สื่อนอกเผย ไทยเป็นสวรรค์ สำหรับคนรักร่วมเพศ
สื่อนอก ชี้ไทยเป็นสวรรค์ของคนรักร่วมเพศ หลังแสดงออกได้อย่างโจ่งครึ่ม ทั้งยังมีการผลักดัน ร่าง พรบ.ชีวิตคู่
สำนักข่าวรอยเตอร์ส เปิดเผยบทความที่ระบุว่า ไทยฉายแววเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวชาวรักร่วมเพศ หากรัฐประกาศให้เพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้ ชี้ทุกวันนี้นักท่องเที่ยวเอเชียหลายชาติรู้สึกสบายใจกับการได้มาเที่ยวไทย แล้วสามารถแสดงออกกันได้อย่างเปิดเผย ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ อย่างพม่า มาเลเซีย สิงคโปร์ และบรูไน ต่อต้านการมีความสัมพันธ์แบบชายรักชาย หญิงรักหญิง แต่ประเทศไทยกลับเปิดกว้างเรื่องความรักไม่จำกัดเพศ จนกลายเป็นสวรรค์ของบรรดาคู่รักร่วมเพศทั้งหลายในเอเชีย ที่จะเดินทางมาพักผ่อน โดยไม่ต้องอึดอัดกับการแสดงออกเหมือนกับตอนที่อยู่ในประเทศของพวกเขา
โดยรอยเตอร์ส ได้หยิบยกคำเปิดเผยของคู่รักชาย-ชาย ชาวมาเลเซียคู่หนึ่ง ที่เดินทางมาเที่ยวท่องยามราตรีในย่านพัฒน์พงศ์ พวกเขาเปิดเผยว่า ความรักแบบชาย-ชาย นั้นเป็นเรื่องผิดกฎหมายในมาเลเซีย แต่เมื่อเดินทางมาประเทศไทย พวกเขาก็รู้สึกอิสระ แต่ดูเหมือนว่า การอนุญาตให้เพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้นั้น ยังเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่ายในไทย เพราะในขณะที่มีองค์กรเพื่อสิทธิเกย์และ ส.ส. กลุ่มหนึ่ง ได้ร่วมกันหนุนร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ที่อนุญาตให้ชายหญิงกลุ่มรักร่วมเพศ สามารถแต่งงานกันได้ แต่หลายคนก็ยังไม่มั่นใจว่า สังคมไทยซึ่งเป็นสังคมอนุรักษนิยมนั้น จะยอมเป็นชาติแรกในการปฏิรูปกฎหมายสมรสรักร่วมเพศได้ เพราะคนไทยจำนวนไม่น้อยยังมองว่ากลุ่มคนที่มีรสนิยมรักร่วมเพศนั้น เป็นบุคคลที่ผิดปกติทางจิต ทั้งศาสนาพุทธเองก็ยังมีความเชื่อว่า การเกิดเป็นเพศที่สามนั้น เกิดจากบาปกรรมที่กระทำไว้ในชาติปาง
ในปี 54 น.ส.นูรีซัน เจ๊ะดือราแม วัย 24 ปี ถูกพบเป็นศพถูกทิ้งอยู่บริเวณบ่อทิ้งขยะในหมู่บ้าน ต.ตะลุโบ๊ะ อ.เมือง จ.ปัตตานี สภาพศพถูกไม้หน้าสามตีเข้าที่ใบหน้าเป็นแผลเหวอะหวะ แต่ตำรวจกลับมุ่งเป้าไปว่า เกิดจากความหึงหวงของแฟนสาว หลังจากที่เธอมีสัมพันธ์กับผู้หญิงอีกคน และในปีเดียวกัน ก็มีผู้หญิง 2 คน ซึ่งน่าจะมีรสนิยมรักร่วมเพศถูกยิงเสียชีวิตชานเมืองกรุงเทพฯ ซึ่งก็เช่นเดียวกัน ตำรวจมุ่งเป้าไปที่ความรุนแรงของพวกรักร่วมเพศ เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้คณะกรรมาธิการสิทธิเกย์และเลสเบียนสากล ได้เขียนจดหมายถึงรัฐบาลไทยให้หยุดมองว่าคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับกลุ่มคนรักร่วมเพศนั้นเป็นอาชญากรรมจากความหึงหวง
ด้านอัญชนา สุวรรณานนท์ ประธานกลุ่มอัญจารี ซึ่งเป็นองค์กรพิทักษ์สิทธิคนรักร่วมเพศ ระบุว่า ความรุนแรงต่อเลสเบียนมักถูกสังคมโยนให้เป็นความผิดของเหยื่อที่มีรสนิยมรักร่วมเพศอยู่เสมอ ขณะเดียวกัน อัญชนาได้เปิดเผยปัญหาของสังคมที่ยังไม่รับรองการสมรสเพศเดียวกันว่า เธอเองได้เปิดแฟนเพจเพื่อให้เป็นที่ระบายปัญหาของบรรดากลุ่มคนรักร่วมเพศ พบว่า หญิงหลายคนส่งข้อความมาระบายว่า พวกเธอถูกบังคับให้แต่งงานกับผู้ชาย ทั้งที่เธอมีรสนิยมรักหญิงด้วยกัน และมีผู้หญิงคนหนึ่งล้มป่วยอาการหนัก แต่ต้องทำเรื่องหลายชั่วโมงกว่าจะรักษาได้ เนื่องจากติดปัญหาตรงที่เมื่อแจ้งว่าคู่ชีวิตของผู้ป่วยเป็นหญิง ทางโรงพยาบาลก็ไม่ยอมรับฟัง
ส่วนทางด้าน เปรมปรีดา ปราโมช ณ อยุธยา นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิคนข้ามเพศและเจ้าหน้าที่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ สำนักงานกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ละครไทยมักจะมีตัวละครที่เป็นบุคคลข้ามเพศเสมอ แต่จริง ๆ แล้วในสังคมยังไม่ยอมรับคนกลุ่มนี้อย่างแท้จริง
เช่นเดียวกันกับ วิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จากจังหวัดสงขลา ที่ยอมรับว่า การอนุญาตให้พวกรักร่วมเพศแต่งงานกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่ยังคงมีแนวคิดอนุรักษนิยมอยู่ แต่ตอนนี้ ส.ส. หลายคนก็เริ่มนำเรื่องเกี่ยวกับการผลักดันสิทธิเพศที่สามให้เท่าเทียมกับชายหญิงมาเอาใจคนกลุ่มนี้แล้ว ไม่แน่อีกไม่นาน ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต อาจจะผ่านความเห็นชอบจากสภาได้
ข้อมูลโดย : www.talkystory.com