง มันก็เข้าสันดาน และด้วยความไม่รู้จักหากินอย่างสุจริต เพราะเห็นว่าการช่วงชิงของคนอื่น มันง่ายได้เงินเร็ว ในระหว่างที่กลับมาอยู่กับ แม่ เจสซี่ ก็วางแผนชั่วครั้งต่อไป
วันหนึ่งของเดือนธันวาคม ปี 1869 นายเจมส์ 2 พี่น้องก็ลงมือปล้นธนาคารเดวิสเค้าน์ตี้ ที่ คัลลาติน เวรกรรมของพนักงานธนาคารคนหนึ่งที่หน้าเหมือนคนที่ยิง บิล แอนเดอสัน เพื่อนรักของเจสซี่ ตายในสงคราม ก็เลยโดนกระสุนจากกระบอกปืนของเจสซี่เข้าไปกลางหน้าอก ยิงเสร็จ เจสซี่ก็เก็บเงินเข้าถุง ส่วนแฟรงค์ เตรียมพร้อมเต็มที่ เพราะเสียงปืน ทำให้ชาวบ้าน กรูกันออกมาที่ถนน เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น ใครเป็นไข้โป้งกำเริบ
เจสซี่โกยมาได้แค่ 700 เหรียญ ก็ต้องรีบเผ่น พอโดดขึ้นหลังม้าตัวใหม่ที่เพิ่งได้มา ยังไม่ทันคร่อมเต็มก้น ม้าก็ทะยานไปเพราะตกใจเสียงปืน เจสซี่ห้อยต่องแต่ง โดนม้าลากไป หลายฟุตแล้วหลุดจากม้า นอนหมอบอยู่กับพื้น แฟรงค์ หันม้ากลับมาช่วย ยิงกราดสะเปะสะปะเพื่อเบิกทาง แล้วคว้าน้องชายซ้อนท้ายม้า ควบตะบึงไป
ม้าตัวที่ตื่นเตลิด กลายเป็นหลักฐานสำคัญที่สาวถึงตัวเจ้าของม้า ชื่อของสองเสือปล้น จึงถูกประกาศให้รู้โดยทั่วนับแต่บัดนั้น
หนังสือพิมพ์ แคนซัสซิตี้ไทม์ ลงเรื่องราวประวัติของ 2 พี่น้องอย่างละเอียดเท่าที่หามาได้ และทางการก็ออกประกาศจับ สองพี่น้องเสือปล้น มูลค่ารางวัล 3,000 เหรียญ ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย
ภาพการปล้นของเจสซี่ เจมส์และพวก ที่ เฟิร์สเนชั่นแบงค์ ใน นอร์ทฟีลด์ จากภาพยนต์ ยุคขาวดำ
เมื่อถูกเปิดเผยแถมมีค่าหัว เจสซี่กับแฟรงค์ ก็เลยต้องย้ายที่กบดานไปอยู่กับพรรคพวกที่เคยร่วมปล้นกันมา ระหว่างนี้ ก็เขียนจดหมายไปปฏิเสธ ความเป็นโจร กับหนังสือพิมพ์ แคนซัสซิตี้ไทม์ ซึ่ง บก.หนังสือพิมพ์นี้ ก็บังเอิญเกลียดฝ่ายเหนืออยู่แล้ว จึงลงจดหมายจากเจสซี่ทุกครั้งใน หนังสือพิมพ์ จนประชาชนที่นิยมฝ่ายใต้ เชื่อจริงๆว่า 2 เสือพี่น้องโดนใส่ความ
