หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ตามรอยศาสดามูฮัมหมัดบุคคลสุดท้ายที่ถูกเลือก

โพสท์โดย ลัลลา

ชีวประวัติของท่านศาสดามูฮัมหมัด ( ซ.ล. )

      การเกิด ท่านศาสดามุฮัมมัดศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะ ซัลลัม เกิดที่นครมักกะฮฺ ประเทศซาอุดิอารเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่ตั้งอยู่แถบตะวันออกกลาง เกิดเมื่อเวลาเช้าตรู่ของ วันที่ 12 เดือน ร่อบีอุ้ลเอาวัล ปีช้าง ซึ่งตรงกับวันที่ 22 เมษายน ค.ศ.571 หรือ พ.ศ.1114 เมื่อท่านอับดุลมุฏฏอลิบ ผู้เป็นปู่ได้ทราบข่าวการเกิด จึงได้รีบไปเยี่ยมและได้ตั้งชื่อให้หลานชายว่า มุฮัมหมัด ผู้ได้รับการสรรเสริญ              

      เชื้อสาย บิดาของท่านชื่อ อับดุลลอฮฺ เป็นบุตรของอับดุลมุฏฏอลิบ มารดาของท่านชื่อ อะมีนะฮฺ  บิดาและมารดาของท่านศาสดามุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นชนเผ่ากุเรช บิดาของท่าน เสียชีวิต ในขณะที่ท่านอยู่ใน ครรภ์มารดา และต่อมามารดาของท่านก็เสียชีวิตอีก ในขณะที่ท่านมีอายุได้ 6 ปี ท่านศาสดาจึงได้ไปอยู่กับปู่ชื่อ อับดุลมุฏฏอลิบ

      การทำงาน เมื่อยังเป็นเด็กท่านเคยทำงานโดยมีอาชีพรับจ้างเลี้ยงแกะ และได้เคยติดตามลุง ไปค้าขายยังประเทศ ซีเรีย 2 ครั้ง ครั้งแรกไปเมื่ออายุ 12 ปี ครั้งที่ 2 ไปเมื่ออายุ 25 ปี ในขณะที่ท่านมีอายุ 25 ปีนั้น ท่านไปทำงานอยู่กับท่านหญิงค่อดีญะฮฺ ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการค้าในนครมักกะฮฺด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีไมตรีและมิตรภาพ ประกอบกับมีประสบการณ์ในเรื่องการค้าขาย เมื่อสมัยที่ยังอยู่กับลุง จึงทำให้กิจการค้าของท่านหญิงค่อดีญะหฺได้เจริญรุ่งเรืองเป็นลำดับ

      คุณลักษณะของท่านศาสดา ท่านศาสดามุฮัมมัดเป็นบุคคลที่เพียบพร้อมไปด้วยความประเสริฐหลายด้าน เช่นความสัจจะ ความซื่อสัตย์ ท่านได้รับสมญานาม อัซซอดิก ผู้มีวาจาสัจจะ และ อัลอะมีน ผู้ที่มีความซื่อสัตย์                                                                

นิสัยของท่านนบี    http://www.islammore.com/main/content.php?page=sub&category=46&id=768

      การตายของปู่ อับดุลมุตตอลิบ ปู่ของท่านศาสดาสิ้นชีวิต ขณะที่ท่านศาสดาอายุ 8 ปี

      อาศัยอยู่กับลุง อบูตอลิบ ลุงของท่านศาสดาเลี้ยงดูท่านศาสดาด้วยความรักและเอ็นดู ท่านศาสดาเป็นเด็กฉลาด มีความประพฤติดีและขยัน ท่านช่วยลุงเลี้ยงแพะ แกะ และช่วยลุงทำงานหลายอย่าง

นักบวชบุฮัยรอ  ระหว่างการเดินทาง กองคาราวานได้ผ่านเมืองหนึ่ง และในระหว่างการเดินทางก็ได้ผ่านกระท่อมหลังหนึ่ง ที่มีนักบุญอาศัยอยู่ ชื่อว่า บุฮัยรอ และเมื่อบุฮัยรอได้เห็นกองคาราวาน และเขาก็มองเห็นใบหน้าของท่านรอซูล และอายุของท่าน 12 ปี

