หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

อุทาหรณ์ของคนนำสุนัขมาฝึกที่ศูนย์ฝึกสุนัข แทนที่จะเก่งกับกลายเป็นสุนัขพิการ

โพสท์โดย น้องสาวเถ้าแก่เนี้ย

กระทู้นี้อาจจะยาวสักหน่อย  แต่สำหรับผู้ที่ต้องการจะนำสุนัขมาฝึกที่ศูนย์ฝึกสุนัข หากเสียเวลาได้อ่านกระทู้นี้สักนิด อาจทำให้คุณตัดสินใจใหม่ว่าจะนำมันไปฝึกดีหรือไม่ และหากอยากจะให้ฝึก  คุณจะยอมรับได้หรือเปล่าว่า สุนัขอันเป็นที่รักของคุณแทนที่จะเป็น สุนัขเก่ง อาจจะกลายเป็นสุนัขพิการ ก็เป็นได้ 

ใครเป็นคนรักสุนัข และไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้

โปรดอ่านเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์

ใครที่คิดจะส่งสุนัขเข้าศูนย์ฝึกสุนัข โปรดพิจารณาให้รอบคอบ

ใครที่คิดว่าฝึกสุนัขตัวเองไม่ได้ โปรดอย่าเชื่อ จนกว่าคุณจะได้ลองทำดู

ใครที่คิดว่าไม่มีเวลาฝึก โปรดอ่านเรื่องนี้

แล้วคุณจะรู้ว่า เวลาที่คุณต้องหมดไปกับการติดตามรักษาสุนัข 
เมื่อเค้าบาดเจ็บกลับมานั้น มากกว่า  เวลาที่คุณใช้ในการฝึกสุนัขคุณซะอีก 



เจ้าลัคกี้


เจ้าทอม

สุนัขสายพันธุ์บางแก้วเพศเมียอายุ 14 เดือน กับ เพศผู้อายุ 18 เดือน
ส่งเข้าศูนย์ฝึกแห่งหนึ่งใจกลางกรุง
แต่เคราะห์ร้าย ตัวหนึ่งขาเป๋ อีกตัวถูกลบเขี้ยว ผลงานของใคร
เป็นเพราะหมาอีกตัว กับ กระดูกชิ้นโต งั้นหรือ?


ตอนที่ 1 เลือกศูนย์ฝึกสุนัขที่ดี 

หลังจากที่ฉันได้เสาะแสวงหาศูนย์ฝึกสุนัขมาหลายที่
แล้วฉันก็มาปิ๊ง ศูนย์ฝึกแห่งหนึ่งใจกลางกรุง ย่านเย็นอากาศ
สถานที่ดูสะอาด มีสระว่ายน้ำสำหรับสุนัข
เจ้าหน้าที่มีมรรยาทดี มีอัธยาศัย

ครูฝึกสุนัขคนหนึ่งวิ่งเข้ามาทักทาย พร้อมโชว์ลีลาการฝึกสุนัขให้ดู ทำให้ฉันรู้สึกเพลิดเพลิน 


" บางแก้วฝึกได้ไหมค่ะ " ฉันถาม 

" ได้ครับ เรามีครูที่เชี่ยวชาญการฝึกบางแก้ว แต่มาเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ " ครูฝึกหนุ่มตอบ 

" มีทั้งแบบอยู่ประจำ และ ไป-กลับ ถ้าอยู่ประจำจะมีให้ว่ายน้ำด้วย "

" อยู่ประจำจะฝึกได้เร็วกว่าครับ " ครูฝึกอธิบายต่ออย่างคล่องแคล่ว แววตารักสัตว์ส่องประกาย 


หลังจากสอบถามรายละเอียด ก็กลับไปปรึกษาครอบครัว
อาทิตย์ต่อมา ฉันพาบางแก้ว 2 หน่อคู่ใจ มาว่ายน้ำเพื่อให้คุ้นเคยกับสถานที่
และเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฝึกสุนัข

ทั้งทอม และ ลัคกี้ สนุกสนานกับการได้เล่นน้ำ ว่ายน้ำไปมา มีดื้อบ้าง มีขี้เกียจว่ายต่อบ้าง
แต่โดยรวมฉันคิดว่าเด็ก 2 หน่อ ลั๊นลาที่สุด เพราะไม่ยอมขึ้นรถกลับบ้าน

พาไปว่ายน้ำอยู่หลายครั้ง

สรุปลงความเห็นว่าจะส่งเด็กบางแก้วทั้งสองหน่อเข้าโรงเรียนฝึกสุนัขแห่งนี้ 



ตอนที่ 2 เกิดเพราะกรรม หรือ ความซวย 


แล้ววันนั้นก็มาถึง วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2554

วันแห่งความเจ็บปวดก็ผ่านเข้ามาหาทอมโดยฉันและครอบครัวไม่ได้เผื่อใจไว้

ครูฝึกหนุ่มมารับตัวทอม แล้วพูดว่า 

 " อีก 2 อาทิตย์ถึงมาเยี่ยมได้ครับ "

" ค่ะ งั้นอีก 2 อาทิตย์ค่อยส่งตัวลัคกี้นะคะ " ฉันบอก

ฉันเป็นคนพาทอมเข้าห้องซึ่งแบ่งย่อยๆเป็นห้องเล็กขนาด 1 ตรม. มีประตูลูกกรงปิด

แล้วถ่ายคลิปเก็บไว้ดู เห็นเขี้ยวฟันสวยงาม ทอมเห่าส่งเสียงดังพร้อมกับเพื่อนสุนัขหลากหลายสายพันธุ์ที่อยู่รวมกันในห้องนั้น

2 อาทิตย์ต่อมา วันที่ 2 ธันวาคม 2554 ฉันส่งตัวลัคกี้เข้าศูนย์ฝึก

วันนั้นฉันได้เจอกับเจ้าของศูนย์ฝึกเป็นครั้งแรก เธอเป็นหญิงร่างสูงใหญ่ มีประสบการณ์การเปิดศูนย์ฝึกแห่งนี้มาแล้ว 9 ปี และเพิ่งเปิดอีกสาขาอยู่แถวรังสิต