ปีกว่าผ่านไป ในเดือนมิถุนายน ค.ศ.1871 โจร 2 พี่น้องก็ลงมือปล้นธนาคารโดรีดอนในรัฐ ไอโอว่า กวาดเงินมาได้ตั้ง 6,000 เหรียญ เรียกว่ายังไม่สาแก่ใจ อุตส่าห์เปิดประตูโบสถ์แล้วตะโกนว่า ธนาคารของพวกเอ็ง เพิ่งโดนอั๊วปล้นมาว่ะ แล้วก็ขี่ม้า ยิงปืนขึ้นฟ้าควบจากเมืองไป ชาวเมืองยืนงงกันอยู่ซักพักถึงได้สติ วิ่งไปมากันจ้าละหวั่น
หลังจากการปล้นครั้งนี้ พวกเขาได้ บ๊อบ ยังเกอร์ เด็กหนุ่มวัย 13 ปี น้องของ โคล ยังเกอร์ มาร่วมทีม
ต่อมาไม่นาน มีงานรื่นเริงจัดขึ้นที่แคนซัส สามเสือ ควบม้าฝ่าฝูงชนเข้าไปในงานเอาดื้อๆ แล้วคว้ากล่อง เงินค่าผ่านประตูมาหน้าตาเฉย พวกเขาได้เงินมาเหนาะๆ 1,000 เหรียญ แต่ครั้งนี้ พวกเขาทำให้เด็กหญิงวัย 10 ขวบคนนึงต้องจบชีวิตลง เพราะเธอตกใจวิ่งไปขวางทางม้าของสามเสือปล้น
บรรดาคนที่เคียดแค้น เจสซี่ เจมส์ และพวก มากที่สุด ก็บรรดา นายธนาคารทั้งหลายที่โดนปล้นไป เหล่านายธนาคารจึงลงขันกันจ้างสำนักงานนักสืบ พิงเกอร์ตัน ในชิคาโก ให้กำหราบ เจสซี่ เจมส์ และพวก
อลัน พิงเกอร์ตัน หะแรกก็ดีใจเหมือนส้มหล่น เพราะเหล่าบรรดานายธนาคารต่างมีกะตังค์กันทั้งนั้น ค่าจ้างงานนี้ ก็เลย แพงมากๆ แต่ อลัน ก็ไม่ใช่ว่า รับจ้างแล้วจะลงมือเองทั้งหมด เขาส่งลูกน้องที่จัดว่ามีฝีมือ ดำเนินการทันทีทันใด เพราะ หากทำงานสำเร็จ จะได้รางวัลก้อนโตอีกตะหาก แต่หลายครั้งที่ทีมงานของ อลัน คว้าน้ำเหลว เพราะ เจสซี่ เล่น เอาล่อ เอาเถิด เหมือน เสือสีชมพู พิงค์แพนเตอร์ ขนาดเดินไปทักทายนักสืบคนนึง บอกว่า รู้จัก เจสซี่เจมส์ และที่กบดาน พร้อมทั้งเล่าลักษณะรูปพรรณให้นักสืบฟัง นักสืบก็ตาลีตาเหลือกไปตามหาตามเบาะแสที่เพิ่งได้มาใหม่ๆ และคนเมืองแคนซัสก็ หัวร่องอหาย กับจดหมายจากเจสซี่ เจมส์ ที่เขียนลงในแคนซัสซิตี้ไทม์ เล่าเรื่องที่พบหน้านักสืบคนนั้นว่า จำอั๊วได้รึป่าว....
