เล่าเรื่อง@@ประสบการณ์ชีวิตของเรากับยาไอซ์

ภาพประกอบจากเนต

จขกท ก็เคยลองกับเพื่อนๆ สมัยเรียน ที่ ม. แห่งหนึ่ง บางแสน ชลบุรี    เที่ยวกลางคืน แถวผับ สำหรับ นักศึกษา และอื่นๆอีกมากมาย อยากมาเตือนใจ ว่าพวกที่อวดดี อวดติ่ง โน่นนี่ ลงโซเชี่ยลนั่น อาจเป็นได้ 2 อย่าง คือพวก เพี้ยนๆ เป็นโรคทางจิตเวช กับพวกเมาเคลิ้มยา เหล่านี้แหละ  คึกคะนอง จนเสียคน เพื่อน ญ บางคน ถึงกับมี............ อยากเขียนประสบการณ์ ตัวเอง แต่...........................แบะๆๆๆๆ.........ขี้เกียจ  เอาของคนไปเป็นบทเรียน (บางส่วน) ไว้สอนลูกหลานกันนะคะ  ว่าโลกสวยมันก็มี โลกสีเทาที่เราผ่านมา มันก็มี ตอนนี้เลิกแล้ว แค่ทานเป็นยาเป็นใบๆ แค่นั้นเอง

มาฟังกันเลย จากเวปพันทิปจร้าาา

ภาพประกอบจากเนต

ดังที่เป็นข่าวครึกโครมกันอยู่ในตอนนี้นะคะเรื่องดาราสาวเสพยาเสพติด  เราเลยอยากจะแชร์ประสบการ์เล็กๆ เกี่ยวกับยาเสพติดชนิดนี้มาให้เพื่อนๆ น้องๆ ที่ยังไม่เคยรู้จักหรือรู้ถึงพิษร้ายของมันฟังกัน   เริ่มเลยดีกว่าเนอะ

เราเองไม่ได้อาศัยอยู่เมืองไทยในตอนนี้นะคะ  และประสบการณ์เกี่ยวกับยาเสพติดชนิดนี้ก็เกิดขึ้นหลังจากเรามาเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา  อาจจะเพราะด้วยความเหงา ตัวคนเดียวหรืออะไรก็แล้วแต่ เราบังเอิญได้รู้จักกับเพื่อนๆ ที่เป็นกลุ่มคนไทยที่อาศัยอยู่ที่นี่ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ได้ใบเขียวและมาอเมริกาตอนเป็นวัยรุ่นแล้ว อาจจะเพราะการปรับตัวที่ยากลำบาก  การทำงานที่ต้องใช้แรงงานหรืออะไรก็ไม่ทราบ ทำให้คนกลุ่มนี้ทั้งกลุ่มเสพยาค่ะ ทั้งกัญชา ยาไอซ์ ของมึนเมาคือหลังจากทำงานหนักก็ปาร์ตี้แล้วก็เสพยาโดยเฉพาะไอซ์นี่แหละค่ะ

ด้วยความที่เราเป็นเด็กอยู่ในโลกแคบๆ ของครอบครัวหัวอ่อนมากๆ เพราะหลังจากนั้นไม่นานเราก็มีแฟนเป็นคนในกลุ่มนี้แหละ ซึ่งหลายๆ คนก็เตือนเราว่าเค้าเป็นพวกเกเร เสพยา ไม่น่าคบ  แต่ตอนนั้นเราไม่เชื่อเพราะไม่เคยเห็นเค้าเสพแล้วเค้าก็ดีกับเรามากๆ ดูแลเราทุกอย่าง คือเรากับเค้าคบกันเป็นเพื่อนมาก่อน และเค้าก็เอาใจใส่เราดีมากๆ เราเลยเปิดใจคบกับเค้า  จนคบกันแล้วนี่แหละเราถึงรู้ว่าเค้าเสพยาแต่ก็ถอยไม่ทันแล้ว และในสายตาเราเค้าเป็นคนดีจริงๆ  แต่ด้วยเค้ามีปัญหาในชีวิตที่มันกดดันเค้าเลยหันหน้ามาเข้าหายาเสพติด เราเข้าใจเค้าค่ะถึงแม้มันจะผิดทางไปหน่อย (ใจดีเป็นนางฟ้าเลยเนอะ)

