ททท. เปิดงานเทศกาลอาหารริมทางสร้างสรรค์“THAILAND STYLISH STREET FOOD MAKEOVER & Festival 2016”

ททท. เปิดงานเทศกาลอาหารริมทางสร้างสรรค์“THAILAND STYLISH STREET FOOD MAKEOVER & Festival 2016” พร้อมประกาศผลการประกวดออกแบบ “รถเข็นสตรีทฟู้ดสร้างสรรค์” และ “การประกวดแปลงโฉมอาหารริมทางสร้างสรรค์

เมื่อเร็วๆนี้ นายวิบูลย์ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการฝ่ายลงทุนธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วย นางวิมล จันทร์เทียร ผู้อำนวยการแบรนด์ “เฟสท์” (Fest) บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) ร่วมกันเป็นประธานเปิดงาน “THAILAND STYLISH STREET FOOD MAKEOVER FESTIVAL 20156 เทศกาลอาหารริมทางสร้างสรรค์ พลิกโฉมสตรีทฟู้ดเมืองไทยให้เก๋ไก๋กว่าเดิม มีทั้งความอร่อย รูปลักษณ์โดดเด่น และสะอาดปลอดภัย ซึ่งจัดขึ้น ณ ลานหน้าด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งใน Street Food Destination ที่โดดเด่นทั้งขั้นตอนการสร้างสินค้า จนถึงการให้บริการ ยกระดับการพัฒนา Street Food ไทยสู่ Street Food ยุคสร้างสรรค์ผ่านการประยุกต์ให้ได้มาซึ่งนวัตกรรมใหม่ๆ ทางด้านอาหารที่มีทั้งมูลค่าและคุณค่า และดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยใช้อาหารเป็นจุดขาย เพื่อเพิ่มรายได้ต่อหัวในการเดินทางมาท่องเที่ยว เสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับนักท่องเที่ยวในการมากิน ดื่ม เที่ยว (Customer experience) และเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างกระแสจากกลุ่มผู้บริโภค

งานนี้ได้รับเกียรติจาก คุณกฤษณ์ คุนผลิน, คุณวรรณวิสา คำแฝง, คุณปาริสุทธิ์ คชโคตร,ดร.วิชุดา ณ สงขลา ศรียาภัย, คุณวรนุช ศิรธรานนท์, คุณไอริณ ฤกษะสาร, คุณพิรานันต์ พิบูลสงคราม, เชฟสมศักดิ์ รารองคำ นายกสมาคมเชฟประเทศไทย, เชฟสุรกิจ เข็มแก้ว –(หรือเชฟปิง หนึ่งใน 10 เชฟกระทะหล่อ) พร้อมพบกับเซเลบริตี้เชฟชื่อดังมากมายของประเทศไทย และ แขกผู้มีเกียรติในแวดวงอาหารเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

สำหรับไฮไลท์วันเปิดงานกับการประกาศผลรางวัลชนะเลิศ ผลงานนักศึกษาและประชาชนทั่วไป "การประกวดแปลงโฉมอาหารริมทางสร้างสรรค์" สำหรับรางวัลชนะเลิศ รับเงินสด 100,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศและประกาศนียบัตร ได้แก่ ทีม DEEP เมนูผัดไทกุ้งสด และการประกวดสุดยอด "รถเข็นสตรีทฟู้ดสร้างสรรค์" รางวัลชนะเลิศได้แก่ ทีม อรุณสวัสดิ์ รับเงินสด 100,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศและประกาศนียบัตร

ไฮไลท์อื่นๆ ภายในงาน THAILAND STYLISH STREET FOOD MAKEOVER FESTIVAL 2016 จะได้พบกับอาหารริมทางยุคสร้างสรรค์ที่จะรวบรวมร้านดังกว่า 50 ร้านริมทาง ที่ผ่านการคัดสรรแปลงโฉมในด้านต่างๆ ที่ทำให้สตรีทฟู้ดธรรมดาๆ ให้เป็นเมนูไม่ธรรมดา ด้วยรสชาติแบบไทย รูปลักษณ์การนำเสนอสินค้าที่ดูอินเตอร์ โดดเด่นน่าสนใจ ชิม ช้อป ชิล กับ ร้านเด็ดริมทางสุดสร้างสรรค์ ที่เตรียมเมนูเด็ดมาเสิร์ฟกันกลางกรุง อาทิ ร้าน Lab Ramen Burger ร้านมีกิน again ร้านผัดย่าฤทธิ์ ร้านไอติมมะ aitima ร้านดังเปรี้ยง ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ร้าน Giant Squid ร้านจรินทร์หนองมน ร้านทานมัยคะ ร้านอร่อยว่ะ ร้านหมึกย่างเจ้าสำราญ ร้าน Fish by Chef Maech ร้าน Satrong ร้านจี้ไงคะ ร้านคูณดั๊ก-ลาบเป็ดหนองแด-อุดร เป็นต้น

แต่ละร้านสะอาดได้มาตรฐานด้วยภาชนะแบบ On the go และตกแต่งหน้าร้านที่เก๋ไก๋สะดุดตา รวมถึงความแปลกใหม่น่าสนใจที่ทำให้ผู้พบเห็นอยากกิน เเละเกิดกระเเสการแชร์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งนักชิมที่มาร่วมงานยังจะได้มีส่วนร่วมในการตัดสินว่าร้านใด เมนูใด จะเป็นสุดยอดสตรีทฟู้ดที่ไฉไลที่สุด ชิลไปกับกิจกรรมบันเทิง โดนใจเหล่าฟู้ดดี้ ร่วมกิจกรรม workshop ทำอาหารกับเซเลบริตี้เชฟชื่อดัง ร่วมกิจกรรมถ่ายภาพ Shoot & Share 50 ปรากฏการณ์เมคโอเวอร์สตรีทฟู้ดไทย ลุ้นรางวัลจากผู้สนับสนุนกิจกรรมอีกมายมากมายได้ทุกวัน

