ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีการโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค วิพากษ์วิจารณ์เหตุลื่นไถลของเที่ยวบิน ทีจี 679 โดยหนึ่งในผู้โดยสารเที่ยวบินดังกล่าว เลขที่นั่ง 42 บี บอกเล่าผ่านรายการวิทยุถึงบรรยากาศช่วงการอพยพผู้โดยสารออกจากเครื่องบิน โดยระบุว่าในช่วงเกิดเหตุไม่มีลูกเรือคนใดแสดงความห่วงใยให้ความช่วยเหลือผู้โดยสาร เท่าที่สังเกตเห็นมีเพียงแอร์โฮสเตสที่แต่งชุดไทยห่มสไบเพียงคนเดียวเท่านั้นที่พยายามให้ความช่วยเหลือผู้โดยสาร
ขณะที่ผู้บริหารบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า คำบอกเล่าของผู้โดยสารคนดังกล่าวสร้างความประหลาดใจให้กับพนักงานและเจ้าหน้าที่การบินไทยอย่างมาก เพราะจากการสอบถามพนักงานต้อนรับในเที่ยวบินดังกล่าว ได้รับการยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าในช่วงนั้นไม่มีพนักงานต้อนรับหญิงหรือแอร์โฮสเตสรายใดแต่งชุดไทยห่มสไบ โดยทุกคนใส่ชุดยูนิฟอร์มเสื้อสีม่วง
"ผู้บริหารการบินไทยต่างประหลาดใจเมื่อรับทราบเรื่องนี้ หลายคนเห็นตรงกันว่าหญิงสาวในชุดไทยห่มสไบน่าจะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพยดานางฟ้าของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่เข้ามาช่วยเหลือผู้โดยสารทุกคนให้แคล้วคลาดปลอดภัย"
แหล่งข่าวจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. กล่าวว่า จุดที่เกิดเหตุเครื่องแอร์บัสของการบินไทยไถลออกนอกรันเวย์ตะวันออกด้านใต้ อยู่ใกล้กับสถานีดับเพลิงและกู้ภัยและมีอาคารที่พักของพนักงานดับเพลิง ที่ผ่านมาพนักงานมักเจอเหตุการณ์ประหลาด หรือพบเห็นผู้หญิงสวมชุดไทยโบราณเดินไปมาในบริเวณห้องพัก หรือมีเสียงดังรบกวนตลอดเวลา
นายโชติศักดิ์ อาสภะวิริยะ อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า ช่วงก่อนเปิดให้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พนักงานชุดแรกที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในศูนย์ดับเพลิงร้องเรียนว่าถูกผีหลอกเป็นจำนวนมาก ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน และยังเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ตนจึงทำพิธีสร้างศาลรวม 6 แห่ง คือ 1.ศาลพญาอนันตนาคราช 2.ศาลพญามุจลินท์นาคราช 3.ศาลท่านท้าววิรุปักเขมมหานาคราชเจ้า 4.องค์นาคาธิบดี "ศรีสุทโธ" วิสุทธิเทวา 5.ศาลพระเจ้าตากและ 6.ศาลพ่อแก่มิ่ง
"เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่สิ่งที่เจอกับตัวเองแสดงให้เห็นว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ธรรมดา สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์ค่อนข้างมาก เท่าที่ทราบเคยเป็นสถานที่พักกองทัพของพระเจ้าตากสินมหาราช ก่อนจะยกทัพไปตีพม่าที่จังหวัดจันทบุรี"