บุฮัยรอก็พูดกับลุงของท่านรอซูลว่า : เด็กคนนี้คือใคร
อบูตอลิบกล่าวว่า : แท้จริงเขาคือลูกชายของฉัน
บุฮัยรอกล่าวว่า : เขาไม่ใช่ลูกของท่าน
อบูตอลิบกล่าวว่า : เขาคือลูกของน้องชายของฉัน แต่ว่าพ่อของเขาเสียชีวิตไปแล้ว
บุฮัยรอกล่าวว่า : จงพาลูกของน้องชายของท่านกลับไป และจงระวังจากพวกชาวยิว แท้จริงหลานของท่านจะเป็นศาสดาในเวลานี้
ดังนั้นอบูตอลิบก็รีบกลับไปยังมักกะห์

      การสมรส ท่านได้รับการยกย่องและขนานนามว่า " อัลอามีน " แปลว่า ผู้ซื่อสัตย์ ความยุติธรรม และการได้รับความ ไว้วางใจของท่านนี้เองทำให้ท่านหญิงค่อดีญะฮฺ ซึ่งเป็นนายจ้างของท่าน จึงได้ขอแต่งงานกับท่าน ซึ่งขณะนั้นท่านอายุได้ 25 ปี ส่วนท่านหญิงค่อดีญะฮฺอายุได้ 40 ปี ซึ่งเป็นแม่หม้าย ท่านหญิงค่อดีญะฮฺได้สิ้นชีวิตลงก่อน ฮิจเราะฮฺ ประมาณ 3 ปีกว่า ซึ่งขณะนั้นท่านศาสดามุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มีอายุ 50 ปีเต็ม ดังนั้นท่านทั้งสองจึงใช้ชีวิตร่วมกันไม่น้อยกว่า 25 ปี และตลอดเวลาอันยาวนานนั้น ท่านศาสดามุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มีภรรยาเพียงคนเดียวเท่านั้น คือ ท่านหญิงค่อดีญะฮฺ ทั้งๆที่ในประเทศอาหรับขณะนั้นการมีภรรยาหลายคนจะเป็นเหตุการณ์ปกติหรือเป็น เรื่องธรรมดาสามัญก็ตาม

      การเป็นศาสดา  ยุคนั้นชาวอาหรับแตกแยกเป็นหมู่เหล่าจำนวนมาก ขาดความสามัคคี ปรองดรอง มีการรบกันตลอดเวลา ปกครองได้ยาก คนส่วนใหญ่นับถือพระเจ้าและเคารพรูปต่างๆ ประชาชนไม่มีศีลธรรม สตรีถูกข่มเหงทารุณ รังแกมากที่สุด จึงคิดหาวิธีช่วยปรับปรุงแก้ไขสถาณการณ์ให้ดีขึ้นท่านเป็นผู้ใฝ่หาความสงบสุขจึงไปบำเพ็ญเพียร ณ ถ้ำฮิรออฺ ภูเขานูร์ (Cave of Hira,Jabal al-Nour Peak)

ที่นั่นท่านศาสดามุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้รับวะฮฺยู = Revalation = การดลใจ หรือการรวบรัดดวงจิตโดยฉับพลัน จากพระผู้เป็นเจ้า โดยฑูตญิบรีล อะลัยฮิสลาม ซึ่งเริ่มต้นด้วยคำว่า อิกเราะอฺ แปลว่า จงอ่าน " จงอ่าน ด้วยพระนามของพระผู้อภิบาลของเจ้า ผู้ทรงสร้าง (สากลจักรวาล) ผู้ทรงสร้างมนุษย์จากก้อนเลือด จงอ่านเถิด และผู้อภิบาลของเจ้าทรงเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ยิ่ง " (96 : 1-3) ท่านได้การแต่งตั้งให้เป้นศาสดาจากพระผู้เป็นเจ้า ในเดือนร่อมาฎอนซึ่งขณะนั้นท่านมีอายุได้ 40 ปี

     การแต่งตั้งเป็นรอซู้ล ท่านศาสดามุฮัมมัดได้รับการแต่งตั้งเป็นรอซู้ลหลังจากวันที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นศาสดาได้ 6 เดือน ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นรอซู้ลในเดือนรอบีอุ้ลเอาวัล ตรงกับ ค.ศ. 610

     การประกาศอิสลามอย่างลับๆ พระผู้เป็นเจ้าทรงมีบัญชาให้ท่านศาสดามุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ประกาศอิสลามอย่างลับๆก่อน คือประกาศแก่ญาติผู้ใกล้ชิดเป็นประการแรก หญิงคนแรกที่นับถือศาสนาอิสลาม คือ ท่านหญิง ค่อดีญะฮฺ ภรรยาของท่าน ชายหนุ่มคนแรกที่รับอิสลามคือ ท่านอบูบักร เยาวชนคนแรกที่รับอิสลาม คือท่านอลี ซึ่งมีอายุเพียง 8-10 ปี ทาสคนแรก คือ ท่านซัยดฺ ซึ่งเป็นบุตรของฮาริซะฮฺ และต่อมาได้รับกรปลดปล่อยให้เป็นอิสระ การประกาศอิสลามอย่างลับๆ ได้กระทำมาเป็นเวลา 3 ปี สาเหตุที่ประกาศอย่างลับๆ นี้เพราะบรรดามุสลิมยังมีกำลังน้อยอยู่