อลัน หัวเสียหนักเข้าไปใหญ่ เพราะรูปภาพ 2 เสือพี่น้องก็ไม่มี แถม ลูกน้องที่ส่งไปสืบ ก็คว้าได้แต่ฝุ่น เพราะชาวบ้านร้านตลาด ช่วยกันปกป้อง ไม่มีใครให้ความร่วมมือ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่า ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ทราบ แถมยังขายหน้าจากเรื่องที่ลงหนังสือพิมพ์อีกตะหาก จึงลงทุนเปิดสำนักงานที่เมือง แคนซัส ซะอีกที่นึง แล้ว ระดมทีมนักสืบเพิ่มเติม
เล่นซ่อนแอบ อยู่ 2 ปี หน้าร้อนใน ปี 1873 เจสซี่ก็ปล้นรถไฟสายตะวันตก ขณะกำลังเดินทางไปเคาซิลบัฟ โดยถอดรางออกจากไม้หมอนซะ พขร. คุมหัวรถจักร เห็นรางหายไปเฉยๆ ดึงเบรคสุดแรง แต่ไม่ทันซะแล้ว รถตกราง จนเป็นเหตุให้ พขร. เสียชีวิต ส่วนเจสซี่และพวก ก็ มาปลดทรัพย์ผู้โดยสารทีละรายๆ แต่งานครั้งนี้ ผิดเป้าไปอย่างถนัด เพราะขบวนที่ต้องการปล้น เป็นขบวนที่บรรทุกทองคำ แต่ขบวนนี้ ไม่มี นั่นเพราะความสะเพร่าของลูกน้อง ที่หาข่าว
6 เดือนต่อมา หลังจากกบดาน เจสซี่ก็ลงมืออีกครั้งโดยจี้พนักงานคุมสถานี แก๊ดฮิล ไว้ แล้วสับรางโยกทางรถไฟให้เลี้ยวเข้าโรงเลื่อยร้าง พขร. ประจำรถไฟ เบรครถทั้งขบวนแล้วลงจากหัวรถจักร แล้วเดินมาที่สถานี แก๊ดฮิล หวังจะถามว่า ไอ้คนเฝ้าคุมสถานีมาบ้ารึเมาค้างกันแน่ แต่แล้วก็โดนจับมัดรวมกันไว้ที่สถานี เจสซี่และพรรคพวก ก็ขึ้นขบวนรถแล้วปล้นเซฟที่ขนมากับขบวนรถ และเลือกปล้นผู้โดยสารที่ ดูดี มีกะตังค์เท่านั้น เสร็จแล้วก็ฝากกระดาษเขียนข้อความฝากให้ผู้โดยสารส่งให้หนังสือพิมพ์ ในกระดาษบรรยายถึง แผนการปล้น และบรรยายลักษณะรูปพรรณเสือปล้นทั้ง 5 แบบหลอกๆไว้
ภาพจาก http://www.sorenz.dk
นักสืบที่ อลัน พิงเกอร์ตั้น ส่งไปสืบ ก็เป็นอันไข้โป้กำเริบ ไป 2 ราย อลันเดือดดาลสุดๆ เขาต่อว่าผู้ว่าการรัฐมิสซูรี่ว่า ปกป้องโจรจนมีอำนาจเหนือรัฐ ผู้ว่าการัฐ ก็เต้นผางเข้าสภานิติบัญญัติ ได้ผลออกมาคือ อนุมัติงบประมาณปราบโจร 1 หมื่นเหรียญ เพื่อรักษาชื่อของรัฐและหน้าของผู้ว่า แถมด้วยเงินสัวสดิการบำเหน็จให้ลูกเมียเจ้าหน้าที่ หากเสียชีวิตในหน้าที่อีกด้วย
