วิธีออมเงินขั้นต่ำ เดือนละ 1,000 ก็รวยได้ !
หลายคนมักหาข้ออ้างหลีกเลี่ยงการออมเงิน ด้วยการอ้างสารพัดเหตุผล เช่น เงินไม่พอใช้จ่าย แถมยังมีหนี้สินให้จ่ายอีกเยอะแยะมากมาย จนปัจจุบันยังใช้เงินไม่ชนเดือน ทั้งที่จริงๆแล้ว บุคคลกลุ่มนี้ยังใช้เงินแบบไม่รู้เป้าหมาย ทันทีที่เงินเดือนออกก็นำไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ซื้อสารพัดสิ่งของที่เคยอยากได้ โดยไม่คำนึงถึงอนาคต ว่าจะนำเงินจากไหนเก็บสำรองไว้เพื่อใช้จ่ายในวัยเกษียณ
วันนี้ เราได้รวบรวมวิธีการ ออมเงินขั้นต่ำ เดือนละ 1,000 บาทให้ทวีค่างอกเงย มาฝากกัน รับรองว่าถ้าคุณทำตามวิธีเหล่านี้ได้คุณจะมีเงินเก็บเป็นแสนภายในเวลาอันรวดเร็วและเป็นเศรษฐีได้อย่างแน่นอน ซึ่งจะมีวิธีอะไรบ้างนั้น ลองมาดูกันเลยดีกว่าค่ะ
1. เปิดบัญชีเงินฝากประจำ
บัญชีเงินฝากประจำนั้นมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป แต่จะมีกำหนดระยะเวลาในการเบิกถอนเริ่มต้นที่ 1 ปี หรือตามแต่เงื่อนไขในช่วงเวลานั้นๆ คุณสามารถเลือกฝากขั้นต่ำเดือนละ 1,000 บาทได้โดยไม่ต้องคิดมากให้เสียเวลา แล้วหลังจากนั้น หน้าที่ของคุณก็คือ โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากประจำในทุกๆเดือน อย่างสม่ำเสมอ
ทุกครั้งที่เงินเดือนออก อย่าลืมว่าสิ่งแรกที่ต้องทำคือการนำเงินไปฝากเข้าบัญชี คิดเสียว่าคุณกำลังชำระหนี้บัตรเครดิตอยู่ก็ได้ เมื่อคุณทำบ่อยๆจนติดเป็นนิสัย ไม่นานคุณก็จะเริ่มสนุกกับการออมเงิน และเริ่มออมมากขึ้นในทุกๆเดือนโดยไม่รู้ตัว เพราะยิ่งคุณเห็นเงินออมเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้คุณมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น แถมยังเป็นตัวกระตุ้นให้คุณอยากออมเงินอีกด้วยนะ
2. ปรับทัศนคติด้านลบของตัวคุณเอง
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง ที่ควรเริ่มทำไปพร้อมๆกับการฝากเงิน เพราะหลายคนมีทัศนคติด้านลบที่ควรปรับเปลี่ยน เช่น เดี๋ยวค่อยฝาก เดี๋ยวให้ใช้หนี้บัตรเครดิตหมดก่อน ผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆแบบนี้ ยังไงก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
ลองคิดถึงภาพบั้นปลายชีวิตในสองรูปแบบ รูปแบบแรกคือการใช้ชีวิตแบบอัตคัดขัดสน หรือมองภาพคนยากไร้ในสังคมรอบๆตัวก็ได้ สิ่งเหล่านี้จะช่วยกดดันให้คุณมุ่งมั่น และพยายามผลักดันตัวเองให้ไปสู่เป้าหมายได้เร็วยิ่งขึ้น
หลังจากนั้นก็มาคิดถึงตัวคุณเองที่สุขสบายตามอัตภาพในบั้นปลายชีวิต มีลูกหลานรุมล้อม ท่องเที่ยวได้ตามใจต้องการ แล้วหันมาตั้งเป้าหมายเก็บสะสมเงินออมเพื่อชีวิตที่ดีตามที่คุณใฝ่ฝันถึง ซึ่งหากคุณมีความพยายามและความตั้งใจจริงล่ะก็ ฝันจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมของคุณอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็อย่าลืมใช้จ่ายอย่างประหยัดมากขึ้นเพื่อเงินออมที่เพิ่มพูนกันด้วยนะ