     การประกาศอิสลามอย่างเปิดเผย หลังจากที่ท่านศาสดามุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้ประกาศศาสนาอย่างลับๆ เป็นเวลา 3 ปี แล้วก็ได้รับบัญชาจากพระผู้เป็นเจ้าให้ประกาศอิสลามอย่างเปิดเผย ทั้งๆที่ในขณะนั้น มีผู้นับถืออิสลาม ยังไม่มากนัก ท่านถือกำเนิดมาจากตระกูลกุร็อยส์ ซึ่งวงศ์ระกูลของท่านสืบเชื้อสายมาจากนบีอิสมาอีล บุตร นบีอิบรอฮีม (อ.ล.) การเดินทางไปต่างแดน ท่านศาสดาเดินทางไปค้าขายกับลุงที่ซีเรีย ขณะที่ท่านมีอายุเพียง 12 ปี ใน ระหว่างทางท่านได้พบกับบาทหลวงชื่อ บะฮีรอ ซึ่งกล่าวถึงความเป็นศาสดาของท่านในอนาคต

  การตัดสินปัญหาชี้ขาดด้วยชาญฉลาด พวกชาวกุเรชได้รวมตัวกัน เพื่อกลับมาบูรณะกะอฺบะฮฺใหม่ และในระหว่างที่บูรณะกัน ชาวกุเรชได้ขัดแย้งกันในเรื่องที่ใครจะเป็นผู้ที่วางหินดำ เพราะผู้ที่วางหินดำในกะอฺบะฮฺเป็นผู้ที่มีเกียรติ และการขัดแย้งเกือบจะกลายเป็นสงคราม
พวกเขาจึงกล่าวว่า : เราจะให้ผู้ที่เข้ามาหาพวกเราเป็นคนแรกตัดสิน

และท่านร่อซูลก็เข้ามา และพวกเขาก็เสนอเรื่องดังกล่าวแก่ท่านนบี
ท่าน นบีกล่าวกับพวกเขาว่า : จงวางหินไว้บนผ้า และหัวหน้าเผ่าทุกๆคนจับปลายผ้า จนกระทั่งวางก้อนหินในกะอฺบะฮฺและพวกเขาก็ทำ หลังจากนั้นท่านร่อซูล  ก็วางหินดำไว้ในที่ของมัน ด้วยตัวของท่านเองในกะอฺบะฮฺ และเป็นการเสร็จสิ้นการขัดแย้ง
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะที่ท่านมีอายุ 35 ปี

  ท่านศาสดาอพยพจากมักกะฮ์สู่มะดีนะฮ์ ท่านศาสดาอพยพจากมักกะฮ์โดยมีอบูบักรร่วมเดินทางไกลด้วย ระหว่างทางท่านได้สร้าง มัสญิดกุบาอ์ ซึ่งเป็นมัสญิดหลังแรกที่ถูกสร้างขึ้น ท่านศาสดาเข้าเมืองมะดีนะฮ์ในวันศุกร์ ท่านได้ทำการละหมาดวันศุกร์ร่วมกับพี่น้องมุสลิมที่นั่น ซึ่งถือว่าเป็นการละหมาดวันศุกร์ครั้งแรกของอิสลาม เมื่อถึงเมืองมะดีนะฮ์ ท่านศาสดาได้สร้างความรัก ความเป็นพี่น้องร่วมศรัทธาระหว่างชาวมุฮาญิรีน ผู้อพยพ กับชาวอันซ็อร ผู้ช่วยเหลือการอพยพของท่านศาสดามีความสำคัญมากในประวัติศาสตร์อิสลาม มุสลิมจึงถือเอาการอพยพของท่านศาสดามุฮัมมัดเป็นจุดเริ่มของศักราชอิสลาม ซึ่งเรียกว่า ฮิจญเราะฮ์ศักราช ( ฮ.ศ. ) ปีแห่งการอพยพของท่านศาสดามุฮัมมัด

นบีมูฮัมหมัดถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ค.ศ 632 รวมอายุได้ 61 ปี

 

พิพิธพันธ์ของท่านศาสดามุฮัมมัด 

 
สถานที่ประสูติของท่านศาสดามูฮัมหมัด ปัจจุบันเป็นห้องสมุดอยู่ที่นครมักกะฮครับ

ภาพที่เห็นนี้ คือผ้าคลุมปลอกดาบของท่านนบี (ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)

สถานที่ยืนของเท้าท่านนบี(ซ.ล.) เช่นยืนให้สุนทรพจน์ เป็นต้น จนเป็นรอยเท้าของท่าน

ภาพนี้ ข้างในภาชนะแก้วทรงกลม มีเส้นผมของท่านนบี(ซ.ล.)

ลูกปัดหัวแหวนของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

ผ้าโพกศีรษะ(สารบั่น) ไม้เท้า และเสื้อคลุมของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

ภาพนี้ คือขวดแก้วที่บรรจุฝุ่นดินจากกุบูรของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

ตราประทับของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม (โปรดสังเกตุดูรอยตราประทับตรงส่วนกลางน่ะครับ

อีกภาพหนึ่ง ของตราประทับของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

สารทีท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ส่งไปยังกษัตริ์ฮิร๊อกล่า ชาวนัสรอนีย์ พร้อมมีตราประทับด้านล่างของสาร

อีกภาพหนึ่ง ของสารที่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ส่งไปยังกษัตริย์ฮิร๊อกล่า ส่วนบนเป็นเนื้อหาของสารฉบับเดิมครับ

เส้นผมสองเส้นของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

ลูกปัดหัวแหวนของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

ร้องเท้าของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

ไม้ยาทาตา(จาโล๊ะมาตอ)ทั้งสองของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

ร่องรอยประทับเท้าของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งเป็นรอยเท้าที่ท่านนบี ได้ยืนให้สุนทรพจน์

นี่ก็อีกภาพหนึ่งของรอยเท้าท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

ดาบและคันธนูของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม


ถ้ำฮิรออ์ ที่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้วิเวกเพื่อทำอิบาดะฮ์ก่อนได้รับวะฮียฺ

ไม้ที่เป็นส่วนหนึ่งจากกะบะฮ์

ภาชนะเครื่องใช้ของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

ดาบของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

ดาบของค่อลีฟะฮ์ผู้ทรงธรรมบางท่าน

ภาพ นี้ คืออัลกุรอานฉบับที่รวบรวมเป็นเล่ม(มุศฮับ) อุษมานียะฮ์ คืออัลกุรอานเป็นเล่มที่ท่านอุษมาน(ร.ฏ.) ได้ทำการอ่าน ตอนที่ท่านถูกกุมสังหาร มุศฮับฉบับนี้ ได้ถูกเก็บรักษากันต่อ ๆ มา จนถึงปัจจุบัน ซึ่งอยู่ ณ พิพิธพันธ์หนังสือฉบับดั้งเดิมที่เขียนด้วยมือ "ฏ๊อชกันดฺ"

เมื่อ เราได้ดูอ่านอัลกุรอานฉบับ มุศฮับ ของท่านอุษมาน ที่ท่านได้อ่านตอนถูกกุมสังหาร และอัลกุรอานฉบับนี้ ได้ถูกคัดด้วยมือให้เป็นหลาย ๆ ฉบับ แล้วส่งไปยังหัวเมืองแคว้นต่างในสมัยนั้น เพื่ออาณาจักรอิสลามจะได้มีเอกภาพในการอ่านอัลกุรอานฉบับเดียวกัน และเพื่อขจัดความขัดแย้งที่ต่างฝ่ายต่างอ้างว่า ฉบับของตนเองถูกต้อง

เมื่อ เราได้เห็นภาพ อัลกุรอานฉบับแรกของอัลอิสลามที่ถูกรวบรวมไว้อย่างสมบูรณ์นั้น เราจะพบว่า อัลกุรอานจะไม่มี จุดที่อักษร ไม่มี สระ แต่ใน ฮ.ศ. ที่ 70 หัจยาจญฺ บิน ยูซุฟ อัสซะเกาะฟีย์ ซึ่งเป็นผู้ปกครองในสมัยนั้น ได้ดำริให้ผู้เชี่ยวชาญอัลกุรอาน ชื่อ ท่าน นัสร บิน ฮิชาม เป็นผู้กำหนด จุด ขึ้นมาในอัลกุรอาน และยังดำริให้ ท่านคอลีล บิน อะหฺมัด กำหนด สระ ขึ้นมาในอัลกุรอาน เพื่อให้บรรดามุสลิมที่ยิ่งวัน ภาษาอาหรับอ่านแอและผู้ที่ไม่ใช่คนอาหรับ ได้อ่านอัลกุรอานได้ง่ายขึ้นครับ

