โฆษณายุคเก่า
แป้งโอวัลติน
พ.ศ. 2471
นั่น อันแรก..ก็งงแล้วอ่ะดิ๊ นี่มันโฆษณาแป้งทาหน้าชัดๆ เลยใช่มั้ยล่ะ มีทำให้ผิวพรรณผ่องใสด้วย แต่ในหนังสือ เค้ายืนยันว่าเป็นโฆษณา 'โอวัลติน' ที่เป็นเครื่องดื่มจริงๆค่ะ
แถมเกร็ดจากคุณเอนกนิดนึง 'โอวัลติน' นั้นวางตลาดครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2447 (100 ปีแว้วว) เดิมใช้ชื่อว่า 'Ovomaltine' คิดค้นโดย ดร. ยอร์ช แวนเดอร์ (Dr. George Wander) นักเคมีชาวสวิสค่า
ยางดันล็อบ
พ.ศ. 2472
โฆษณายางใน และยางนอก ยี่ห้อ 'ดันลอป' ทำเป็นรูปผู้หญิงขับยาง สวยดีเหมือนกัน
ยาสีฟันวิเศษนิยม
พ.ศ. 2478
ไม่แน่ใจว่ายังมีขายอยู่หรือเปล่าไอ้ยาสีฟัน 'วิเศษนิยม' เนี่ยแต่ชื่อยังคุ้นๆ หูนะ
ยัง จำกันได้มั้ยน้อ ยุคนึงที่ดนตรีอัลเตอร์ฯ อินดี้ดังใหม่ๆ (เกือบ 10 ปีก่อนนู้น) เบเกอรี่มิวสิค เคยออกอัลบั้มวงอินดี้มาพร้อมกัน 3 วง มีวงนึงใช้ชื่อ 'วิเศษนิยม' นี่ล่ะ (และ 1 ใน 2 วง ที่เหลือก็คือ ซิลลี่ฟูลส์)
ยานัดถ์หมอมี
พ.ศ. 2479
อัน นี้ก็เหมือนกันไม่แน่ใจว่ายังมีขายอยู่หรือเปล่า (ยุคนี้ยังมีคนใช้ยานัตถุ์อยู่หรือเปล่าเหอะ) แต่เห็นยังมีตึก 'หมอมี' อยู่แถววงเวียน 22 เลยเดาเอาว่าคงยังมีขายอยู่น่ะ
เบียร์ตราว่าวปักเป้า และตราสิงห์
พ.ศ. 2479
ไอ้เบียร์ 'ว่าวปักเป้า' น่ะไม่อยู่แล้ว ส่วนเบียร์ 'สิงห์' คงไม่ต้องบรรยายอะไรกันอีก (แต่ไฮเนเก้นอร่อยที่ซู้ดด แหะ แหะ)
ในโฆษณาใช้จุดขายว่าเป็นเบียร์ไทยที่ไม่มีสารเคมีเจือปนเหมือนเบียร์นอก
เครื่องดื่ม โอวัลติน
พ.ศ. 2481
อ่า..อัน นี้ค่อยมั่นใจหน่อยว่าเป็นโฆษณาเครื่องดื่ม 'โอวัลติน' (ที่กินได้) ไม่เหมือนโฆษณาตัวแรก ส่วนไอ้เจ้ากระป๋องโอวัลตินหน้าตาอย่างนี้ยังพอหาดูได้ในปัจจุบันค่ะ
เกร็ด จากคุณเอนก นี่เป็นโฆษณาที่ใช้ในช่วงงานคล้องช้างที่ลพบุรีในปี 2481 จึงวาดเป็นรูปชายหญิงนั่งดื่มโอวัลติน ในขณะที่ด้านหลังมีการแสดงของช้าง
วิสกี้ยอนนี่วอล์คเกอร์
พ.ศ. 2482
โฆษณาเหล้า 'จอห์นนี่ วอล์คเกอร์' นั่นเอง แต่ดูเหมือนจะยังไม่แยกเป็น แบล็ค เรด โกลด์ บลู และกรีนเลเบิ้ลนะ (เยอะมั่กๆ)
และ ยังมีบอกด้วยว่าถือกำเนิดในปี 1820 หรือ 185 ปีมาแล้วนั่นเอง สโลแกนที่ใช้ตอนนั้นคือ Still Going Strong แต่เราว่า Keep Walking เท่ห์กว่าเยอะเน๊าะ
ยาสีฟันดาร์กี้
พ.ศ. 2494
หรือ 'ยาสีฟันดาร์ลี่' ในปัจจุบันนั่นเอง โดยสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนจาก 'ดาร์กี้' เป็น 'ดาร์ลี่' เนื่องมาจากโดนชาวคนผิวดำประท้วง
หุ หุ เกิดมาทันเห็นตอน 'ดาร์ลี่' ยังเป็น 'ดาร์กี้' ด้วยล่ะ (แต่ยังไม่แก่เน้อ) ยังจำหน้าพีมืดยิ้มโชว์ฟันขาวนี้ได้ติดตาเลย เพราะแต่ก่อนตอนเด็กๆ ชอบใช้มันเผ็ดดี
ยังจำโฆษณาตอนเปลี่ยนชื่อได้รางๆ คล้ายๆ 'ดาร์กี้' เป็น 'ดาร์ลี่' ดีเหมือนเดิม อะไรประมาณนี้แหล่ะ (ถ้าจำผิดต้องขออภัย)
