iPod รุ่นใหม่ 2012
นอกจาก iphone ที่เปิดตัวไปแล้วยังมี สินค้าอื่น ๆ อีกนั้นคือ ipod touch และ ipod nano
สำหรับใครที่อยากลองใช้สินค้า Apple ที่ราคาไม่ได้ แพงมากละก็ ipod touch ละก็ ok เลย ipod nano ก็ใช้ดู วีดีโอ ฟังเพลง เพลิน ๆ แถมดูมีสไตล์สินค้า Apple ดีไซล์ สวยงาก
เรามาเริ่มกับ iPod nano กันเลยยย รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 7 ของ ipod nano ละ
สำหรับ iPod nano (7th Gen) ต้องบอกว่าสร้างความประหลาดใจกับคนที่ได้เห็นรูปร่างหน้าตามากที่สุด
iPod nano (7th Gen) เห็นจากรูปแล้วเหมือนจับ iPod nano รุ่นที่แล้ว 2 เครื่องมาต่อกันแล้วเพิ่มปุ่ม Home เข้าไปยังไงยังงั้น โดย iPod nano (7th Gen) มีหน้าจอแบบ Multi-touch ขนาด 2.5 นิ้ว มาพร้อมความจุ 16GB ตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 5.4 มม.เท่านั้น มีปุ่มกดปรับระดับเสียงและปุ่มเล่นเพลงอยู่ด้านข้าง ซึ่งตำแหน่งการวางปุ่มแบบนี้หลายคนคงคุ้นเคยกันดีจาก iPod touch และ iPhone ตัวเครื่องมีให้เลือก 8 สีคือสีดำ, สีม่วง, สีฟ้า, สีเงิน, สีเขียว, สีเหลือง, สีชมพู และสีแดง
ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้วมีทั้งคนชอบและไม่ชอบพอ ๆ กันในแว็บแรกที่เห็น ยิ่งไอคอนทรงกลมบนหน้าจอแบบว่าฉีกไปจากรูปแบบไอคอนปัจจุบันของ iOS ที่เป็นสีเหลี่ยมขอบมนทำให้หลายคนไม่คุ้นตาและมองว่าไม่สวยไปเลยก็มีเหมือน กัน
ในส่วนของหน้าจอมีความละเอียด 40×432 พิกเซล (202ppi) รองรับการทำงานแบบสัมผัส ด้านซอฟท์แวร์ที่มาในเครื่องได้รับอิทธิพลมาจาก iOS เต็มๆ ทั้งหน้าตาตอนเล่นเพลงและการเล่นวิดีโอ ส่วนฟีเจอร์วิทยุก็ยังอยู่เช่นเดิมซึ่งถือเป็นจุดเด่นของ iPod nano มาหลายรุ่นแล้ว
สำหรับฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน iPod nano ที่เห็นชัดที่สุดคงเป็นการเพิ่ม Bluetooth เข้ามาในตัวด้วยเลย โดยแอปเปิ้ลใส่ Bluetooth 4.0 มาให้ซึ่งตามสเป็คจะไม่กินไฟมากนัก การมี Bluetooth มาในตัวก็ช่วงเพิ่มความคล่องตัวในเครื่องการใช้งานแบบไร้สายอาทิการต่อกับหู ฟังไร้สาย ต่อกับลำโพงผ่าน Bluetooth หรือแม้กระทั่งต่อการวิทยุในรถยนต์แบบที่แอปเปิ้ลนำเสนอบนเวที
ด้านแบตเตอรี่ตามสเป็คบอกว่าสามารถฟังเพลงได้ต่อเนื่อง 40 ชั่วโมงหรือเปิดวิดีโอได้ต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง โดยการชาร์จแบตเตอรี่จะใช้เวลา 2 ชั่วโมงได้ 80 เปอร์เซ็นต์ และถ้าต้องการชาร์จเต็มจะใช้เวลา 4 ชั่วโมง โดย iPod nano มาพร้อมกับช่องต่อแบบใหม่ Lightning Connector เหมือนกับ iPhone 5 และ iPod touch (5th Gen)
ส่วนที่หลายคนคาดหวังอยากให้กลับมาคือกล้องถ่ายรูป ก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยว่าแอปเปิ้ลไม่ใส่มาให้
iPod nano ในไทยราคาอยู่ที่ 5,500 บาท (ความจุ 16GB) เริ่มเปิดให้สั่งซื้อวันที่ 14 ก.ย. นี้
ข้อมูลเพิ่มเติม : apple.com/ipod-nano