แต่การตัดสินใจของผู้ว่าการรัฐช้าไป เพราะทั้งแก๊งค์ ย้ายไปกบดานที่ ดัลลัส เมื่อย้ายมา เหล่าโจรหนุ่มก็พากันสละโสดกันเป็นแถว ทั้งโคล ยังเกอร์ และ เจสซี่ ต่างก็ตบแต่ง ภรรยา มาเป็นผบ.ทบ. กันเป็นที่เรียบร้อย แต่แฟรงค์ ได้วิวาห์เหาะ โดยพาสาวหนีหอบผ้ามาอยู่ด้วยกัน ตำนาน เหล่าหนุ่มหล่อขนาดที่สาวแย่งกันตบตี ตามรูปข้างบน ก็เป็นอันถูกตีทะเบียนไปซะแล้ว
ปี 1875 นักสืบ พิงเกอตั้น ไปล้อมบ้าน นางเซเรลด้า แม่ของ เจสซี่และแฟรงค์ จากรายงานของสายว่า แก๊งค์เสือปล้นหลบซ่อนตัวอยู่ ลูกน้องพิงเกอตั้น แอบเอาระเบิดโดยใส่กองถ่านหิน ซึ่งต่อมาระเบิดก็ตูมสนั่น เพราะคนงานของนางเซเรลด้าโกยถ่านไปใส่เตา นางเซเรลด้า ถึงกับต้องตัดแขนขวาทิ้ง และลูกชายวัย 9 ขวบที่เกิดกับสามีใหม่ได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้พิงเกอตันโดนด่าทั่วบ้านทั่วเมือง
เข้าฤดูหนาวปี 1876 1 ปีถัดมา เจสซี่และพลพรรคก็เดินทางข้ามแดนไปตอนเหนือเพื่อ วางแผนปล้นอีก โดยปลอมตัวเป็นพ่อค้าวัวอำพราง วันหนึ่งขณะที่กำลังเล็งและดูลู่ทางปล้นธนาคารในเมือง มังกาโต้ ดันมีคนจำเจสซี่ได้ แล้วทักทาย ว่า เฮ้ เจสซี่ นายมาทำไร ที่เมืองนี้วะ.. เจสซี่ ดึงม้าไว้ ดูหน้าคนทัก แล้ว บอกว่า อั๊วไม่รู้จักลื้อว่ะ แล้วก็ขี่ม้าออกจากเมืองไป ไม่ปล้นไม่เปลิ้นมันแล้ว ดันมีคนจำได้
วันถัดมา พวกเขาลงมือปล้นธนาคารเมือง นอร์ธฟีลด์ ที่ห่างจากเมืองมังกาโต้มาไม่กี่ไมล์ โดยแฟรงค์ และพวก ยิงปืนขึ้นฟ้าและโห่ร้องสร้างความตื่นตระหนก ส่วน เจสซี่ ก็พวกที่เหลือ ก็พรวดพราดเข้าธนาคารดำเนินการปล้นทันที พวกเจสซี่ มัวเสียเวลากับตู้เซฟอยู่พักใหญ่ แต่ก็รีบผละออกมา เมื่อแฟรงค์พาพรรคพวกมาถึงหน้าธนาคาร
ทุกครั้ง ที่ใช้แผนนี้ ชาวเมืองจะหลบกันหัวซุกหัวซุน แต่คนเมืองนี้ กลับหลบไปหยิบปืนมายิงสู้ ทั้งปืนสั้นปืนยาวและลูกซอง เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป เจสซี่ก็สั่งถอยทันที ชาวเมืองฮึดสู้จนสอยสมุนโจร ร่วงไป 2 ศพ เจสซี่และแฟรงค์กับพวก ต่างบาดเจ็บได้แผล ทั้งแก๊งค์ กลายเป็นเสือลำบากในทันที เพราะชาวเมืองนอร์ธฟีลด์ โทรเลขแจ้งไปยังนายอำเภอเมืองอื่นๆ ให้คอยสกัดจับเหล่าเสือปล้น แล้วยังจัดกองอาสาสมัครล่าโจร ออกตามไล่ล่าทันที
7 วันถัดมาจากการปล้น กองกำลังไล่ล่าก็เปิดฉากดวลแหลกกับกลุ่มโจร เจสซี่ เจมส์ เมื่อโดนล้อม เจสซี่และแฟรงค์ ตัดสินใจควบม้าและยิงปืนฝ่าวงล้อมออกไปอย่างบ้าระห่ำ