วันนั้นฉันได้เห็นทอม ตามที่ครูฝึกนัดหมายไว้ ครูฝึกพามาว่ายน้ำโชว์ตัว

ส่วนฉันและเจ้าของศูนย์ฝึกสุนัข ยืนคุยกันในห้องซึ่งสามารถมองผ่านหน้าตาออกมาดูทอมว่ายน้ำ

ฉันเห็นทอมพยศ เห็นครูฝึกปราบเด็กบางแก้วของฉัน แล้ว แอบฝันหวาน ว่า

บางแก้วของฉัน อีกไม่นาน จะเป็นเด็กดี น่ารัก คงมีแววส่งประกวดได้ 


แต่ความเป็นจริงกลายเป็นเรื่องเศร้า และเจ็บปวดใจเกินจะทน อยากให้เป็นเพียงแค่ฝันร้าย ตื่นขึ้นมาไม่มีอะไรที่เป็นจริง 

วันนั้นเป็นวันสุดท้าย ที่ฉันได้เห็นเขี้ยวสง่างาม ทั้ง 4 ซี่ ของทอมอยู่ครบ

และวันนั้น ก็เป็นวันแรก ที่ฉันพาลัคกี้ เข้าสู่ฝ่าเท้าของครูฝึกที่ไร้เมตตาไร้จรรยาบรรณ ของผู้ที่เรียกตนว่า เป็นครูฝึกมืออาชีพ มีประสบการณ์มานานหลายสิบปี 


 

 

ตอนที่ 3 ลูกพี่ผมเก่งกว่า 


อีก 2 อาทิตย์ถัดมา วันที่ 11 ธันวาคม 2554 เวลาเย็น เจ้าของศูนย์ฝึกสุนัขโทรหาฉัน 

" เจ้าของทอมคะ เราจะขออนุญาตส่งทอมไปฝึกที่ปากช่องสักระยะ ประมาณ 2 เดือน "

ฉันไม่อยากให้ไป แต่เจ้าของศูนย์ก็อธิบายว่า " ครูเค้าฝึกไม่ได้ ทอมไม่ยอม "

" ฝึกไม่ได้เลยหรือ ทอมเกเรขนาดนั้นเลยหรือคะ " ฉันถาม

แล้วเจ้าของศูนย์ฝึกสุนัขก็ตอบว่า 

" ฝึกยากหน่อยค่ะ ถ้าเป็นครูฝึกอีกคนชื่อครู.......... จะเก่งกว่า แต่เค้าอยู่ปากช่องจะมาที่
นี่ก็เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ "


" แล้วลัคกี้ล่ะ ฝึกได้ไหม ลัคกี้ต้องไปด้วยไหม " ฉันถามต่อ 


" จริงๆ เราอยากจะขออนุญาตพาไปทั้งสองตัว แต่ขอทอมไปก่อน " 


เจ้าของศูนย์พูดต่อ " ถ้าอนุญาต เราจะส่งไปเย็นวันนี้เลยค่ะ "

ฉันไม่อยากให้ไป เลยตอบเลี่ยงๆว่า " ขอปรึกษากับครอบครัวดูก่อน "

เจ้าของศูนย์พูดเสริมว่า " เดี๋ยวครูฝึกเค้าจะโทรมาคุยนะคะ "

สักพักครูฝึกหนุ่มโทรมาอรรถาธิบายเหตุที่ต้องขออนุญาตส่งทอมไปฝึกที่ปากช่อง 


" ผมฝึกเค้าไม่ได้ครับ ผมยังไม่เก่ง แต่ ลูกพี่ผมเก่งกว่า " ครูฝึกหนุ่มให้เหตุผลว่า 


" เป็นเพราะวันก่อนผมให้ทอมเจอเจ้าของ ทอมเลยเริ่มไม่ไว้ใจผม ต้องเริ่มต้นใหม่ ไม่งั้นผมจับเค้าได้แล้ว "

" ถ้าได้ไปอยู่ปากช่อง ก็จะมีโอกาสได้อยู่กับลูกพี่ผมทุกวัน จะเป็นเร็วกว่า นี่มันช้ามากครับ 
เสาร์-อาทิตย์ จะพากลับมากรุงเทพ ให้เจอกับเจ้าของ ทุกๆ 2 อาทิตย์ "



" พี่ไม่ต้องห่วงครับ ลูกพี่ผมเก่ง จะดูแลอย่างดี " 


ฉันเคยเจอครูลูกพี่คนนี้สองครั้ง เคยพูดคุยด้วยเค้าบอกเคยฝึกบางแก้วมาแล้วหลายตัว 
" ฝึกส่งประกวดได้รางวัลด้วยครับ " เค้าเคยพูดรับประกันคุณภาพฉันแบบนั้น

ตอนนั้นคิดว่า หากไม่ให้ครูคนนี้ฝึก แล้วใครจะฝึกได้ล่ะ คงจะปฏิเสธไม่ได้แล้ว เอาล่ะ 
เจ้าของต้องอดทนหน่อย คิดถึงยังไงก็ต้องยอม ต้องฝึกให้ได้ จึงตัดสินใจโทรกลับไปว่า 


"อนุญาตค่ะ พาไปพร้อมกันเลยนะคะทั้งทอมและลัคกี้ จะได้เป็นเพื่อนกัน กลับมาพร้อมกัน "

ฉันตอบด้วยความมั่นใจ เพราะคาดหวังว่าบางแก้วของฉันจะแปลงร่างเป็นเด็กดี อยู่ในโอวาท
แต่ไม่เฉลียวใจสักนิดว่า " หมาตัวเองจะโชคร้าย "


" อีก 2 อาทิตย์พามากรุงเทพ เท่ากับวันคริสมาสต์ได้เจอทอมกับลัคกี้นะคะ " ฉันถามย้ำเพื่อความแน่ใจ

" ครับ " ครูฝึกตอบ 



ตอนที่ 4 ลัคกี้ขาเจ็บ แต่ไม่เป็นไรครับ 
 

วันที่ 22 ธันวาคม 2554 ฉันโทรหาครูฝึกคนเก่งเพื่อคอนเฟีร์มว่า จะได้เจอตัวเด็กสองหน่อในวันคริสมาสต์ที่จะถึงนี้ 


แต่ครูฝึกคนเก่งตอบว่า " เอ้อ..ผมเข้ากรุงเทพแล้วครับ 

ทางศูนย์หยุดช่วงปีใหม่ ต้องหลังปีใหม่ครับ ไม่ต้องเป็นห่วง สองตัวสบายดี กินได้ขับถ่ายปกติ 
ผมให้กินซีซาร์ อาหารหมดแล้วเนี่ย ลัคกี้ขี้เล่น ส่วนทอมยังดื้ออยู่ " 

" ทางศูนย์ปิดช่วงปีใหม่ถึงวันที่ 4 มกราคม 2555 " " วันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 7-8 ซิค่ะครู " ฉันถาม 


 " ครับ ต้องเป็นช่วงนั้นแล้วครับ " ครูคนเก่งตอบ 


อดทนรออีก 2 อาทิตย์ 


วันที่ 4 มกราคม 2555 ฉันโทรหาครูคนเก่ง 

" สวัสดีคะ ครู...เด็กๆ เป็นไงบ้าง อาทิตย์นี้ได้เจอทอมกับลัคกี้แล้วซิ " ฉันถาม 

" สองตัวสบายดีครับ มีก็ลัคกี้ขาเจ็บนิดหน่อย เค้าซน ขี้เล่น ไปวิ่งเล่นกับลาบาดอร์ วิ่งไล่กันแล้ว 
ชนถูกอะไรไม่รู้ ผมไม่เห็น ขาเจ็บนิดหน่อยแต่ไม่เป็นไร " 



ส่วนทอม ก่อนหน้านี้ผมจับเค้าได้แล้วนะ แต่ช่วงปีใหม่ผมไม่อยู่ 3 วัน กลับมาอีกครั้งเค้าขู่ผม คงต้องรอสักระยะ 
เจ้าของอดทนหน่อย ต้องให้ความร่วมมือครับ อาทิตย์นี้ผมติดงานที่นครปฐม ส่วนอาทิตย์หน้าผมติดงานวันเด็ก 
คงต้องรออาทิตย์ถัดไปน่ะครับ " ครูคนเก่งตอบคล่อง 



วันแรกที่ลัคกี้กลับบ้านเพื่อทำการรักษา สังเกตขาซ้ายหลังของลัคกี้ ไม่สามารถ ลงน้ำหนักได้เต็มที่เหมือนข้างอื่นๆ 

" แล้วลัคกี้ที่ขาเจ็บเป็นอะไรมากหรือเปล่า ต้องพาไปหาหมอไหม " ฉันถามอย่างไม่สบายใจ 

" ไม่ต้องครับ เค้าไม่เป็นไร วิ่งเล่นได้ปกติ ขี้เล่น ขี้อ้อนเท่านั้นเอง ไม่ต้องเป็นห่วงครับ "


ท่านอนใหม่ที่ไม่เคยนอนมาก่อน ซึ่งปรกติจะนอนท่าไก่ย่าง

" ครูช่วยถ่ายรูปเด็กๆ ส่งให้ดูหน่อยซิ คิดถึง แล้ว " 

" ครับๆ ได้ครับ "
 
ครูคนเก่งพูดจนฉันสบายใจ คิดว่า ลัคกี้ ไม่เป็นอะไร ตามที่บอกเล่า
 
แล้วฉันก็ยัง โง่ ใจเย็น รอ ต่ออีกสองอาทิตย์ 

 

ตอนที่ 5 กว่าจะรู้ว่า...บาดเจ็บ 



เช้าวันที่ 18 มกราคม 2555 ฉันโทรหาครูคนเก่งตามเดิม ปรากฏว่าครั้งนี้ ติดต่อไม่ได้ 
โทรหาเจ้าของศูนย์ เธอก็บอกว่าติดต่อไม่ได้เหมือนกัน
ช่วงบ่ายเธอได้แจ้งเข้ามาว่า ซิมครูเสีย ตอนนี้สามารถติดต่อได้แล้ว


ครูคนเก่งโทรกลับมาแล้วให้คำตอบว่า 


" ผมยังไม่มั่นใจ ยังไม่พร้อมโชว์ รออีกสักระยะนะครับ อดทนหน่อย "

" นี่มันนานมากแล้วนะคะ หลายสัปดาห์แล้ว แล้วอย่างงี้ ทอมขับถ่ายยังไงล่ะ ครูจับได้เหรอ " ฉันถาม 

" ได้ครับ ผมพาเดิน ทำได้ แต่พอจับฝึกเค้าไม่ยอม " ครูคนเก่งให้คำตอบ 

" ทอมอ้วนขึ้นด้วยนะครับ ส่วน ลัคกี้ ขาเจ็บนิดหน่อย " ครูฝึกพูดปกติ 

" อ้าว..ยังไม่หายอีกเหรอค่ะ เป็นไรมากไหม ต้องพาไปหาหมอหรือป่าว "

" ดีขี้นแล้วครับ ผมมีให้กินยา เค้าวิ่งเล่นได้เป็นปกติ เจ็บนิดหน่อยเท่านั้น ถ้าไม่สังเกตุจะไม่รู้ "


ภาพเอ็กซเรย์สะโพกของลัคกี้


ภาพกระดูกสะโพกสุนัขที่ปรกติ 


" เหรอค่ะ " แต่ในใจนึกอยากเจอหมาแล้ว อยากจะขอพาลัคกี้ไปหาหมอ

วันรุ่งขี้น โทรติดต่อครูฝึกคนเก่งว่า 
 " อาทิตย์นี้ช่วยพาลัคกี้เข้ากรุงเทพด้วย จะพาไปหาหมอ "

วันที่ 22 มกราคม ไปรับลัคกี้ที่ศูนย์ฝึก มีแต่ครูฝึกหนุ่มออกมาต้อนรับ เป็นคนพาลัคกี้มาส่งให้เจ้าของ 
ส่วนครูฝึกคนเก่ง อ้างว่าไม่สบาย นอนพักอยู่ในห้อง ออกมาไม่ไหว 

พวกเราเห็นลัคกี้เดินได้ปกติ แต่เดินแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกตกใจ คิดว่า คงไม่ได้เป็นอะไรมาก 
แต่เพื่อความสบายใจ ยังไงก็จะพาไป รสพ.เกษตร เพื่อตรวจดูว่าเป็นอะไรหรือเปล่า


เมื่อถึงมือหมอ ถึงได้ทราบว่า 



ลัคกี้สะโพกหลุด กล้ามเนื้อลีบ คุณหมอให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญท่านอื่น 



เมื่อมาสังเกตุดู จะเห็น ขาซ้ายหลัง ของลัคกี้ ไม่สามารถ ลงน้ำหนักได้เต็มที่เหมือนขาข้างอื่นๆ


วันรุ่งขึ้น ตรงกับวันตรุษจีนพอดี พวกเราต้องพาลัคกี้ไป รสพ.เกษตร อีกครั้ง 
เพื่อคอยพบ อาจารย์มนชนก เป็นคิดสุดท้ายเพราะเป็นคิวเสริม


คุณหมอดูฟิล์ม X-Ray จับขาลัคกี้ หมุนเปลี่ยนท่า เปลี่ยนท่าไปมา แล้ววินิจฉัยว่า 


" สะโพกหลุด เส้นเอ็นฉีกขาด กล้ามเนื้อฝ่อลีบเกิน 50 % เหตุนี้น่าจะเกิด เกิน หนึ่งเดือนแล้ว "

แล้วอาจารย์ก็จับ รอบขาซ้าย ของลัคกี้ เทียบกับ ขาด้านขวา ซึ่งแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจน


กล้ามเนื้อขาหลังซ้ายของลัคกี้ ฝ่อเล็กลีบมาก จนนิ้วมือของเรามาประสานเข้าหากันได้

ส่วนข้างขาวนั้นปลายนิ้วมือทั้งสองข้าง สัมผัส กันได้เท่านั้น ไม่ใช่ ประสานเข้าหากัน




คุณหมออธิบายเสริม 
"ข้างในเป็นของเสีย หัวกระดูกที่หลุด ถูกขูดขีดเสียดสีไปมา
ฉะนั้นมันจะเป็นของเสียในร่างกาย จะต้องผ่าตัดเอา หัวกระดูก ออก "


ลัคกี้ โชคดีอยู่ 2 ประการ คือ 1 ยังเด็ก (อายุ 16 เดือน) และ 2 น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ที่ผ่าได้ ( 15 กิโล )

การผ่าตัดเพื่อรักษาลัคกี้ครั้งนี้ จะมีผลทำให้ลัคกี้ มีขา 
สั้นยาว ไม่เท่ากัน

หลังการผ่าตัดเจ้าของกับหมอ ต้องช่วยกันอย่างเต็มที่ ลัคกี้ต้องทำกายภาพบำบัด 6 สัปดาห์ขั้นต่ำ 
ตามด้วย เดินสายพาน ว่ายน้ำเพื่อช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อ 
ประคบร้อนเย็น และบริหารขา

คุณหมอแนะนำเสริมว่า 
" ให้รักษาน้ำหนักตัวของลัคกี้ ไม่ให้มากไปกว่านี้ "

ขอให้ งด ไม่เป็นแม่พันธุ์ ต้องทำหมันลัคกี้ เนื่องจากสะโพกเค้ารับน้ำหนักไม่ไหว
และ ควรว่ายน้ำเพื่อรักษากล้ามเนื้อให้คงไว้ ถ้าว่ายได้ตลอดชีวิตจะเป็นสิ่งดี

ลัคกี้มีนัดผ่าตัด วันที่ 2 กุมภาพันธุ์

ฉันรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบของฉันถูกจับให้หมุนติ้ว เขย่าๆ แล้วฉันโดนเหวี่ยงให้กระเด็นมาเจอความจริงที่เจ็บปวด 
ทุกคนในครอบครัวได้ยินทุกคำพูดของหมออย่างชัดเจน และรู้สึกเศร้าสลดมาก

เป็นเพราะฉัน ฉันส่งไป ลัคกี้ถึงบาดเจ็บ ฉันทำผิดเอง

บางแก้วตัวนี้ใจดีมาก เพิ่งจะเป็นสาวได้ไม่นาน
และพวกเราตั้งใจจะให้ผสมกับทอม ตอนเป็นฮีทคราวหน้า
พวกเราตั้งตาคอย...อยากเห็นเด็กน้อยบางแก้ว

แต่เสียดายภาพนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นอีกแล้ว
ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ แต่น้ำตาแทบจะไหลเป็นสายน้ำ




เราโทรติดต่อนัดเจ้าของศูนย์ฝึกสุนัข เพื่อจะพาลัคกี้ไปให้เค้าได้เห็น ได้รับรู้อาการของลัคกี้ และขอให้พาทอมกลับทันที 


" นี่เหรอไม่เป็นไรของครู ถ้าลัคกี้ถึงมือหมอทันเวลา คุณหมอก็แค่ผ่าตัดร้อยเอ็นเทียมให้เพราะเส้นเอ็นฉีกขาด 
แต่ไม่ต้องผ่าเอาหัวกระดูกออก ขาก็จะไม่สั้นยาว "
 ฉันต่อว่า 

" อีกอย่างนะ รับตัวลัคกี้กลับมา ฉันเจอ เห็บ ที่ตัวลัคกี้ แสดงว่าศูนย์ฝึกที่ปากช่องของคุณ ไม่สะอาด หมาฉันถึงได้ติดเห็บมา” 

ลำพังแค่เป็นเห็บก็น่าขยะแขยงแล้ว สำหรับศูนย์ฝึกที่ดูสะอาดๆอย่างที่นี่
แต่นี่ลัคกี้ต้องมา เสียขา ไปข้างเพราะครูฝึกไม่ได้ดูดำดูดี สุนัขฉันเท่าไร โทรไปทีไร ครูคนเก่ง ก็ให้คำตอบที่ฟังแล้วสบายใจ

ฉันขอให้ส่งทอมกลับมากรุงเทพ 


" ถ้าทอมแข็งแรงดี ไม่เป็นไรก็โอ แต่ถ้าทอมเป็นอะไร ฉันรับตัวกลับทันทีนะ ไม่ฝึกแล้ว "

" ขอให้ลัคกี้ เป็นสุนัขตัวแรก และ ตัวสุดท้าย ที่ต้องโชคร้ายแบบนี้
อย่าให้เกิดขึ้นกับสุนัขตัวอื่นที่ศูนย์ฝึกสุนัขของคุณอีก "
 ฉันเข้มกับเจ้าของศูนย์ 

 

ตอนที่ 6 กว่าจะรู้ว่า...บาดเจ็บ (ต่อ) 


วันพุธที่ 25 มกราคม 2555 เจ้าของศูนย์ฝึกสุนัขโทรแจ้งว่า ทอมถึงกรุงเทพแล้ว

บ่ายวันนั้นพวกเราเข้าไปหาทอม ทอมอ้วนขึ้นตามที่ครูบอกไว้

ทอมและเจ้าของต่างดีใจที่ได้เจอหน้ากัน ทอมวิ่งไปทักทายพวกเราทีละคน 

รู้สึกโล่งใจที่ทอม สบายดี แถมอ้วนท้วมสมบูรณ์

ดีใจอยู่ไม่นาน หลานฉันบอก " ฟันทอมเหลือง "



ทอมกลับมาในสภาพฟันเหลือง 

และฉันก็เริ่มตั้งใจมองแล้วก็ เห็น สิ่งผิดปกติ บางอย่าง ที่ทำให้ฉันรู้สึก โกรธ 


ฉันตะโกนบอกทุกคนว่า   " ทอมถูกลบเขี้ยว "



เจ้าของศูนย์ฝึกสุนัข ทำโนเนะแย้งว่า   " ยังเห็นอยู่เลยนี่คะ "


เขี้ยวด้านซ้าย 


เขี้ยวด้านขวา 


ฉันมั่นใจในสิ่งที่เห็น ฉันเล่นกับบางแก้วของฉัน เลี้ยงดูอย่างดี มีเก็บรูปถ่ายไว้
แต่ในเมื่อเจ้าของศูนย์ฝึกสุนัข ยืนยัน ว่า ทอม ปกติดี ฉันกับครอบครัวก็กลับออกมา

ระหว่างทาง ฉันพยายามหารูปของทอมจากโทรศัพท์มือถือ 


" เจอล่ะ กลับเข้าไปใหม่ "  ฉันให้พี่สาวเลี้ยวรถกลับเข้าไปที่ศูนย์ฝึกทันที 

" นี่ไงคะ คุณดูรูปซิ เขี้ยวของทอมไม่เหมือนเดิม "  ฉันส่งมือถือให้เจ้าของศูนย์ฝึกสุนัขได้ดูรูป 


รูปลัคกี้และทอมที่ก่อนเข้าไปฝึกจะมีเขี้ยวแหลมคมสวยงามเป็นปรกติ


" แล้วนี่อีก นี่ก็เป็นคลิปที่ฉันถ่ายไว้ "  เจ้าของรับไปดูและส่งให้ผู้ช่วยอีกคนดูด้วย 

" นี่ถ่ายตั้งแต่เมื่อไร "  เจ้าของศูนย์ฝึกสุนัขถาม 

" คลิปนี้ ถ่ายไว้ในวันแรก ที่ส่งตัวทอมเข้าศูนย์ฝึกนี้ไง "


เจ้าของศูนย์โทรหาครูฝึกคนเก่ง แล้วครูฝึกก็ตอบว่า   " ให้เคี้ยวกระดูก ฟันเลยสึก "

เป็นไปไม่ได้ นี่มัน เจตนา ชัดๆ โกหก 


คุณครูฝึกสุนัขมือโปร คุณทำอะไรลงไปกับบางแก้วของฉัน 


ฉันไม่ยอม ฉันรับไม่ได้แล้ว เหมือนถูกฉีกเนื้อออกมาอีกรอบ ให้กระดูกดำฉัน 
ได้สัมผัสกับความโหดร้าย ความเถื่อนของครูมือโปรคนนี้


ฉันส่งบางแก้ว 2 ตัวเข้าโรงเรียนฝึกสุนัข 
เด็กฉันไม่ได้ก้าวร้าว ไม่ได้เกเร จนคุณต้องลงมือซะขนาดนี้ 

ฉันส่งเค้าไปอยู่ในอุ้งมือมารแท้ๆ 
อำมหิตเกินจะให้อภัยกันได้ ปวดร้าว บาดลึกถึงทรวงจริงๆ

พวกเรารู้สึกเจ็บปวดทรมานจิตใจเหลือเกิน 
แต่ความเจ็บปวดของพวกเราที่เป็นเจ้าของสุนัข ถึงจะมีมากมายขนาดไหน
ก็คง 
ไม่มีทาง มากเกินความรู้สึกของ ลัคกี้ และ ทอม ที่ต้องนอนทนทุกข์ทรมาน 
กับความเจ็บปวดที่ได้รับอย่างแสนสาหัสสากรรจ์นี้ไปได้ 



ฉันทำผิด เป็นเพราะฉัน ฉันเลือกให้บางแก้วของฉันเข้าศูนย์ฝึกสุนัข หมาฉันถึงได้เคราะห์ร้าย 

ฉันทำอะไรไม่ถูก โกรธตัวเอง เสียใจ และเวทนาเจ้าบางแก้วสองหน่อนี้มากที่สุด

ฉันเริ่มถามเพื่อนๆ กลุ่มบางแก้วในเฟสบุ๊ค

ฉันโทรถามพี่เปิ้ล เจ้าของคอกมารวย เล่าเรื่องเขี้ยวของทอม

พี่เปิ้ลให้ข้อมูลว่า 
  " เคี้ยวกระดูกเขี้ยวไม่สึกหรอก หมาใช้ฟันกรามเคี้ยว ไม่ใช่เขี้ยวนะ ที่คอกก็ให้กระดูกแทะ ไม่มีสึกสักตัว 
คงไม่ใช่กระดูกแล้วล่ะ ระวังสึกถึงรากฟัน โดนประสาทฟัน จะเป็นอันตรายมากนะ " พี่เปิ้ลให้ความรู้กับฉัน

พวกเราเข้าไปคุยกับเจ้าของศูนย์ฝึกสุนัข เค้าควรจะรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น

ตอนแรก พวกเรา หลงเชื่อ 
ตามคำบอกเล่าว่า สิ่งที่เกิดกับลัคกี้นั้นเป็นเพียงแค่อุบัติเหตุระหว่างหมากับหมาวิ่งเล่นกัน 
แต่เมื่อทอมเป็นอย่างที่เห็นนั้น ฉันเชื่อว่า ทั้งหมดนี่คือ 
เจตนาไม่บริสุทธิ์ ผิดจรรยาบรรณ 
ฉันเชื่อว่า บางแก้วทั้งสองตัวของฉัน 
ถูกครูฝึกสุนัขมือโปร กระทำทารุณกรรมแบบไร้ความเมตตาปราณี โหดเหี้ยม เลือดเย็น

เจ้าของศูนย์ต้องการใบพิสูจน์จากหมอว่า ทอม " ถูกลบเขี้ยว "

การพาทอมไปหาหมอ เป็นเรื่องยากมาก ยากกว่าลัคกี้เยอะ คนอื่นจับไม่ได้ 

จับได้เฉพาะเจ้าของเท่านั้น และต้องช่วยกันจับ ทอมแรงเยอะ 
คนหนึ่งจับขา คนหนึ่งจับปากกดหัวลง ส่วนอีกคนต้องคอยโน้มตัวกดทับทอมไว้ 
เจ้าหน้าที่ยืนคอยเป็นกำลังใจอยู่ข้างๆ พร้อมแล้วถึงจะเริ่มลงมือตรวจ


แล้วเราก็พบว่า ทอม ถูกลบเขี้ยว 
มีเขี้ยวสึกที่ส่วนของปลายเขี้ยว ถึง ครึ่งเขี้ยว 

 

 

ตอนที่ 7 ผ่าตัด และ ตรวจฟัน 


วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2555

ไหนๆก็ต้องพาลัคกี้ไปผ่าตัดที่รสพ.เกษตร เลยตัดสินใจพาทอมไปตรวจฟันด้วย

ลัคกี้ถึงคิวเข้าห้องศัลยกรรม เจ้าหน้าที่โกนขนที่ขาหน้าออกส่วนหนึ่ง เพื่อฉีดยาซึม ให้น้ำเกลือ และ ยาสลบ 
จากนั้นก็โกนขนที่ขาซ้ายหลังตั้งแต่บริเวณสะโพกลงไป เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับผ่าตัด


ต่อไปก็เป็นคิวของทอม การตรวจเขี้ยวฟันของสุนัขไม่ใช่เรื่องง่าย

ยิ่งเป็นสุนัขสายพันธุ์บางแก้วด้วยแล้ว เจ้าของต้องมะรุมมะตุ้ม ช่วยกันจับ

ครั้งนี้ทอมเจอหนักกว่าการตรวจครั้งแรก ที่เพียงแค่ดูผ่านๆเท่านั้น

เราต้องการให้ตรวจอย่างละเอียดว่า เขี้ยวฟันของทอมเสียหายมากน้อยแค่ไหน เป็นอะไรมากหรือเปล่า


ขั้นตอนของทอมเหมือนกับตอนเตรียมตัวผ่าตัดลัคกี้

เมื่อทอมสลบ คุณหมอเริ่มอ้าปากทอม ตรวจดูเขี้ยว ฟัน ฉันแทบจะล้มทั้งยืน เมื่อพบว่า 



" เขี้ยวที่สง่างามทั้ง 4 เขี้ยวนั้น สึกลึกถึงโพรงรากฟัน เป็นอันตรายมากต้องรีบอุดฟัน 
เพราะหากมีเชื้อโรคเข้าไปจะไปทำอันตรายที่รากฟันได้ สารเคลือบฟันก็แตกเสียหาย 

นอกจากนี้ก็มีฟันผุ และคราบหินปูน " 


" นัดทำฟันด่วนที่สุดเลยครับ "คุณหมอแนะนำ 

" เค้าเจ็บระบมมากนะครับ เพียงแต่เค้าบอกเราไม่ได้ " คุณหมอพูดเสริม


คิวทำฟันที่เร็วที่สุด คือ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ต้องรออีก 2 อาทิตย์

ใจฉันอยากให้ทำตอนนั้นเลย ทอมจะได้ไม่ต้องเจ็บตัวซ้ำอีกรอบ แต่ก็ต้องตามคิว
เพราะคุณหมอที่ตรวจฟัน ไม่ใช่คุณหมอที่ทำฟันสุนัข เพียงแต่ตรวจเบื้องต้นให้ได้เท่านั้น

แล้ววันที่ทำฟันก็มาถึง ทอมต้องผ่านขั้นตอนเดิมคือ ฉีดยาซึม ให้ยาสลบ
ครั้งนี้เหมือนทอมรู้ตัว เหมือนเด็กๆทั่วไปที่กลัวหมอฟัน ไม่อยากทำฟัน กว่าจะจับได้ก็ทุลักทุเล เหลือเกิน 
เมื่อทอมสลบแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของคุณหมอ เจ้าของคอยด้านนอก

พวกเราซักถามคุณหมอหลังจากทำฟันทอมเสร็จแล้ว 

สรุปลักษณะเขี้ยวฟันที่พบเห็นคือ 


พบคราบหินปูน ไม่พบรอยตัด แต่เป็นรอยหัก รอยสึก ที่เกิดจากการกัด กระชากอย่างรุนแรง

ซึ่งหมอไม่สามารถระบุชี้ชัดว่า เกิดจากอะไร แต่เกิดจากการกัดของแข็ง

ลักษณะการสึกก็เป็นเหมือนท่อนไม้ที่หัก เป็นรอยหยัก ไม่ใช่สึกในรูปแบบทั่วไป 


หมอเลยไม่ได้ใช้อมัลกัม ต้องใช้วัสดุที่เรียกว่า คอมโพซิท เรซิน ซึ่งก็ไม่แข็งแรงเท่าไร มีโอกาสหลุดได้อีก 
ถ้าวัสดุที่ใช้อุด หลุด ก็ต้องทำฟันใหม่ 

และทางเลือกสุดท้ายคือ 
ถอน เขี้ยวฟันออก เพราะสามารถเป็นอันตรายต่อรากฟัน ประสาทฟันได้ 


 " ฟันแทบจะสึกทั้งปาก ปกติจะพบกับสุนัขที่มีอายุมากๆ ใช้เขี้ยวฟันมาเยอะแล้ว จะไม่พบในสุนัขหนุ่ม "


" หากเป็นฟันของคน หมอจะแนะนำให้ครอบฟัน แต่สำหรับสุนัขยังไม่มีวิธีนี้ ฉะนั้นต้องดูแลรักษาฟันอย่างดี 
งดกัด แทะ ของแข็ง ต้องแปรงฟัน และตรวจฟันเป็นระยะอย่างสม่ำเสมอ "  คุณหมอแนะนำเพิ่มเติม


ข้างในจิตใจฉันปั่นป่วน สงสารเวทนาทอมเหลือเกิน

คุณเคยปวดฟันกันไหม แค่ซี่เดียวก็ปวดจี๊ดขึ้นสมองแล้ว

คุณเคยไหมที่ปวดฟันจนกินอะไรก็ไม่ได้ กัดนิดนึงก็ปวดร้าวไปทั้งใบหน้า

แต่นี่ทอมเจอจัดหนักให้ ทั้งปาก จะรู้สึกปวดระบบมากแค่ไหน ทุรนทุรายมากแค่ไหน" 



คุณรู้บ้างไหม...ครูฝึก"

ภาพตรวจฟันทอม 





 

 

ตอนที่ 8 ขาเป๋ กับ ฟันสึก ผลงานของครูฝึกมือโปร 


จากวันที่ 11 ธันวาคม 2554 - 25 มกราคม 2555 ที่ไปอยู่ปากช่อง
ไกลหูไกลตาเจ้าของเพียง 6 สัปดาห์ เขี้ยวฟันของทอมเสียหายมากมายขนาดนี้เลยหรือ

สิ่งที่ฉันเห็นร้ายแรงเกินกว่าจะให้อภัยครูฝึกคนนี้ได้ โหดเหี้ยม แยบยล อำมหิต 



" เคี้ยวกระดูกจนฟันสึก "  เป็นคำตอบหลอกคนไม่รู้ 

" ทอมกัดกรง กัดโซ่ "  เป็นคำตอบที่ให้ตัวเองพ้นผิด


ถ้าทอมกัดกรง จนทำให้เขี้ยวฟันตัวเองเสียหายร้ายแรงได้ขนาดนี้
แล้วคุณปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ จนเป็นผลเสียหายต่อสุนัขได้อย่างไร

แสดงว่าศูนย์ฝึกคุณรวมทั้งตัวคุณ   บกพร่อง 
เรื่องมาตราฐานการดูแลสวัสดิภาพสุนัขขั้นพื้นฐาน


สำหรับคนที่ใกล้ชิด คลุกคลี่ กับสุนัขเป็นประจำ และเป็นผู้ที่เรามอบความไว้วางใจให้ว่า 
เป็นผู้รู้จักสุนัขดีที่สุด มีประสบการณ์การฝึกมานานหลายสิบปี คุณทำแบบนี้กับสุนัขได้อย่างไร


หากคุณฝึกไม่ได้ จับบางแก้วไม่ได้อย่างที่คุยฟุ้ง คุณบอกตรงๆ ฉันไม่ว่าคุณ
แต่ไม่ใช่ 
  ใช้ วิธีสกปรก ทำให้ฟันสึก เพื่อจะจับเค้าได้ กอดเค้าได้

คุณทำสิ่งที่สุนัขไม่มีทางป้องกันตัวเองได้เลย ไร้จรรยาบรรณ ขาดเมตตาต่อสัตว์
ที่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรายได้เลี้ยงชีพคุณ

ทอมเจ็บระบบไปทั้งปาก เจ็บปวดสาหัสสากรรจ์
มิหนำซ้ำขาหลังและลูกอัณฑะ ปรากฎร่องรอยของการถูกลากไถ

ลัคกี้เองก็ต้องประสบเคราะห์กรรม กลายเป็น 
   หมาสาวขาเป๋ เป็นแม่พันธุ์ไม่ได้

ณ เวลาที่ลัคกี้ บาดเจ็บ จนเส้นเอ็นฉีกขาด กระดูกสะโพกหลุดออกจากเบ้า
โดยธรรมชาติลักษณะการบาดเจ็บเช่นนี้ เค้าจะยกขาขึ้น เดินต่อไม่ได้ แล้วล้มตัวลงนอน
ขากระแทกพื้นอย่างแรง ขาหน้าข้างขวาของลัคกี้ถึงเป็นรอยด้านอย่างที่เห็น

ลัคกี้นอนซมเพราะเจ็บขาเป็นเวลา 2 อาทิตย์

แต่ครูฝึกคนเก่งกลับบอกฉันว่า 
  " ไม่เป็นไร วิ่งเล่นได้ปกติ "


ขอมือหน่อย


วันทำฟัน

นี่หรือความไว้วางใจ ความเชื่อใจ ที่ฉันมีให้กับผู้มีประสบการณ์การดูแลสุนัข


สิ่งที่ฉันได้รับกลับมาคือ   " ขาเป๋ " " ฟันสึก " และ    " คำโกหก "



สุนัขพูดไม่ได้ ฟ้องเจ้าของไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เค้าถูกกระทำอะไรลงไปบ้าง
ส่วนคนที่พูดได้ ก็คิดว่าตัวเองจะพูดอะไรออกไปก็ได้ เพื่อให้รอดตัวพ้นผิด