เว็บในอเมริกาได้ลองเล่นลองใช้แบบคร่าว ๆ แล้วลองดูกันว่าตัวเครื่องจริงเป็นยังไง (theverge.com)
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=vazlu9G4Qq0 ลิ้งวีดีโอ
และมาต่อกันกับบ ipod touch ที่น่าสนใจไม่แพ้ iphone เลย
เซอรไพรส์ไปตาม ๆ กันเมื่อแอปเปิ้ลออก iPod touch (5th Generation) มาให้เลือก 5 สี ตัวเครื่องมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 4 นิ้วและใช้ซีพียู A5 และปรับสเป็คกล้องแจ๋มขึ้นเป็น 5 ล้านพิกเซลพร้อมออโต้โฟกัส
สำหรับ iPod touch (5th Generation) ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ถ้าดูตัวเครื่องแบบยังไม่ต้องดูว่าสีสันจี๊ดจ๊าดแค่ไหน ส่วนตัวผมว่าสวยดีทีเดียว และเป็นครั้งแรกที่ iPod touch มีสีตัวเครื่องให้เลือกมากกว่าแค่สีดำหรือสีขาว โดยครั้งนี้แอปเปิ้ลออกมาให้เลือกทีเดียวมากถึง 6 สีด้วยกันได้แก่สีเทาดำ, สีบรอนซ์เงิน, สีฟ้า, สีเหลือง, สีชมพู และสีแดง โดยสีตัวเครื่องจะเป็นสีเฉพาะฝาหลังที่เป็นอลูมินั่มเท่านั้น ส่วนด้านหน้าเครื่องจะเป็นสีขาวเหมือนกันหมด
ตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 6.1 มม. (iPhone 5 บาง 7.6 มม.) หน้าจอขนาด 4 นิ้ว (Retina Display) ความละเอียด 1136×640 พิกเซล สำหรับกล้องถ่ายรูปถือว่าปรับปรุงให้ดีขึ้นมาจากรุ่นก่อนที่หวังผลอะไรมาก ไม่ได้มาในรุ่นนี้แอปเปิ้ลใส่กล้อง 5 ล้านพิกเซลพร้อมออโต้โฟกัสสามารถถ่ายภาพแบบพาโนราม่าได้ด้วย นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายวิดีโอแบบ 1080p ได้ด้วย ซึ่งทำให้ iPod touch ดูน่าใช้ขึ้นเยอะมาก ส่วนซีพียูที่แอปเปิ้ลเลือกใส่มาใน iPod touch (5th Generation) คือซีพียู A5 (Dual-Core)
ฟีเจอร์เด่นใน iPod touch (5th Generation) นอกจากเรื่องกล้อง 5 ล้านพิกเซลแล้วก็คงเป็นการเพิ่ม Siri เข้ามาใน iPod touch เป็นครั้งแรก ด้านสเป็คภายในเครื่องที่ปรับปรุงให้ดีขึ้นอาทิ Bluetooth 4.0 ที่ประหยัดไฟมากกว่าเดิมและในส่วนของ Wi-Fi รองรับการรับส่งข้อมูลได้สูงสุด 150Mbps ทั้งนี้ความพิเศษที่มีแค่ใน iPod touch ก็คือมีที่ตัวล็อกสายคล้องมือมาด้วยซึ่งติดอยู่ที่ด้านหลังเครื่องมุมล่าง ซ้าย โดยสายคล้องมือแอปเปิ้ลเรียกชื่อเก๋ไก๋ว่า iPod touch loop มีให้เลือก 5 สีได้แค่สีชมพู, สีเหลือง, สีดำ, สีฟ้า และสีแดง ราคาเส้นละ 350 บาท
ด้านความจุของ iPod touch (5th Generation) มี 32 และ 64GB โดยแอปเปิ้ลจะเริ่มเปิดให้สั่งซื้อได้ในวันที่ 14 ก.ย. นี้
ราคา
- รุ่น 32GB – 9,900 บาท
- รุ่น 64GB – (ยังไม่ประกาศราคา)
- รุ่น 16GB – 6,500 บาท (ราคาเดิมแต่ความจุเพิ่มขึ้น)
- รุ่น 32GB – 8,500 บาท (เดิม 9,900 บาท)
ข้อมูลเพิ่มเติม : apple.com/ipod-touch
ตอนนี้เว็บต่างประเทศได้จับเครื่องจริง ๆ ในงานบ้างแล้วลองไปดูกันครับ (จาก The Verge และ Engadget)
http://www.youtube.com/watch?v=7FF_VQ9jhvw ลิ้งวีดีโอ
เครดิต : http://www.siampod.com/