ความต้องการ 5 ขั้นของมาสโลว์
ใครเคยอ่านทฤษฎีความต้องการ 5 ขั้นของมาสโลว์กันมาบ้างแล้วก็คงเข้าใจว่าทฤษฎีนี้คือที่สุดของความต้องการของมนุษย์
มนุษย์เรามีความต้องการร้อยแปด ทฤษฎีของมาสโลว์คือบทสรุปของความต้องการมนุษย์ที่ช่วยให้เราเห็นภาพความต้องการของตัวเอง ไม่ใช่แค่ความต้องการเรื่องเงินเพียงอย่างเดียว
ความต้องการดังกล่าว ได้แก่
1.ความต้องการด้านกายภาพ คือ ปัจจัยสี่ อย่างอาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค สำหรับผมอาจรวมถึงอินเทอร์เน็ตด้วย เพราะถ้าไม่มีอินเทอร์เน็ต ก็คงตกข่าวอะไรไปมาก ไม่รู้เรื่องความเป็นไปของโลก จองคิวไปสถานที่สำคัญหรือจองคิวติดต่อสถานที่ราชการก็ไม่ได้ เพราะทุกอย่างพยายามดึงเข้าไปในระบบออนไลน์กันแล้ว
2.ความต้องการด้านความมั่นคงปลอดภัย
คือ สิ่งที่จำเป็นต้องมีเพื่อให้ชีวิตรู้สึกมั่นคงปลอดภัยจึงจะดำรงชีวิตต่อไปได้ เช่น งานประจำที่ให้เงินเดือนเป็นประจำ สังคมการทำงานที่เป็นมิตร ไม่ใช่ทำงานแบบครอบครัวแต่เชือดเฉือนหวังก้าวหน้าแบบเหยียบคนอื่นขึ้นที่สูง ด้วยตำแหน่งที่สูงนั้นว่างเพียงไม่กี่ตำแหน่ง
หรือถ้ามีเหตุให้ต้องตกงายก็ต้องมีแหล่งรายได้ทางอื่นที่มั่นคงกว่านี้ หรือต้องลงทุนในอะไรสักอย่างที่เราต้องให้การดูแลควบคุมเพื่อรับผลตอบแทนให้มีรายได้เลี้ยงชีพไปเรื่อยๆ เราจะรู้สึกมั่นคงมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำเงินของแต่ละคน ความอยากรวยจึงเป็นสาเหตุของความมั่นคงในชีวิต เราอยากรวยก็เพื่อต้องการให้มีเงินไว้ใช้จ่ายไปตลอดชีวิต
สังคมที่ปลอดภัย ไม่มีโจรขโมยหรือเด็กแว้นหัวรุนแรงขับขี่รถเสียงดัง ไม่มีสังคมที่เติบโตมาด้วยความรุนแรงในย่านที่เราอยู่อาศัย อยู่แล้วสบายใจก็เป็นความต้องการในหมวดนี้
3.ความต้องการความรักและความเป็นเจ้าของ
คือ เพื่อน ครอบครัว คนรัก ทั้งสามส่วนแทนกันไม่ได้ ใครเคยมีความสุขเพราะเพื่อน พ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ หรือแฟน แล้วมีเหตุให้ต้องจากกันไป ไม่ว่าจากเป็นเพราะทะเลาะเบาะแว้ง หรือจากตาย เราก็จะรู้ว่าความต้องการด้านนี้ไม่ใช่จะได้มาง่ายๆเสมอไป เมื่อมีแล้วก็ขอให้รักษาไว้ให้ความสุขด้านนี้เป็นยาใจชุบชีวิตให้เราสู้กับโลกของการแข่งขันได้ไหว เป็นกำลังใจชั้นดีที่ซื้อหาจากไหนก็ทำไม่ได้
4.ความต้องการเกียรติยศชื่อเสียงและความภาคภูมิใจ