อาการของคนเสพไอซ์นะคะ  อาจจะเป็นเพียงช่วงระยะแรกที่จะมีการไม่หลับไม่นอน แอคทีฟทั้งวันทั้งคืนไม่นอนติดต่อกันสองสามวันได้   แต่ถ้าหมดฤทธิ์ร่างกายไม่ไหวจริงๆ ก็จะหลับเป็นตายเลยค่ะหลับเป็นวันๆ ขับรถที 8-9 ชั่วโมงไม่ต้องพักกันเลยทีเดียว  ตอนแรกเราก็เป็นคนใสใส นั่งมองนั่งดูเค้าเสพกันเฉยๆ  หารู้ตัวไม่ว่าได้ก้าวขาข้างนึงเข้าไปในคุกแล้วมั้ยล่ะ เพราะเวลาที่ออกไปไหนด้วยกันกับคนกลุ่มนี้  หรือว่าขับรถไปต่างรัฐไกลๆ กับแฟนในรถมียาเสพติดอยู่ตลอด   เคยไปรับยาจากพวกค้าส่ง  แต่รอดมาได้ไม่รู้ตอนนั้นคิดอะไรอยู่  (กราบพ่อแก้วแม่แก้วที่คุ้มครองลูกให้รอดมาได้ )

เกริ่นมาซะเยอะประสบการณ์เลวร้ายมันอยู่ตรงนี้ค่ะ  หลังจากแฟนเราซึ่งมีการงานดีกว่าเพื่อนในกลุ่มแต่ไม่ใส่ใจไปทำงานเอาแต่หมกตัวอยู่กับคนกลุ่มนี้ก็ตกงานเพราะเวลางานไม่พอ   รถเท่ห์ๆ ตู้มๆ ที่เคยมี เงินที่พอจะจับจ่ายเลี้ยงเพื่อนก็หมดไป ไม่เหลืออะไรเลย  จากความเครียดทำให้เค้าเกิดอาการหลังเสพยาค่ะ คือเกิดอาการหูแว่ว ประสาทหลอน ได้ยินเสียงคนพูดมองเพดานแล้วยิ้มแบบเหี้ยมๆ ตาขวางบอกว่ามีคนพูดด้วยอยู่ตลอดเวลา  หวาดระแวงเหมือนคนเสพยาม้าไม่มีผิด  ซ้ำร้ายกว่านั้นเค้ามีปืน พอระแวงทีก็เอาปืนมาไว้ใต้หมอน  บางทีก็เรียกเราไปนอนกอดในมือถือปืน  ตอนนั้นเราทั้งกลัวทั้งสงสารเค้า  เพื่อนๆ ก็ไม่มีใครเอาเค้าแล้วไม่มีเงินซื้อยาเลี้ยงเพื่อนไม่เหลืออะไร ทำให้เค้ายิ่งเครียด  (ปล  คิดถึงตอนนี้แล้ว เรางงว่าเรารอดมาได้ยังไง)

ตอนนั้นเองเราก็เครียดนะคะ  สงสารเค้าทุกคนทิ้งเค้าไปหมดเค้าไม่เหลือใครมีแต่เรา  พอเค้าไม่มียาเพราะไม่มีเงินก็จะนอนค่ะนอนเกือบทั้งวันทั้งคืน ตื่นมาก็หลอนเราต้องคอยหาข้าวหาน้ำไปให้ พูดอะไรไม่ถูกหูก็ตาขวาง จนเราต้องแอบเอาปืนไปฝากเพื่อนเค้าไว้(แล้วมันก็เอาไปขายแลกยา - -")  โชคดีของเราที่เพื่อนในกลุ่มนั้นยังสงสารเรา เงินไม่มี เรียนก็ไม่ได้ไปเรียนแล้วไม่กล้าขอเงินที่บ้านเพราะตัวเองทำผิด  กลายเป็นว่าตัวเราเองนั่นแหละไปขลุกอยู่กับกลุ่มของเพื่อนเค้าในเวลากลางวันที่เค้าเอาแต่นอน  นั่งปรับทุกข์ไปด้วยนั่งมองเพื่อน(ผู้หญิง 2-3คน) เสพไอซ์ไปด้วย เฮ้ออ..