อย่าง ก็แล้วแต่ อัลกุรอานฉบับ ของท่าน อุษมาน(ร.ฏ.) นี้ ได้รับสืบทอดเก็บรักษากันมาจวบจนปัจจุบัน และร่องรอยของท่านนบี(ซ.ล.) ก็เฉกเช่นนั้น อัลฮัมดุลิลลาห์

กุญแจกะบะฮ์

คำ ภีร์ อัซซะบูร ของท่านนบี ดาวูด อะลัยฮิสลาม ฉบับเขียนด้วยมือที่หายาก ถูกเก็บรักษาไว้ที่ ห้องสมุด อัลมะฮัดอัดดีนีย์ ณ ที่ สัมมูหะฮ์ อะเล๊กซานเดรีย

ซุ ฮุฟ (ฉบับคำภีร์)ของนบีมูซา ซึ่งเป็นหน้าแรก ถูกเก็บรักษาไว้ในหมวดเดียวกับคำภีร์อัซซะบูร ที่ ห้องสมุด อัลมะฮัดอัดดีนีย์ ณ ที่ สัมมูหะฮ์ อะเล๊กซานเดรีย

หน้าแรกของซุฮุฟของท่านนบีมูซา ที่เขียนด้วยมือ ถูกรักษาไว้ที่ ห้องสมุด มหาวิทยาลัยไคโร

เมี๊ยะห์รอบ ที่เป็นสถานต้อนรับบรรดาทูตที่มาพบท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

ห้องของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่เคยอยู่ร่วมกับพระนาง ค่อดีญะฮ์ (ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา)
 
 

 



อีกภาพหนึ่งของดาบท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

ผ้าคลุมกุบูรของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
 
 

มะกอม(จุดที่ยืน)ของท่านนบี อิบรอฮีม อะลัยฮิสลาม
 
 



ผ้าโพกศีรษะของท่านนบี ยูซุฟ อะลัยฮิสลาม
 
 



อีกภาพหนึ่งของกุญแจกะบะฮ์
 
   



ประตูที่สุสานของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่ทำด้วยทอง

เสื้อของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ให้เราได้เห็น

เสื้อ(กอมีส)ของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

รองเท้า (ซ๊อนดัน)ของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

ภาพดาบ , บ , และคันธนูของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม


มะกอมนะบีอิบริฮีม อะลัยฮิสลาม


ภาพปัจจุบันครับ
จดหมายที่ท่านนบีส่งไปยังผู้ปกครองประเทศต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่ศาสนา
ฟันของท่าน นบีมูฮัมหมัด
กะบะห์เมื่อไม่มีผ้าคลุม
สภาพบ่อซัมซัม เมื่อกลาง ๆศตวรรตที่ 20 หรือ ประมาณ 60 ปีก่อน
 
เยอะมาก...ตามอ่านต่อได้ในลิ้งเน้อ
 
 
 
ตัวอย่างเรื่องเล่าเกี่ยวกับท่านนบี ที่ถ่ายทอดผ่านบทเพลงอนาซีด เพราะๆ




 
 
 
ขอเพียหัวใจจเข้มแข็
อย่ายอมให้ใคร
มาทำให้เจ้าฝ่าฝืนพระอค์เลย
 
 
 
 
จบข่าวการนำเสนอ
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลัลลา's profile


โพสท์โดย: ลัลลา
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
28 VOTES (4/5 จาก 7 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เขมรแสบ! นำภาพเก่าสถานท่องเที่ยวไทย ที่เต็มไปด้วยกองขยะมาเล่นไทย?ลูกค้าหนุ่มเศร้า หลังรีวิวชุดกีฬาที่ซื้อมา แต่ดันพลาดเห็นหนอนน้อย5 ราศีที่มีพญาครุฑคุ้มครองสาว "เจี๊ยบ" ทำเนียนเดินรวมกับ นร.ญี่ปุ่น..ทำเอาหนุ่ม "บอย" ถึงกับแยกไม่ออก
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สาว "เจี๊ยบ" ทำเนียนเดินรวมกับ นร.ญี่ปุ่น..ทำเอาหนุ่ม "บอย" ถึงกับแยกไม่ออกชาวลาวไม่ทน! หลังหนุ่มจีนโพสทิ้งเงินกีบลงในถังขยะ ทำคนลาวถึงกับไม่พอใจ?อิหร่านขู่ถล่มที่ตั้งนิวเคลียร์ ของอิสราเอลด้วยขีปนาวุธชวนมารู้จักลาบูบู้ มาการอง เดี๋ยวจะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง
ตั้งกระทู้ใหม่