สิ่งที่ฉันเห็นนั้นร้ายแรงพอที่จะคาดเดาได้ ว่าสุนัขผ่านอะไรร้ายๆแบบ สาหัสสากรรจ์ มาเยอะมาก


ลัคกี้โดน 
    เตะ  อย่างแรง จนสะโพกหลุด เส้นเอ็นฉีกขาด 
และปล่อยให้นอนซมรักษาตัวเองแบบธรรมชาติ

ส่วนทอม เกินจะคาดเดาว่า ครูฝึก ใช้วิธีอะไรบ้าง เพราะมีหลายวิธีที่ได้ผล
แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็ตาม มันทารุณ โหดร้าย เถื่อน อำมหิต ไร้จรรยาบรรณ 

และที่สำคัญคุณได้   ไตร่ตรอง วิธีการครบทุกขั้นตอน

ไม่ว่าคุณจะลงมือเอง 
หรือให้ผู้อื่นเป็นผู้ลงมือ เพื่อที่คุณจะสารภาพอย่างไม่อายว่า   "ผมไม่ได้ทำ"


คุณครูฝึก คุณคือผู้ผิด และ คุณคือผู้แพ้ 

ฉันตัดสินใจผิด คิดผิดที่ส่งบางแก้วของฉันเข้าศูนย์ฝึกสุนัข
ไม่มีอีกแล้ว ไม่มีวันที่ฉันจะไว้ใจพวกคุณ ที่เรียกตัวเองว่า "มืออาชีพ"
ไม่มีวันที่ฉันจะไว้ใจศูนย์ฝึกสุนัขที่ไหนอีก 


Shame on you if you fool me Once! 


เยี่ยมลัคกี้


รอยถูกลาก

ทุกวันนี้พวกเราต้องคอยดูแลพาทอมกับลัคกี้ไปโรงพยาบาล เวียนเข้าเวียนออก เหนื่อยมาก
ลัคกี้ต้องไปทำกายภาพแบบต่อเนื่องเป็นเวลา 8 สัปดาห์
โปรแกรมที่ต้องทำคือ อัลตราซาวน์ ยิงเรเซอร์ 
ต้องคอยประคบร้อน และ บริหารขาเช้า-เย็น ทุกวันไม่มีเว้น
ต้องจูงเดินบนสนามหญ้า ต้องคอยระวังไม่ให้วิ่ง ไม่ให้กระโดด

ตอนนี้ลัคกี้ต้องเดินสายพานในน้ำอีก 1 เดือน ตามด้วยว่ายน้ำเพื่อฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่หายไป
จากนั้นก็ต้องว่ายน้ำตลอดชีวิตเพื่อรักษากล้ามเนื้อ

ส่วนทอมหลังทำฟัน ต้องหมั่นตรวจฟัน แปรงฟันทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
ต้องคอยระวังไม่ให้ไปกัดแทะของแข็ง แค่กัดผ้าก็เลือดไหลแล้ว

ทอมเป็นหมาหนุ่ม แต่สภาพฟันกลับเป็น   ฟันหมาแก่ 

น้ำลายไหล หยดติ๋ง ติ๋ง เพราะฟันหน้า ต่ำเกิน กั้นน้ำลายไว้ไม่อยู่

ที่น่าขยะแขยงที่ได้จากการส่งบางแก้วไปฝึกคราวนี้คือ

ลัคกี้ติด   " เห็บ " ส่วนทอมตรวจเจอ " พยาธิในเม็ดเลือด " 

เจ้าของก็ต้องรักษากันไปแบบต่อเนื่อง

คุ้ม ไหมคะกับการส่งสุนัขเข้าศูนย์ฝึก
นี่ขนาดฉันตระเวนดูมาเกือบทั่วกรุง และคิดว่าเลือกได้ดีที่สุดแล้วนะ

ในชีวิตที่ผ่านมา ฉันไม่ค่อยตำหนิตัวเองนัก
แต่ครั้งนี้ ฉันยอมรับอย่างเต็มปากว่า ฉัน    "ตัดสินใจผิด"


นี่คือ   ผลลัพธ์ ที่ได้จากการตัดสินใจของฉัน 
เป็นประสบการณ์ที่แสนเจ็บปวด และฉันไม่มีวันจะให้อภัยคนใจร้ายได้


เพื่อนในกลุ่มบางแก้วบอกฉันว่า 



" หากคุณรักสุนัขคุณจริง จงเรียนรู้วิธีและฝึกเอง "


หวังว่าเรื่องนี้คงเป็นอุทาหรณ์ให้กับคุณ ๆ ที่รักสุนัขทุกคน 

" เผื่อใจ " สักนิด หากอ่านแล้ว   ยังคิด จะส่งสุนัขไปศูนย์ฝึก 
 



เครดิตจาก.....ไทยบางแก้วคลับ
เจ้าของภาพและเรื่อง...ลัคกี้ทอม 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
273 VOTES (4/5 จาก 68 คน)
VOTED: kea jung
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
หนุ่ม กรรชัย โอนเงิน 2 บาท ช่วยทนายธรรมราช บอกกล้าขอก็กล้าให้เตือนภัยแอปฯดูดเงิน ห้ามกด-กรอก-ติดตั้งเซอร์ไพรส์คุณครู! เด็ก 7 ขวบ ซื้อสร้อยทองให้ 10 เส้น..เนื่องในโอกาสวันครูเจย์ โจว ร้องไห้กลางเวทีคอนเสิร์ตที่จีนค้นบ้านแฟนเก่า ล่าตัวคนปล่อยคลิปลับ "พิมพ์ กรกนก" ลั่น! รู้ตัวคนทำแล้วจังหวัดทางภาคเหนือของไทย ที่ถูกประกาศจัดตั้งขึ้นใหม่ล่าสุด
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ภูฏานคือสวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชียนักวิชาการเตือน อย่าดราม่ากับพระพุทธรูปที่ลาวค้นพบเจย์ โจว ร้องไห้กลางเวทีคอนเสิร์ตที่จีน
ตั้งกระทู้ใหม่