3. หาวิธีลงทุนเพิ่ม
หารายได้พิเศษเพื่อเพิ่มยอดเงินในบัญชี เช่นเปิดร้านขายของออนไลน์ โดยเลือกขายในสินค้าที่คุณเชี่ยวชาญหรือชื่นชอบเป็นพิเศษ โดยหาแหล่งรับสินค้าราคาประหยัด หรือเป็นตัวแทนจำหน่ายโดยไม่สต๊อกสินค้าเองเลยก็ได้อีกเช่นกัน นอกจากการขายสินค้าออนไลน์แล้ว ยังมีอาชีพเสริมสร้างรายได้อีกมากมายที่รอให้คุณไปลงทุน
คุณอาจใช้ความถนัดหรือความสามารถพิเศษที่คุณมีเพื่อหารายได้เพิ่ม เช่นการตัดเย็บหรือรับจ้างซ่อมแซมเสื้อผ้า ซึ่งจักรเย็บผ้าไฟฟ้าสมัยนี้ก็มีราคาไม่สูงมาก ราคาเริ่มต้นที่ราวๆ2,000บาทขึ้นไป แล้วแต่รายละเอียดในการใช้งานของแต่ละรุ่น รับรองว่าเป็นการลงทุนที่ไม่สูญเปล่าอย่างแน่นอนค่ะ ดีไม่ดี อาจทำรายได้แซงหน้างานประจำของคุณเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นเพื่อเงินออมที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ลองมาหารายได้เสริมกันดูนะ เลือกงานที่ถนัดและไม่กระทบต่องานประจำ รับรองว่าเวิร์คแน่นอน
4. ลดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
คุณลองหันไปทบทวนประวัติการใช้จ่ายของคุณในอดีต ว่าใช้จ่ายกับสินค้าฟุ่มเฟือยไปเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่บ้าง ถึงคุณจะหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองว่า เป็นจำนวนเงินเล็กน้อยที่ใช้เพื่อซื้อความสุขก็ตาม แต่ถ้าหากคุณนำเงินจำนวนนั้นมาเก็บสะสมเป็นเงินออม คุณคงปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกัน ว่ามันจะมีมูลค่ามากพอจนซื้อสินทรัพย์ต่างๆได้เลยทีเดียว
ก่อนอื่นคุณต้องห้ามใจตัวเอง และซื้อเฉพาะเท่าที่จำเป็นจริงๆ เช่นวันหยุดมีเพียงสัปดาห์ละสองวัน แต่คุณกลับมีเสื้อผ้าล้นตู้จนใส่ตลอดปีก็ยังไม่ครบทุกตัว แบบนี้แหละที่เรียกว่าเกินความจำเป็น ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและนำเงินที่ต้องใช้ตรงนั้นมาเก็บสะสม แล้วคุณจะภูมิใจในยอดเงินเก็บที่มีมากขึ้นในบัญชีแต่ละเดือน แถมยังทำให้คุณมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นยอดเงินเก็บอีกด้วย
เห็นไหมคะ ว่าการออมเงินเพียงเดือนละ 1,000 บาทนั้นทำได้ไม่ยากเลย ขอเพียงคุณมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน รับรองว่าในบั้นปลายชีวิตยามเกษียณ คุณจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบายโดยไม่ต้องพึ่งเงินทองของลูกหลานเลยล่ะค่ะ
นอกจากนี้คุณไม่ต้องออมเงินแค่เดือนละ 1,000 บาทเสมอไปก็ได้ เดือนไหนอยากออมแยอะหน่อย ก็ใส่เข้าไปเลย แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทนะ ลองตั้งใจทำดูแล้วชีวิตบั้นปลายของคุณจะกลายเป็นเศรษฐีได้อย่างแน่นอน แถมยังทำให้วัยเกษียณเป็นวัยที่มีความสุขสบายและไม่ต้องเคร่งเครียดกับเรื่องการเงินอีกด้วย