มือถือเครื่องแรกของโลก
รายการ 60 นาทีได้นำพิธีกรสูงวัยไปพบกับนักประดิษฐ์คนสำคัญของโลก ที่วันนี้เขาจะมีอายุกว่า 81 ปีแล้ว แต่ผลงานของเขาได้เปลี่ยนโลกของเราไปแล้วทั้งใบ เขาคือ มาร์ติน คูเปอร์ (Martin Cooper) คนที่ทำให้คนอีก 7 พันล้านคน กับ ต้องใช้มือถือเกือบ 5 พันล้านเครื่องเพื่อติดต่อธุรกิจ ถามสารทุกข์สุขดิบ หรือแม้แต่บอกรักกันทุกๆ วัน
ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1973 หรือ 37 ปีก่อน เขาเป็นวิศวกรอยู่ที่บริษัทโมโตโรล่า และห้องแล็ปของเขาก็สร้างนวัตกรรมให้กับมวลมนุษยชาติ นั่นคือ การเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้เป็นรายแรกของโลก
เพราะในใจของเขารู้ดีว่าคนเราต้องการการสื่อสาร และการสื่อสารไม่เคยหยุดอยู่กับที ฉะนั้นคนไปที่ไหน ก็ต้องสื่อสารได้ตลอด และการสื่อสารนั้นยังต้องการความเป็นส่วนตัวด้วย
และสิ่งที่น่าคิดคือ ในวันก่อนที่เขาจะโชว์มือถือหนักกว่า 3 กิโลกกรัมต่อสายตาชาวโลกนั้น คนทั่วโลกยังรู้จักแต่ชื่อ “โทรศัพท์ติดรถยนต์ (Carphone)” ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายเมื่อสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเครื่องโทรศัพท์ได้ถูกพัฒนาให้ไปติดที่รถ ใช้กับแพทย์ หรือ บริการส่งสินค้าตามบ้าน
และวันนั้น วันที่เขาเรื่องการเริ่มต้นใช้งานโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกของโลกและเป็นครั้งแรกของโลกด้วยก็เกิดขึ้น…ดูวิดีโอที่เขาเล่าเหตุการณ์ที่ยังจำแม่นในวันนั้นได้ที่นี่
http://www.cbsnews.com/video/watch/?id=6512514n&tag=api
เขายืนทดลองโทรศัพท์จากมือถือเครื่องแรกที่ถนนสายที่ 6 หน้าโรงรมฮิลตัน ใจกลางเมืองนิวยอร์ก และคนแรกที่เขาโทรหาก็คือ “โจ แองเกิล” วิศวกรคู่แข่งที่บริษัท AT&T โดยเขาพูดสั้นๆ ว่าโทรมาจากมือถือ โทรศัพท์ที่ใช้มือถือจริงๆ ต่อจากนั้นก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากปลายสายเลย
จากนั้นเขายังเดินยกมือถือคุยต่อไป โดยที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังข้ามถนนอยู่ ซึ่งเพื่อนของเขาก็ดึงตัวเอาไว้ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดกับเขาคนแรก แต่วันนี้ผู้คนทั่วโลกก็ได้รับประสบการณ์นี้อย่างเคยชินไปแล้ว
ต่อจากนั้นมา เขาก็ได้เปิดตัวมือถือต้นแบบต่อหน้าสื่อมวลชน เมื่อสื่อทดลองใช้ โดยโทรไปต่างประเทศ ก็ต้องตกตะลึงว่าทำไมสิ่งของเครื่องเล็กๆ ไร้สาย แต่สามารถโทรข้ามโลกใบใหญ่ๆ ของเราได้
บุกห้องแล็ป ขุดกรุมือถือเครื่องแรก
มาร์ตินโชว์พัฒนาการของมือถือโมโตโรล่า ตั้งแต่กระติกน้ำ มาถึงมือถือฝาพับอย่างสตาร์แทค และเล็กจิ๋วที่ฮอตไปทั่วโลกอย่าง VSeries และมาปิดท้ายที่ดรอยด์ แอนดรอยด์โฟน จากโมโต
วิวัฒนาการของโทรศัพท์มือถือ
และวิดีโอที่จะย้อนพาคุณมาดูประวัติศาสตร์ของมือถือสุดยอดตลอดสามทศวรรษที่ผ่านมา
ปัจจุบันถึงแม้มาร์ตินจะอายุ 81 แต่เขายังคงเล่นสกี เทนนิส ทั้งยังเก่งกว่าภรรยาที่อ่อนกว่าเกือบ 20 ปีอีกด้วย
แต่สมองอัจฉริยะของเขาไม่หยุดแค่นั้น ปี 2006 เขากับภรรยาร่วมกันก่อตั้ง Jitterbug Wireless ผลิต “Jitterbug” มือถือสำหรับคนแก่โดยเฉพาะ ตัวเครื่องจะเป็นมือถือฝาพับปุ่มใหญ่ จอสว่างจ้า การใช้งานทุกเมนูจะมีให้เลือกแค่ 2 คำตอบ คือ ใช่ หรือ ไม่ เท่านั้น และทีเด็ดคือ เมื่อเปิดฝาจะได้ยินเสียงสัญญาณเพื่อบอกให้รู้ว่าพร้อมจะโทร ไม่ต่างไปจากโทรศัพท์บ้าน (ซึ่งเป็นแนวคิดเดียวกับมือถือโมโตฯเครื่องแรกที่เขาผลิตขึ้น) ทั้งยังมีบลูทูธอีกด้วย
แน่นอนว่ามือถือจิ๋วแต่เข้าใจผู้ใช้สูงวัยเครื่องนี้ได้รับรางวัลผลิตที่มีแนวคิดยอดเยี่ยมประจำปี 2006 จากหนังสือพิมพ์ นิวยอร์ก ไทม์ และปีต่อมานิตยสารรีดเดอร์ ไดเจสท์ยกย่องให้เป็น สุดยอด 100 ผลิตภัณฑ์ของประเทศอเมริกาด้วย
มาร์ตินยังกล่าวติดตลกอีกว่า มือถือปัจจุบันเครื่องเล็กลง แต่กลับให้คู่มือหนากว่าตัวเครื่องด้วยซ้ำ มันผิดคอนเซปต์ของการผลิตมือถือ เพราะเทคโนโลยี จะต้องง่ายต่อผู้ใช้ เพราะลูกค้าคือพระเจ้า
ส่วนคำถามที่เกี่ยวกับอนาคตของมือถือ เขาตอบง่ายๆ ว่า ประโยชน์สำคัญที่สุดของการใช้มือถือ คือ การใช้มันตรวจดูสภาพร่างกายเรา เพื่อทำให้เรามีชีวิตยืนยาวขึ้นได้ และเขามองว่าอนาคตของมือถือมันจะเล็ก และรวมกันเป็นหนึ่งกับร่างกายมนุษย์ เช่น ฝังไว้ที่ใบหู!
ปัจจุบัน มาร์ติน คูเปอร์ใช้มือถือโมโตโรล่า ดรอยด์ (ไมล์สโตน) เช็กอีเมล์ และเล่นทวิตเตอร์ด้วย