สามพี่น้องลูกสมุน ยังเกอร์ และ ชาร์ลี ฟิตต์ ก็หวังจะเอาแบบเจสซี่บ้าง แต่ ชาร์ลีก็โดนสอยร่วงไป 1 ส่วนสามพี่น้องยังเกอร์ ยอมจำนน โดยถูกศาลพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต
ภาพจาก http://trianglecranch.com
2 พี่น้องเสือปล้น น่าจะถึงวันดวงซวย เข้าให้ เพื่อนก็มีทั้งตาย ทั้งโดนจับ ตัวเองก็บาดเจ็บ ถูกยิง เห็นว่า ม้ามันหน่อย ก็เลยขโมยม้าเปลี่ยนม้ามาใหม่ เจ้ากรรมดันได้ม้าตาบอดมาซะอีก ดีว่า ม้ามันรู้วิธีที่คนขี่คุมบังเหียน ทั้งคู่ก็เลยทุลักทุเลจนรอดการติดตามของ ชุดไล่ล่าจากนอร์ธฟีลด์
หลังจากหายเจ็บ ปีต่อมา 2 พี่น้องเสือปล้น ก็รวมพลพรรคใหม่ ออกปล้นอีก โดยเน้นปล้นรถไฟ แต่การปล้นแต่ละครั้งก็ไม่ได้ทรัพย์สินมากนัก แต่ที่เป้นข่าวใหญ่ ก็เพราะการปล้นรถไฟที่ เกรนเดล เพราะได้เงินถึง 6 พันเหรียญ และลูกน้องใหม่ก็ถูกจับเพราะผู้โดยสารจำหน้าได้ และการปล้นรถไฟใกล้เมือง วินสตั้น เพราะเจสซี่ ยิงพนักงานตรวจตั๋ว กับผู้โดยสาร ตาย
บ๊อบ ฟอร์ด ผู้ได้ชื่อว่า ทรยศเพื่อน (ไอ้เพื่อน ทรพี) มาหาเจสซี่ ปลายๆ เดือนมีนาคม และยิงเจสซี่จากข้างหลัง เสียชีวิตในวันที่ 3 เมษายน ค.ศ 1882 125 ปี มาแล้ว ตามที่ว่ากันว่า บ๊อบ ยิงเพื่อเงินรางวัลนำจับ 5 พันเหรียญ บ้างก็ว่า 1 หมื่นเหรียญ
หลังจาก เจสซี่ สิ้นชีพ ก็มีเรื่องเล่าขานถึง ไอ้เสือปล้นคนนี้ไม่รู้จักจบ ทั้งหนังสือ การ์ตูน แถมยังมีภาพยนตร์อีกตะหาก ซึ่งทุกเรื่องที่เล่าขานถึง เจสซี่ เจมส์ ไม่ได้สรรเสริญความเก่งกาจ ฉลาด และไหวพริบเล่ห์เหลี่ยมของเขา เพราะยังไง โจร ก็คือคนชั่วที่สังคมต้องกำจัด แต่ผลพวงหลังจากความตายของเจสซี่ ก็ส่งผลให้นางเซเรลด้า เปิดบ้านให้เยี่ยมชม แถมยังขายปืนของเจสซี่อีกด้วย เล่ากันว่า มีปืนของเจสซี่เป็นเข่งๆ และนางเซเรลด้าก็บอกคนมาเยี่ยมชมว่า เอามั้ย ปืนกระบอกเนี้ยะ เจสซี่พกติดตัวตลอด
มีข่าวว่าเจสซี่ เจมส์ ยังไม่ตาย และมีอายุถึง 100 กว่าปี แม้กระทั่งเวปไซต์ พิพิธภัณฑ์ เจสซี่ เจมส์ ในแสตนตัน รัฐมิสซูรี่ ก็ยังจั่วเรื่องนี้ในหน้าแรก
Jesse James wasn't really shot to death in 1882 -- he died of old age in 1952 in the small town of Granbury, TX! ต้องใช้ศัพท์แบบหนังสือพิมพ์ว่าเรื่อง.... โอละพ่อ!