จนมาวันนึงเพื่อนถามว่าลองมั้ย ลองสิ (ปกติเราไม่ยุ่งกับพวกนี้อยู่แล้วนะคะ เคยเห็นเพื่อนเสพยาบ้าแต่เราเหม็นจะอ้วก ไม่ชอบไม่เข้าใกล้เลย) ไม่รู้ว่าเราคิดสั้น ประชดชีวิตหรือว่าอะไร เราตัดสินใจลองค่ะ  อยากจะบอกว่าคนลองครั้งแรกมันไม่รู้วิธีหรอกค่ะ  งกๆ เงิ่นๆ เห็นอยู่ มองอยู่ก็ไม่รู้วิธี  เพื่อนเป็นคนทำให้ทุกอย่างค่ะ  (ดังนั้นจากภาพที่เห็นของดาราสาว  ตัดสินเอาเองแล้วกันว่าครั้งแรกครั้งเดียวจริงๆ หรือเปล่า) หลังจากครั้งแรกก็มีครั้งต่อมาเรื่อยๆ นะคะ เราไม่ได้รู้สึกอะไรถึงความแตกต่างเท่าไร ไม่ได้ช่วยอะไร ยังกินอิ่มนอนหลับเหมือนเดิม แต่มารู้อาการหลังจากตัวเองมีความเครียด เริ่มมองเห็นตัวเองหลอน  เวลาที่เดินไปตามถนนเรามองเห็นรถมีขาเดินได้  มองไปไกลๆ  เห็นผู้คนมาจากไหนไม่รู้มากมายเดินอยู่ข้างหน้า แต่พอเราเดินไปถึงกับว่างเปล่า แล้วความกลัวไม่มีปกติเราขี้กลัว ไม่กล้าเดินออกจากบ้านมืดๆ นี่เดินได้เลยค่ะตี4ตี5  แต่ก็จะเจออะไรหลอนๆ แบบที่เล่ามา

แล้วอีกอย่างที่ประหลาดมากเราเห็นขนในร่างกายไม่ได้ต้องนั่งถอน ขนขา ผม เรานั่งถอนได้เป็นชั่วโมงๆ  ในหัวเริ่มมีเสียงประหลาดแต่ขำๆ นะ มานึกตอนนี้เป็นเสียงเพลงของเกมค่ะ  อาการทุกอย่างที่เล่ามานี่ลองไอซ์แค่อาทิตย์เดียวนะคะ แล้วก็ไม่ได้บ่อยด้วยวันละครั้งสองครั้งเท่านั้นร้ายแรงมาก อาจจะเพราะเราหัวอ่อนด้วยไม่เคยลองยาเสพติดอะไร ผลเลยออกมาไวกว่าพวกเค้า พอเรารู้ตัวเราก็เริ่มออกห่างค่ะเราตัดใจ ปฎิเสธ ส่ายหัวไม่เอาอย่างเดียว  ก็ไม่มีอาการอยากหรือว่าติดนะคะ  อาจจะคิดถึงกลิ่นของมันที่ทำให้เราติด แต่คิดว่าไม่ก็คือไม่  เราเริ่มลุกขึ้นมาจัดการกับแฟนเราด้วย  ให้เค้าเลิกเด็ดขาด  ตอนแรกเค้าก็ยังคุ้มดีคุ้มร้ายแต่เค้าก็ตัดขาดจากกลุ่มเพื่อนเค้าไปเลยไม่ติดต่อ ไม่เข้าใกล้อีก

หลังจากนั้นเค้าก็หางานทำ  เราเริ่มสร้างครอบครัว  หลายปีผ่านมาแล้วค่ะ ทุกวันนี้เรามีความสุขมากๆ เราย้ายหนีจากแหล่งเดิมๆ มาเริ่มต้นใหม่ (เมืองนี้หน้าหนาว หิมะตกหนักแต่ก็สวยมากๆ )  เมืองที่ไม่มีใครรู้จักเรา  ชีวิตเริ่มต้นจากศูนย์ใหม่จนมีชีวิตที่ดีอีกครั้ง (เรามีลูกแฝด 3 ค่ะ )แต่ว่าเพื่อนๆ ในกลุ่มของแฟนนั้นยังไม่มีใครเลิกแม้แต่คนเดียวค่ะ   เพื่อนผู้หญิงเขยิบขึ้นเป็นคนขาย มีตำรวจคอยตามต้องย้ายหนีไปเรื่อยๆ  เปลี่ยนคู่นอนกันในกลุ่ม ลูก3-4 คนไม่ใช่พ่อเดียวกันซักคน เปลี่ยนผัวเปลี่ยนเมียกันเป็นว่าเล่นค่ะ

นับว่าวันนั้นบุญเรายังมีนะคะ  ไม่ให้หลงไม่ให้เตลิดไป  ทำให้ตอนนี้ชีวิตเราสดใสร่าเริงมีครอบครัวที่อบอุ่นถ้าไปเล่าเรื่องแบบนี้ให้ใครฟัง คงไม่มีใครเชื่อว่าอย่างเรานี่ก็แอบมีมุมมืดในชีวิตกับเค้าเหมือนกัน  แต่อยากเล่าอยากบอก(ถึงจะเวิ่นเว้อไปเยอะมากกก) ถึงน้องๆ เพื่อนๆ ที่คิดอยากจะลองอย่าเลยค่ะ ถ้าคุณกลับตัวไม่ทันคุณจะทำลายชีวิตตัวเอง ทำร้ายคนที่รักคุณ   รักตัวเองให้มากๆ นะคะ

Jenny  USA