นายวิบูลย์ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการฝ่ายลงทุนธุรกิจท่องเที่ยว (ททท.)กล่าวว่า โครงการ “THAILAND STYLISH STREET FOOD MAKEOVER FESTIVAL 2016” ประกอบไปด้วยกิจกรรมหลัก ได้แก่ การประกวดแปลงโฉมอาหารริมทางสร้างสรรค์ (Street food makeover) และ การประกวดแปลงโฉมรถเข็นอาหารริมทางสร้างสรรค์ (Street stall makeover) โดย ททท. เปิดโอกาสให้เยาวชนระดับอุดมศึกษาร่วมแสดงความคิดสร้างสรรค์โดยการส่งแนวคิด และออกแบบการปรับภาพลักษณ์อาหารริมทางให้มีความน่าสนใจ โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้คัดเลือกทีมที่มีผลงานและแนวคิดโดดเด่น เพื่อเข้าร่วมงานสัมมนาให้ความรู้ด้านการพัฒนาการออกแบบ โดยผู้เชี่ยวชาญจากผู้แทน บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) ณ ศูนย์ความรู้ด้านการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ (TCDC) เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา โดยผลงานการประกวดแปลงโฉมรถเข็นอาหารริมทางสร้างสรรค์ ของ 7 ทีมสุดท้าย จาก 168 ชิ้นงานที่ส่งเข้าประกวด ได้ถูกนำมาแสดงในงานเทศกาลอาหาร “THAILAND STYLISH STREET FOOD MAKEOVER FESTIVAL” ครั้งนี้ รวมถึงร้านค้าจากเยาวชนที่ชนะการประกวดแปลงโฉมอาหารริมทางสร้างสรรค์ จำนวน 20 ร้าน เพื่อให้นักชิมชาวไทยและชาวต่างชาติได้สัมผัสกับอาหารสตรีทฟู้ดในภาพลักษณ์ใหม่ และในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “พลิกโฉมสตรีทฟู้ดเมืองไทยให้ไฉไลกว่าเดิม” เพื่อตอบโจทย์การตลาดและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเมืองไทยในฐานะ Street Food Destination เนื่องจากนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ต้องการที่จะแบ่งปันประสบการณ์ในการกิน ดื่ม เที่ยว ให้กับเพื่อนและผู้ติดตามได้ชมผ่านสื่อโซเชี่ยลมีเดียของตน ซึ่งนับว่าเป็นช่องทางการบอกต่อที่มีศักยภาพ กอปรกับอาหารไทยมีความได้เปรียบในด้านความอร่อย ความหลากหลาย และเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว การจัดงานนี้ จะช่วยตอกย้ำความน่าสนใจอาหารริมทางของไทย ในภาพลักษณ์ใหม่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้ ททท. ยังเตรียมกิจกรรมกิจกรรมถ่ายภาพ Shoot and Share กับอาหารน่ารัก ลุ้นรางวัลจากผู้สนับสนุนกิจกรรมอีกมายมากมาย”

“ททท. เชื่อว่า THAILAND STYLISH STREET FOOD MAKEOVER FESTIVAL 2016 ไม่เพียงแต่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยได้มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังจะกระตุ้นให้ผู้ประกอบการร้านอาหารสตรีทฟู้ดทั่วประเทศ ได้เกิดการพัฒนาสร้างสรรค์ร้านและเมนูของตนเองที่จะทำให้นักท่องเที่ยวนักชิมจากทั่วโลกมาลิ้มลอง อันสร้างมูลค่าเพิ่มและรายได้ให้กับร้านอาหาร และรายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศไทย และทำให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Street Food Destination ได้อย่างแท้จริง” นายวิบูลย์ กล่าวปิดท้าย

ด้านผู้สนับสนุนหลักของ โครงการ “THAILAND STYLISH STREET FOOD MAKEOVER FESTIVAL 2016” คุณวิมล จันทร์เทียร ผู้อำนวยการแบรนด์ “เฟสท์” (Fest) บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ เอสซีจี แพคเกจจิ้ง ได้มุ่งยกระดับมาตรฐานบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารให้มีความปลอดภัย พร้อมกับเดินหน้าให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารให้เหมาะสม เพื่อให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและและยั่งยืน กิจกรรมนี้จึงถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมหลักที่จะช่วยเพิ่มความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการร้านอาหารและผู้บริโภค ซึ่งนอกจากการสนับสนุนกิจกรรม เอสซีจี แพคเกจจิ้ง ยังได้นำบรรจุภัณฑ์ “เฟสท์” บรรจุภัณฑ์ทางเลือกใหม่ที่ปลอดภัยสำหรับอาหารมาแนะนำให้กับร้านค้าได้เลือกใช้ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ Street Food ของไทยได้ใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน ซึ่งอาหาร Street Food จะไม่เพียงแค่มีมีรสชาติอร่อยเท่านั้น แต่ยังสะอาดและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวมากขึ้นด้วยการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัย”