นางหิมะ ปะทะ แม่นาคพระโขนง
นางหิมะ ปะทะ แม่นากพระโขนง ใครจะชนะ ผีไทยอย่างแม่นาก หรือ ผีญี่ปุ่นอย่างนางหิมะ
สตรีหิมะ หรือ ยูกิอนนะ (yuki onna– นางหิมะ)เจ้าหญิงหิมะ ( Yuki-onna ) 雪女
เจ้าหญิงหิมะ เป็นปิศาจสาวหน้าตาสวยที่สิงสถิตอยู่ในภูเขาหิมะ นางมีดวงตาที่เปร่งประกายแต่ยังแฝงไปด้วยความเหี้ยมโหดของความเป็นปีศาจ มีผิวขาวเผือดสมชื่อหิมะ และสวมใส่ชุดกิโมโนที่มีสีขาวเหมือนผิวของเธอ
เจ้าหญิงหิมะ เป็นภูติพรายภูเขาเนื่องจากนางจะอาศัยอยู่บนภูเขาที่มีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดเวลา และหากเมื่อใด ที่มีชายหนุ่มหลงทางเข้าไปในหุบเขาหิมะที่นางอาศัยอยู่ นางก็จะปรากฎกายต่อหน้าชายหนุ่มเหล่านั้น และใช้เสน่ห์ผสมความงามยั่วยวนให้ชายผู้นั้นเคลิบเคลิ้ม หลังจากที่เหยื่อหลงใหลในมนต์สะกด ร่างของชายคนนั้นก็จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะทั่วทั้งร่างในทันที จากนั้นผีสาวก็จะทำการดูดเอาพลังวิญญาณของชายผู้นั้นไปจนหมดสิ้น เพื่อนำเอาพลังวิญญาณแห่งบุรุษเพศไปเพิ่มพลังปิศาจในกายของตนเอง เมื่อโดนดูดวิญญาณไปแล้ว จะทำให้ชายผู้นั้นนอนตัวแข็งทื่อ ผิวซีดเผือด และนอนสิ้นใจตายอยู่ตรงนั้นเพื่อรอคนมาพบศพในวันต่อไป ชายคนใดที่หลงไปพบนางเข้าคงยากที่จะมีโอกาสรอดชีวิตกลับมา
ส่วนตำนานที่เล่าขานถึงความรักที่แท้จริงระหว่างเจ้าหญิงหิมะกับชายหนุ่มมนุษย์ก็มีอยู่บ้างเช่นกัน ดังตำนานต่อไปนี้…
กล่าวถึงชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเป็นหลานของคนตัดไม้แก่ เขาทั้งสองเดินทางขึ้นภูเขาหิมะเพื่อหวังจะไปตัดไม้ แต่ระหว่างทางเกิดมีพายุหิมะพัดกระหน่ำเข้ามา ทำให้ทั้งสองต่างพากันหนีเอาตัวรอด และทันใดนั้นเอง ชายทั้งสองก็พบเข้ากับกระท่อมร้างหลังหนึ่ง ทั้งสองจึงตัดสินใจพากันเข้าไปเพื่อขอหลบพายุหิมะ และเผลอหลับไปในกระท่อมแห่งนั้น
หลังจากที่ชายหนุ่มตื่นขึ้นมา ก็พบว่ามีหญิงสาวหน้าตาสวยมากราวกับไม่ใช่คนปกติเดินเข้ามาในกระท่อม หญิงสาวก้มลงเหนือร่างชายแก่และทำการดูดพลังวิญญาณของชายแก่จนหมดสิ้น เมื่อชายหนุ่มเห็นดังนั้น ก็เกิดอาการกลัวเป็นอย่างมาก แต่หญิงสาวผู้นั้นกลับเหลือบสายตามามองชายหนุ่มพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเดินเข้ามาหาพร้อมกับพูดว่า ” เจ้าไม่ต้องกลัวข้าไปหรอก ข้าจะไม่ทำอะไรเจ้า หากเจ้าสัญญาว่าจะไม่บอกสิ่งที่เห็นครั้งนี้กับใคร ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่เจ้าด้วยก็ตาม…” ชายหนุ่มจึงรีบตกปากรับคำไปด้วยความกลัว จากนั้น นางหิมะผู้นี้ก็เดินหายออกไปจากกระท่อม
5 ปีผ่านไป ชายหนุ่มเติบใหญ่ขึ้นและได้แต่งกับลูกสาวตระกูลขุนนางที่ร่ำรวยม ชายหนุ่มมักมองนางแล้วครุ่นคิดเสมอว่า ภรรยาของตนนั้นมีหน้าตาคล้ายกับใครคนหนึ่งที่เขาเคยพบเจอมาก่อนหน้านี้ และเมื่อเวลาผ่านไป ทั้งสองได้ให้กำเนิดบุตรร่วมกันถึง 5 คน ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก แต่ทั้งสองก็พยายามเลี้ยงดูครอบครัวกันด้วยดีเสมอมา