จักรเย็บผ้าซิงเกอร์
พ.ศ. 2496
ภรรยา บอกสามีว่ายังไม่ต้องซื้อแหวนเพชรก็ได้ ซื้อจักรเย็บผ้าซิงเกอร์ก่อน เพราะผ่อนส่งได้ด้วย ทำเอาสามียิ้มแฉ่งไปทีเดียว โดยลืมไปว่าก็ต้องซื้อแหวนเพชรให้ภายหลังอยู่ดี
โลโก้ซิงเกอร์ยังเป็น แบบเก่าอยู่เลย รู้สึกปัจจุบันจะเปลี่ยนแบบไปเพราะไม่ได้ขายเฉพาะจักรเย็บผ้าแล้ว มีขายเครื่องไฟฟ้าชนิดอื่นๆ ด้วย
เครื่องดื่ม โคคา-โคลา
พ.ศ. 2497
2 ปีก่อนอันธพาลจะครองเมือง นี่คือโฆษณา 'โค้ก' ของเรา ทางของเรา นั่นเอง เป็นโฆษณาที่แสดงบรรยากาศ 'งานรัฐธรรมนูญ' เมื่อก่อนด้วย โดยในภาพเป็นชายหญิงเดินควงแขนกันดื่ม 'โคคา-โคลา' มีแบคกราวน์เป็นคนนั่งรถไฟเล็กผ่านอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ
และในโฆษณามีบอก ที่ใต้โลโก้ด้วยว่า 'นำในด้านคุณภาพตลอดมากว่า 67 ปีแล้ว' ซึ่งโฆษณาอันนี้ใช้ในปี 2497 แสดงว่า 'โค้ก' เริ่มขายในไทยประมาณปี 2430 นับถึงปีนี้ก็เกือบๆ 120 ปีแล้ว
เครื่องดื่ม เปปซี-โกลา
พ.ศ. 2497
นี่ คือโฆษณา 'เป๊ปซี่' ที่ลงในหนังสือเล่มเดียวกันกับโฆษณา 'โคคา-โคลา' อันบนเลย แสดงว่า 'เป๊ปซี่' กับ 'โค้ก' นี่แข่งขันกันมายาวนานมาก
ผงซักฟอกโอโม่
พ.ศ. 2502
โฮ่..ใคร จะไปนึกว่าผงซักฟอก 'โอโม่' เป็นยี่ห้อที่มีมานานแล้ว ในหนังสือบอกว่ามีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2497 แหน่ะ แต่หายไปพักนึง แล้วเพิ่งกลับมาใหม่ไม่นานมานี้
ผ้าอนามัยโกเต๊กซ์
พ.ศ. 2503
และ นี่คือโฉมหน้าของสินค้าที่ทำให้คนไทยเมื่อก่อนใช้คำว่า 'โกเต๊กซ์' ในความหมายที่หมายถึงผ้าอนามัย แม้ว่าผ้าอนามัยนั้นๆ จะไม่ใช่ยี่ห้อ 'โกเต๊กซ์' ก็ตาม
ผงซักฟอกแฟ๊บ
พ.ศ. 2504
และคนไทยสมัยก่อน ก็ใช้คำว่า 'แฟ้บ' ในความหมายที่หมายถึงผงซักฟอกเช่นกัน
ใน โฆษณามีสอนวิธีการซักเสื้อผ้าด้วย 'แฟ้บ' และยังบอกอีกด้วยว่า ผงซักฟอก 'แฟ้บ' นี้สามารถเอาไปล้างถ้วยชามได้ดีที่สุดอีกด้วย แต่ยุคนี้คงไม่มีใครเอาผงซักฟองมาล้างจานอีกแล้วล่ะเน๊าะ
ยาสีฟันคอลเกต
พ.ศ. 2504
การสื่อความหมายระหว่างกันและกันโดยใช้สรรพนามแทนในภาษาไทยนั้นละเอียดกว่าของภาษาอังกฤษมาก เช่น
สรรพนามบุรุษที่ 1
อังกฤษใช้ >>> I
ไทยใช้ >>> ผม ข้าพเจ้า กู ข้า กระหม่อม ตู ฉัน เรา
สรรพนามบุรุษที่ 2
อังกฤษใช้ >>> You
ไทยใช้ >>> คุณ ท่าน เอ็ง ฝ่าบาท สู เธอ
สรรพนามบุรุษที่ 3
อังกฤษใช้ >>> He, She, It, They
ไทยใช้ >>> เขา เธอ มัน พวกเขา หล่อน
ถ้าเราใช้สรรพนามพวกนี้ผสมปนกันให้ฝรั่งที่พึ่งจะเรียนภาษาไทยใหม่ๆ เขาคงงงมากน่าดูทีเดียว
แต่ถ้ามาเจอแบบนี้จะยิ่งงงใหญ่
"เสด็จให้มาทูลถามเสด็จว่า เสด็จจะเสด็จหรือไม่เสด็จ หากเสด็จเสด็จ เสด็จก็จะเสด็จด้วย"
ภาษาไทยของเราสุดยอดแล้ว ช่วยกันรักษาไว้เถอะครับ
cr http://topicstock.pantip.com/isolate/topicstock/2010/07/M9447300/M9447300.html