ชะตากรรม ของพระสนมเจินเฟย ของจักรพรรดิกวางสู
"....เราวางแผนไว้ว่าจะให้เธอหนีไปด้วยกับเรา แต่ด้วยความสวยและความอ่อนเยาว์ อาจทำให้ถูกข่มขืนจากทหารฝรั่งระหว่างทางได้ ฉันรู้ว่าเธอควรจะทำตัวอย่างไร..."
ดำรัสของพระนางซูสีไทเฮา
สนมเจิน ประสูติ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2419 - สิ้นพระชนม์ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2443) พระนามที่ทรงได้รับหลังจากการสิ้นพระชนม์แล้วว่า สนมเค่อชุ่น หรือพระสมัญญานามอย่างไม่เป็นทางการว่า มเหสีไข่มุก เป็นสนมในพระเจ้ากวังซวี่แห่งราชวงศ์แมนจูของประเทศจีน
เดิมทรงเป็นที่รู้จักด้วยพระนาม ทาทาลา ทรงเป็นธิดาของนายจางซฺวี่ ชาวแมนจูเผ่าทาทาลา และเป็นพระน้องนางของสนมจิน ซึ่งร่วมสามีเดียวกันคือพระเจ้ากวังซวี่
นางทาทาลาถวายตัวเข้าวังใน พ.ศ. 2431 และเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้ากวังซวี่อย่างยิ่ง ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2432 ก็โปรดให้สถาปนาขึ้นเป็นสนม มีนามว่า เจิน
ในระยะเริ่มแรก ซูสีไทเฮาโปรดในทักษะความสามารถของสนมเจินอย่างยิ่ง ทรงให้ว่าจ้างศิลปินชั้นนำของประเทศมาสอนสนมเจินในด้านศิลปะและการดนตรีด้วย อย่างไรก็ดี สนมเจินได้ชักนำให้พระเจ้าแผ่นดินมีพระราชหฤทัยที่กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว และเป็นพระองค์เองขึ้น นอกจากนี้ ยังทรงผันพระราชหฤทัยพระเจ้าแผ่นดินให้หันไปศึกษาและรับเอามาซึ่งสิ่งที่ดี จากต่างชาติ และยังมีบันทึกว่าสนมเจินทรงสนพระทัยในการถ่ายภาพและทรงเชื้อเชิญให้ ชาวตะวันตกเข้ามายังนครต้องห้ามเพื่อมาสอนพระองค์เกี่ยวกับนวัตกรรมนี้ด้วย การนิยมคบค้าสมาคมกับต่างชาติและพระบุคลิกลักษณะอันประหลาดของสนมเองคือโปรด ฉลองพระองค์เป็นบุรุษ ยังให้ซูสีไทเฮาทรงเริ่มจงชังสนมเจินพระองค์นี้ขึ้นเรื่อย ๆ และเพื่อเป็นการประชดประชัน ซูสีไทเฮาทรงออกพระนามสนมว่า "ย่าเจิน" (Grandma Zhen)
เมื่อสนมเจินสนับสนุนให้สมเด็จพระจักรพรรดิก่อรัฐประหารเพื่อชิงอำนาจทางการ เมืองจากซูสีไทเฮา ซูสีไทเฮาซึ่งทรงสดับความก่อนก็เสด็จไปบริภาษสนมต่าง ๆ นานา และด้วยข้อหาว่าสนมทรงก้าวก่ายกิจการบ้านเมืองก็มีพระราชเสาวนีย์ให้ลงโทษ เฆี่ยนตีและนำสนมไปจำขังไว้ ณ ตำหนักเย็นนับแต่นั้น
ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2443 ในเหตุการณ์ที่กองทหารผสมแปดชาติบุกยึดกรุงปักกิ่งอันเนื่องมาจากการที่ซูสี ไทเฮาทรงสนับสนุนกบฏนักมวยให้ทำร้ายชาวต่างชาติ ก่อนกองผสมนานาชาติจะเข้ากรุงได้ ซูสีไทเฮาและบรรดาบุคลากรในพระราชสำนักได้ลี้ภัยไปยังนครซีอาน มณฑลฉ่านซี และก่อนหน้าจะเสด็จลี้ภัย ซูสีไทเฮาได้ทรงเบิกสนมเจินมาเฝ้าและมีรับสั่งว่า
เมื่อแรก เราตั้งใจจะนำเจ้าไปกับเราด้วย แต่เจ้านั้นยังอ่อนวัยและจิ้มลิ้มนัก เกรงว่าจะถูกพวกทหารต่างชาติกระทำทารุณข่มขืนเอาได้ ดังนั้น เราเชื่อว่าเจ้าคงเข้าใจว่าควรทำเช่นไรต่อไป
เมื่อทรงเข้าพระทัยว่าซูสี ไทเฮาหมายให้ทรงกระทำอัตวินิบาตกรรม สนมเจินก็ทรงร้องขอต่อซูสีไทเฮาให้ทรงอนุญาตให้พระเจ้าแผ่นดินประทับอยู่ใน พระนครเพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจแก่ประชาชนและเพื่อเจรจากับต่างชาติ ซูสีไทเฮาทรงสดับแล้วก็ทรงพระโกรธยิ่งนัก มีพระราชเสาวนีย์ให้บรรดาขันทีเข้ากลุ้มรุมจับสนมไปทิ้งลงบ่อน้ำนอกตำหนัก หนิงเซี่ย (Ningxia Palace) ทางเหนือของนครต้องห้าม ถึงแก่สิ้นพระชนม์
อย่างไรก็ดี นายสเตอร์ลิง ซีเกรฟ (Sterling Seagrave) นักประวัติศาสตร์สมัยใหม่ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวอาจไม่ได้เป็นพระราชเสาวนีย์โดยตรงของซูสีไทเฮาก็ได้ แต่อาจเป็นการริเริ่มหรือนำเสนอของพวกขันที หรือสนมอาจทรงกระโดดลงบ่อน้ำด้วยพระองค์เองก็ได้