วันหนึ่ง ขณะที่ชายหนุ่มแอบย่องไปหาหญิงสาวขณะที่เธอกำลังนั่งเย็บผ้าอยู่ เขาเกิดครุ่นคิดขึ้นมาได้ว่าหน้าตาของนางนั้นเหมือนกับหญิงสาวที่เขาเคยเจอ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจเล่าเรื่องลึกลับที่เคยเกิดขึ้นบนภูเขาหิมะให้นางได้ฟัง ทันทีที่นางได้ฟังคำบอกเล่าจากชายหนุ่ม นางก็กรีดร้องออกมาด้วยความโกรธ และหันหน้ามาทางชายหนุ่มพร้อมกับจำแลงร่างกลับคืนเป็นปีศาจหิมะดั่งเดิม
ชายหนุ่มตกใจกลัวเป็นอย่างมาก เมื่อรู้ว่าภรรยาของคือปิศาจที่เคยเจอบนภูเขาหิมะแห่งนั้น นางปีศาจบีบคอชายหนุ่มและยกตัวเขาขึ้นจนขาพ้นพื้น พร้อมพูดด้วยความโกรธแค้นว่า ” ข้าจะยังไม่ฆ่าเจ้าตอนนี้หรอก แต่เจ้าต้องสัญญาว่าจะดูแลลูกๆของข้าให้ดี หากเมื่อใดที่เจ้าผิดคำสัญญา ข้าจะกลับมาเอาชีวิตเจ้าไปเอง…” เมื่อสิ้นสุดคำพูด นางก็หายตัวไปกลายเป็นละอองไอของหิมะ …
ซึ่งที่มาของเจ้าหญิงหิมะ ก็เชื่อกันว่านางเป็นผีที่เกิดจากวิญญาณหญิงสาวที่ต้องมาตายอย่างทรมานในวันที่มีพายุหิมะ แต่บ้างก็ว่า นางนั้นเป็นการจำแลงมาของวิญญาณภูเขา ส่วนอีกตำนานหนึ่งเล่าว่า เจ้าหญิงหิมะมักจะปรากฏกายมาพร้อมกับทารกที่นางอุ้มไว้ในอ้อมอก หากชายผู้ใดที่พบนางเข้า นางจะร้องขอให้ชายผู้นั้นช่วยอุ้มทารกให้นาง ซึ่งหากชายคนนั้นหลงกลอุ้มทารกให้ ร่างของทารกน้อยก็จะปล่อยไอเย็นจนทำให้เหยื่อแข็งตายและเสียชีวิตคาที่
ซึ่งถึงแม้ว่าตำนานของเจ้าหญิงหิมะจะแตกต่างกันมากมาย แต่ทุกตำนานก็มีส่วนที่คล้ายๆกัน ก็คือ ยูกิ อนนะ จะต้องเป็นผู้หญิงที่สวยมาก ซึ่งสวยในแบบที่ว่า ดูรู้ว่านางไม่ใช่คนปกติทั่วไปบนโลก…
นอกเหนือจากตำนานของเจ้าหญิงหิมะแล้ว ก็ยังพบตำนานที่คล้ายกันที่กล่าวถึงหิมะด้วย เช่น เด็กหนุ่มหิมะ ตาเฒ่าหิมะ แม่เฒ่าหิมะ หรือจิ้งจอกหิมะ เป็นต้น
แม่นากพระโขนง หรือมักเรียกสั้น ๆ ว่า แม่นาก (บ้างก็สะกดด้วย ค.ควาย) เป็นผีตายทั้งกลมที่เป็นที่รู้จักกันดีของไทย เชื่อว่าเรื่องของนางเกิดขึ้นจริงในสมัยรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ปัจจุบันมีศาลแม่นากตั้งอยู่ที่วัดมหาบุศย์ เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
มีสามีภรรยาหนุ่มสาวคู่หนึ่ง อาศัยอยู่ด้วยกันที่ย่านพระโขนง สามีชื่อนายมาก ส่วนภรรยาชื่อนางนาก ทั้งสองใช้ชีวิตคู่ร่วมกันจนนางนากตั้งครรภ์อ่อน ๆ นายมากก็มีหมายเรียกให้ไปเป็นทหารประจำการที่บางกอก นางนากจึงต้องอยู่ตามลำพัง
เวลาผ่านไป ท้องของนางนากก็ยิ่งโตขึ้นเรื่อยๆ จนครบกำหนดคลอด หมอตำแยก็มาทำคลอดให้ ทว่าลูกของนางนากไม่ยอมกลับหัว จึงไม่สามารถคลอดออกมาตามธรรมชาติ ยังผลให้นางนากเจ็บปวดเป็นยิ่งนัก และในที่สุดนางนากก็ทานความเจ็บปวดไว้ไม่ไหว สิ้นใจไปพร้อมกับลูกในท้อง กลายเป็นผีตายทั้งกลม