จากรูปล่าง อธิบายภาพว่า ภาพถ่ายจากช่างภาพในปี 1950 ดูคำอธิบายแล้วมันมั่วๆ ชอบกล
ทางซ้าย โคล ยังเกอร์ อายุ 127 , บิลลี่ เดอะ คิด อายุ 90, และ เจสซี่ เจมส์ อายุ 106
อ้าว บิลลี่ เดอะคิด มาไง หว่า ในว่า โดน เป่า โดย แพต การ์เร็ต ไง. ?หือ..... งงกับภาพนี้จริงๆ
ภาพจากหนังสือ ปืนคลาสสิคตะวันตก
หมายเลข 1 เข็มขัดของ แฟรงค์ เจมส์ สำหรับเหน็บกระสุน .44 คาลิเบอร์
หมายเลข 2 ปืน เรมิงตัน รุ่น 1875 .44-40 คาลิเบอร์ ของ แฟรงค์ เจมส์
หมายเลข 3 ปืน ของ ผู้จอมโจรหญิง เบลล์ สตาร์
ภาพนี้แสดงว่า รสนิยม ของ 2 พี่น้องไม่เหมือนกัน เพราะเจสซี่ ใช้ปืนพก สมิต แอนด์ เวสสัน .45 คาลิเบอร์ ส่วน แฟรงค์ ใช้ เรมิงตัน 1875 .44-40 คาลิเบอร์
ภาพจาก http://www.state.ok.us
ภาพปืน ของ เจสซี่ เจมส์ เป็นปืนที่ใช้ในภาพยนตร์ The Assassination of Jesse James แบรท พิต แสดงนำ
จากบน-ล่าง
สมิธ แอนด์ เวสสัน โชว์ฟิลด์ - โคลท์ ขนาด 7นิ้วครึ่ง และ โคลท์ ขนาด 5 นิ้วครึ่ง
ภาพจาก http://www.thellreed.com
เพลง เกี่ยวกับ เจสซี่ เจมส์ เนื้อหาจาก http://en.wikipedia.org
ศิลปินหลายคน แต่งเพลงเกี่ยวกับ ไอ้เสือปล้นคนนี้ เยอะมาก บางเพลงคุณอาจจะเคยฟังแล้ว และมี CD อยู่
Cher - Just Like Jesse James
The power - I'm the lyrical Jesse James
The Comeback - Jesse James Symphony (Jesse James Bolero)
Warren Zevon - Frank and Jesse James
Warren Zevon - Poor Poor Pitiful Me ในเนื้อหาของเพลงท่อนนึง กล่าวว่า
I met a girl in West Hollywood, but I ain't namin' names/She really worked me over good/She was just like Jesse James
ฉันพบหญิงสาวคนหนึ่งในทางตะวันตกของ ฮอลลีวู๊ด แต่ฉันจำชื่อเธอไม่ได้ เธอเยี่ยมจริงๆ และเธอเหมือน เจสซี่ เจมส์
เรื่องราวของ เจสซี่ เจมส์ เป็นแนวทางในการทำอัลบั้มเพลง โดยหลากหลายศิลปิน อาทิ Levon Helm, Johnny Cash, Charlie Daniels and Emmylou Harris, Albert Lee และศิลปินอีกหลายท่าน ประพันธ์บทเพลงโดย Paul Kennerley ในปี 1979.
Bob Dylan ในเพลง "Outlaw Blues" จากอัลบั้มในปี 1965 มีเนื้อเพลงท่อนนึงว่า Ain't gonna hang no picture, ain't gonna hang no picture frame/Well, I might look like Robert Ford, but I feel just like a Jesse James.
ฉันจะไม่แขวนรูปอีกแล้ว ฉันจะไม่แขวนกรอบรูป/แน่นอน, ฉันอาจ ดูเหมือน โรเบิร์ต ฟอร์ต แต่ฉันรู้สึกเหมือนเป็น เจสซี่ เจมส์
The Hal Bynum/Dave Kirby (ซึ่งมาฮิตโดยเสียงร้องของ Cash and Waylon Jennings)
I ain't cut out to be no Jesse James.
John Lee Hooker แต่งเพลงชื่อ I'm Bad like Jesse James
Elton John มีเพลงฮิตในปี 1976 จากซิงเกิ้ล I Feel Like a Bullet (in the Gun of Robert Ford).
Scarface วางแผงจำหน่ายเพลง Jesse James เพิ่มจาก อัลบั้ม The Diary ในปี 1994
The Cannonballs ทำเพลง เกี่ยวกับชีวิตของ Jesses James ในเพลง Outlaw Jesse James
Kate Bush แต่งเพลง James and the Cold Gun" ในอัลบั้มเปิดตัวของเธอ The Kick Inside ในปี 1978
Irish folk-punk band The Pogues - Jesse James
Synthpop band The Magnetic Fields เิริ่มท่อนแรกของเพลงว่า You were Jesse James, I was William Tell/ You were Daniel Webster, I was the Devil Himself
ในปี 1970s มีวงดนตรีตั้งชื่อว่า "The James Gang," หนึ่งในสมาชิกคือ Joe Walsh (ซึ่งต่อมาเป็นหนึ่งในวง The Eagles)
The Sugarhill Gang กล่าวถึง Jesse James ในท่อนนึงของเพลงว่า My tribe went down in the Hall of Fame/'Cause I'm the one who shot Jesse James". เผ่าของฉัน ถูกเอาชื่อลงมาจาก หอเกียรติยศ เพราะฉันเป็นคนนึง ที่ยิง เจสซี่ เจมส์
Jerry Reed - The Legend ในซาวด์แทรค Smokey and the Bandit เริ่มต้นเนื้อเพลงว่า You heard about the Legend of Jesse James and John Henry just to mention some names
เธอเคยได้ยินเรื่องเล่าขายถึง เจสซี่เจมส์ และจอนห์ เฮนรี่ เพียงเพื่อกล่าวถึงชื่อเหล่านั้น
Everlast ในเพลง "Ends" ในปี 1998 Whitey Ford Sings ร้องเพลงในแบบบลูส์ ที่มีเนื้อเพลงว่า And all of a sudden he's like Jesse James
ในทันใด เขาก็ทำยังกะ เจสซี่ เจมส์
Mark Knopfler and Emmylou Harris ในเพลง Belle Starr จากอัลบั้ม All the Roadrunning ในปี 2006 มีท่อนคอรัสว่า "I can be your Belle Starr and you can be my Jesse James"
ฉันสามารถเป็น เบล สตาร์ ของเธอ และเธอสามารถเป็น เจสซี่ เจมส์ ของฉัน
Clubland บันทึกเพลงในแบบ จาไมกัน ชื่อ Jesse James ซึ่ง เจสซี่เจมส์ ในเพลงหมายถึง เด็กที่หยาบคายสุดๆ
Christy Moore นักร้องเพลงโฟล์ค เชื้อสายไอริช แต่งเพลง ชื่อ Jesus Christ and Jesse James
Johnny "Guitar" Watson แต่งเพลง Gangster of Love ท่อนแรกขึ้นว่า Jesse James and Frank James Billy Kid, all the rest เจสซี่ เจมส์ และ แฟรงเจมส์ บิลลี่ เดอะ คิด และ ทั้งหมด
Terry Allen's เพลง New Delhi Freight Train" เริ่มเพลงว่า "Some people think that I must be crazy / But my real name is just Jesse James"
บางคนคิดว่าฉันคงจะบ้า แต่ชื่อจริงฉันคือ เจสซี่ เจมส์
GWAR กล่าวถึง Jesse James ในเพลง "Bad Bad Men".
Warren Zevon ร้องเพลง ชื่อ Frank and Jesse James about the two brothers.
The Lead Belly เพลง "Out on the Western Plains" มีท่อนนึงของเพลงว่า "When me and a bunch of cowboys run into Jesse James / The bullets was a-fallin' just like a shower rain"
เมื่อฉันและ กลุ่มคาวบอยวิ่งไปหา เจสซี่ เจมส์ กระสุนก็พุ่งมาดังห่าฝน Rory Gallagher ร้องเวอร์ชั่นของเพลงนี้ ในอัลบั้ม Against the Grain ในปี 1975