@เสกสรรค์ วงษ์สำราญ_[ได้โพสต์ไว้ว่า]:
ไม่มีคลิป แต่มีเรียงความดีๆ ที่คุณอ่านแล้วน้ำตาไหล
ชนะเลิศเรียงความวันแม่ ของ เด็กหญิงอารดา วงษ์ดีเลิศ ม.1/1
โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดใหม่ท่าพาณิชย์) ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
ชีวิตของลูกกำพร้า
สวัสดีท่านผู้ปกครอง และคุณครูที่เคารพรักทุกท่าน หนูชื่อ เด็กหญิงอารดา วงษ์ดีเลิศ ขณะนี้หนูกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 หนูอยากเล่าชีวิตของหนูให้ทุกท่าน และเพื่อนทุกคนได้รับรู้ว่าชีวิตที่ขาดทั้งพ่อและแม่เป็นอย่างไร แต่ยังโชคดีที่หนูมีคุณย่าเลี้ยงหนูมาแทนคุณพ่อและคุณแม่ได้อย่างดีที่สุด
คุณพ่อของหนูชื่อ นายแพทย์กฤษดา วงษ์ดีเลิศ เรียนจบจากคณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เข้ารับราชการทำงานมาหลายจังหวัด ครั้งล่าสุดย้ายมาเป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ จังหวัดปราจีนบุรี ในปี พ.ศ. 2544 ส่วนแม่ของหนูชื่อ คุณแม่อารมณ์ วงษ์ดีเลิศ มีกิจการเปิดร้านเสริมสวยอยู่ที่กรุงเทพฯ หนูเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว คุณพ่อและคุณแม่ของหนูก็เป็นลูกคนเดียวของครอบครัว เมื่อทุกท่านฟังแล้วชีวิตของหนูน่าจะสมบูรณ์พร้อม แต่ความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน คุณย่าเล่าให้หนูฟังว่าหนูกับญาติของแม่เดินทางไปทำธุระที่ต่างจังหวัด รถเกิดอุบัติเหตุ ทุกคนในรถเสียชีวิตพร้อมกันหมด เหลือเพียงหนูซึ่งมีอายุได้เพียง 5 เดือน รอดชีวิต หนูยังมีความโชคดีอยู่บ้าง ที่คุณพ่อไม่ได้เดินทางไปด้วย คุณพ่อของหนูเป็นแพทย์ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต เคารพในจรรยาบรรณแพทย์อย่างเคร่งครัด มีจิตใจดี หลายครั้งที่รักษาคนไข้ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
คุณพ่อกับคุณย่าเลี้ยงหนูมาด้วยความรักและความเมตตา ไม่ทำให้หนูรู้สึกว่าขาดแม่ แต่ชะตาฟ้าลิขิตเล่นตลกกับครอบครัวหนู เมื่อหนูอายุได้ประมาณ 2 ขวบ คุณย่าเล่าว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับครอบครัวของหนูอีก วันหนึ่งคุณพ่อรักษาคนไข้ที่มีอาการติดเชื้อในกระแสโลหิต ด้วยความเป็นห่วงคนไข้ ขณะที่พ่อกำลังปั๊มหัวใจให้คนไข้ คุณพ่อไม่ได้ใส่ผ้าปิดปาก ปรากฏว่าคนไข้ได้อาเจียนใส่คุณพ่อทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ทางปาก คุณพ่อไม่ได้คำนึงความปลอดภัยของตนเอง จึงไม่ได้ทานยาเพื่อป้องกัน ต่อมาไม่นานคุณพ่อก็เริ่มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายแล้วลามไปที่สมองอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดก็เสียชีวิตลงด้วยวัยเพียง 30 กว่าปี เท่านั้น ซึ่งขณะนั้นหนูเองก็ยังจำหน้าพ่อไม่ได้ เพราะหนูก็มีอายุเพียง 2 ขวบ เท่านั้น หนูไม่เข้าใจว่าครอบครัวของหนูทำเวรกรรมอะไรไว้ ถึงต้องประสบชะตากรรมเช่นนี้
ปัจจุบันนี้หนูมีเพียงคุณย่าที่มีอายุถึง 75 ปี ส่งเสียเลี้ยงดูให้หนูได้เรียนหนังสือ โดยมีอาชีพขายขนมเล็กๆ น้อยๆ เพื่อประทังให้สองชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้ หนูสงสารคุณย่ามาก สิ่งที่หนูทำได้ดีที่สุดในเวลานี้คือ ตั้งใจเรียนหนังสือ เป็นเด็กดี ช่วยเหลือคุณย่าทุกอย่างเท่าที่เด็กอายุขนาดหนูพึงจะทำได้ ขณะนี้หนูอาศัยอยู่ที่บ้านของคนอื่นที่เขาให้ความเมตตา โดยที่ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องกันเลย
ทุกเย็นหนูกับย่าจะมาช่วยกันขายขนมบนทางเท้า ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนทุกวัน ต้องพยายามขายให้หมดไม่หมดก็ขาดทุน เพราะครอบครัวของหนูมีเงินน้อยมากแค่หมุนขายของไปวัน ๆ เท่านั้น หลายครั้งมีผู้ใจบุญมาช่วยซื้อขนมจนหมด ทุกวันนี้หนูได้รับความเมตตาจาก โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดใหม่ท่าพาณิชย์) แห่งนี้เป็นอย่างมาก ครูทุกคนให้ความเอ็นดู หนูได้รับทุนการศึกษา ได้รับประทานอาหารกลางวันฟรี รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ โรงเรียนจ่ายให้หนูหมด แต่หนูไม่รู้ว่าเมื่อหนูจบการศึกษาจากโรงเรียนแห่งนี้แล้วชีวิตหนูจะเป็นอย่างไรต่อไป หนูคิดแต่เพียงว่าการศึกษาและความรู้เท่านั้นที่หนูจะสามารถนำไปแลกกับการทำงานในอนาคตได้ ท่านทั้งหลาย และเพื่อนๆ ที่อยู่ในที่ประชุมแห่งนี้ หลายคนมีครอบครัวที่อบอุ่นและมีความพร้อม
ในการเรียน
หนูอยากจะบอกทุกคนว่า เมื่อมีโอกาสแล้ว ขอให้ตั้งใจเรียนหนังสือ และรักคุณพ่อ คุณแม่ให้มาก ๆอย่าให้เหมือนกับหนูที่ไม่มีคุณพ่อคุณแม่ให้รัก แต่หนูมีคุณย่าที่ประเสริฐที่สุด ที่ไม่เคยทอดทิ้งหนูเลย เราสองคนทุกข์สุขมาด้วยกัน หนูสัญญาว่าหนูจะดูแลคุณย่าแทนคุณพ่อหนูอย่างดีที่สุดที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างหนูจะทำได้
ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่อดทนฟังประวัติชีวิตของหนู สวัสดีค่ะ