หลังจากนั้น ศพของนางนากได้ถูกนำไปฝังไว้ยังป่าช้าท้ายวัดมหาบุศย์ ส่วนนายมากเมื่อปลดประจำการก็กลับจากบางกอกมายังพระโขนงโดยที่ยังไม่ทราบความว่าเมียของตัวได้หาชีวิตไม่แล้ว นายมากกลับมาถึงในเวลาเข้าไต้เข้าไฟพอดี จึงไม่ได้พบชาวบ้านเลย เนื่องจากบริเวณบ้านของนางนาก หลังจากที่นางนากตายไปก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เพราะกลัวผีนางนากซึ่งต่างก็เชื่อกันว่าวิญญาณของผีตายทั้งกลมนั้นเฮี้ยน และมีความดุร้ายเป็นยิ่งนัก
ครั้นเมื่อนายมากกลับมาอยู่ที่บ้าน ผีนางนากก็คอยพยายามรั้งนายมากให้อยู่ที่บ้านตลอดเวลา ไม่ให้ออกไปพบใคร เพราะเกรงว่านายมากจะรู้ความจริงจากชาวบ้าน นายมากก็เชื่อเมีย เพราะรักเมีย ไม่ว่าใครที่มาพบเจอนายมากจะบอกนายมากอย่างไร นายมากก็ไม่เชื่อว่าเมียตัวเองตายไปแล้ว จนวันหนึ่งขณะที่นางนากตำน้ำพริกอยู่บนบ้าน นางนากทำมะนาวตกลงไปใต้ถุนบ้าน ด้วยความรีบร้อน นางจึงเอื้อมมือยาวลงมาจากร่องบนพื้นเรือนเพื่อเก็บมะนาวที่อยู่ใต้ถุนบ้าน นายมากขณะนั้น บังเอิญผ่านมาเห็นพอดี จึงปักใจเชื่ออย่างเต็มร้อย ว่าเมียตัวเองเป็นผีตามที่ชาวบ้านว่ากัน
นายมากวางแผนหลบหนีผีนางนาก โดยการแอบเจาะตุ่มใส่น้ำให้รั่วแล้วเอาดินอุดไว้ ตกกลางคืนทำทีเป็นไปปลดทุกข์เบา แล้วแกะดินที่อุดตุ่มไว้ให้น้ำไหลออกเหมือนคนปลดทุกข์เบา จากนั้นจึงแอบหนีไป นางนากเมื่อเห็นผิดสังเกตจึงออกมาดู ทำให้รู้ว่าตัวเองโดนหลอก จึงตามนายมากไปทันที นายมากเมื่อเห็นผีนางนากตามมาจึงหนีเข้าไปหลบอยู่ในดงหนาด นางนากไม่สามารถทำอะไรได้เพราะผีกลัวใบหนาด นายมากหนีไปพึ่งพระที่วัด นางนากไม่ลดละพยายาม ด้วยความที่เจ็บใจชาวบ้านที่คอยยุแยงตะแคงรั่วผัวตัวเองอีกประการหนึ่ง ทำให้นางนากออกอาละวาดหลอกหลอนชาวบ้านจนหวาดกลัวกันไปทั้งบาง ซึ่งความเฮี้ยนของนางนาก ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ถูกฝังไว้ระหว่างต้นตะเคียนคู่นั่นเอง ในที่สุด นางนากก็ถูกหมอผีฝีมือดีจับใส่หม้อถ่วงน้ำ จึงสงบไปได้พักใหญ่
จนกระทั่งตายายคู่หนึ่งที่ไม่รู้เรื่องเพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่ เก็บหม้อที่ถ่วงนางนากได้ขณะทอดแหจับปลา นางนากจึงถูกปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ถูกสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สยบลงได้ กะโหลกศีรษะส่วนหน้าผากของนางนากถูกเคาะออกมาทำหัวปั้นเหน่ง เพื่อเป็นการสะกดวิญญาณ และนำนางนากสู่สุคติ หลังจากนั้น ปั้นเหน่งชิ้นนั้นก็ตกทอดไปยังเจ้าของอื่น ๆ อีกหลายมือ ตำนานรักของนางนาก นับเป็นตำนานรักอีกเรื่องหนึ่งที่ประทับใจผู้ฟังอย่างไม่รู้จบ กับความรักที่มั่นคงของนางนากที่มีต่อสามี ที่แม้แต่ความตายก็มิอาจพรากหัวใจรักของ
โพสท์โดย: แดด