อยากเป็นหมอ อยากสอบติดจุฬาฯ อยากมีหน้าที่การงานที่ดี เราอดทนทุ่มเททำงานหนัก หวังเพิ่มทักษะความรู้ หวังจะมีประสบการณ์เพื่ออยู่ในสังคมของคนที่สามารถทำงานเป็น ทั้งหมดนี้ก็เพื่อได้รับการยอมรับในสังคม ผู้ใหญ่ให้การสนับสนุนก็เพราะเราเก่งพอจะช่วยเหลืออะไรบางอย่างให้เขาได้
สังเกตวิชาชีพหมอจะเห็นได้ชัดเจนที่สุด พวกอาจารย์หมอจะอยู่ในวัยเกิน 60 แล้ว แต่พวกแกก็ไม่อยากเกษียณ แกมีความสุขที่รักษาคนไข้ให้หายได้ โดยเฉพาะโรคที่หายได้ยากและไม่ค่อยเป็นที่พบเห็น แกก็จะรักษาได้ เพราะแกเคยผ่านงานมาก่อน นั่นทำให้แกเป็นที่ยอมรับในที่ทำงานสูงมาก ทั้งแพทย์จบใหม่ใช้ทุน พยาบาล และคนไข้จะเคารพความเป็นแพทย์อาวุโสออกมาจากใจ เวลาต้องการคำชี้แนะ ก็ต้องมาขอปรึกษาจากแก นอกจากทำงานเพื่อหายเหงาแล้ว ยังเติมเต็มตัวตนของตัวแกเองอย่างล้นเหลือ ซึ่งหาได้ยากจากวงการอาชีพอื่น
ตอนเป็นเด็กเรามักไม่เข้าใจเรื่องการเป็นทีายอมรับของผู้ใหญ่ แต่ก็ต้องการเป็นที่ยอมรับในครอบครัว เป็นที่ยอมรับในหมู่เพื่อน บางครั้งเรายอมทำเรื่องอะไรแผลงๆเพียงเพื่อให้เพื่อนยอมรับในตัวเรา
5.ความต้องการความสมบูรณ์ของชีวิต
ถือเป็นขั้นสูงสุดที่ได้รับการเติมเต็มจาก 4 อันดับแรกแล้ว จึงสามารถใช้ศักยภาพที่มีทั้งหมดสร้างสรรค์ผลงานต่างๆออกมาได้ ทำให้ถึงกับรู้ว่าชีวิตนี้เราเกิดมาเพื่ออะไร ก็เพื่อสิ่งนี้นี่เอง... น้อยคนนักที่จะมาถึงได้จุดนี้
สรุปในแบบของผม แบบที่ผมใช้ชีวิต ผมจะสรุปออกมาตามที่อาจารย์พละท่านหนึ่งเคยสอนไว้ในห้องเรียน แกสอนแล้วรวบรัดเข้าใจง่ายกว่า
แกบอกว่า ความต้องการของคนเรามีอยู่ 3 อย่าง
งาน เงิน และความรัก
แต่ผมก็เพิ่มลำดับที่ 4 ไป คือสุขภาพ
ต้องยอมรับว่าถ้าเราสุขภาพไม่แข็งแรง เดินเหิรไม่ไหว ตาบอดสี หรือทุพพลภาพ ย่อมขาดโอกาสในหน้าที่การงานหลายด้าน นี่คือความจำเป็นที่ต้องมีสุขภาพและร่างกายที่สมบูรณ์
งาน เงินความรัก สุขภาพ คือ 4 ด้านของชีวิตที่เราพยายามดิ้นรนให้ทุกๆด้านสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะถ้าเรามีความรักแต่ขาดเงิน ชีวิตก็จะอยู่อย่างลำบาก ชีวิตที่มีเงินล้นเหลือแต่ขาดความอบอุ่นชีวิตก็ย่อมไม่มีความสุข
ใครไม่ได้อิงตามนี้ ก็สามารถยึดโยงไปเรื่องอื่นได้เหมือนกัน เช่น งาน ทรัพย์ อำนาจ ปัญญา เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอุปสรรคของแต่ละคนว่าจำเป็นต้องเน้นในเรื่องไหนบ้าง
ผมเจาะลึกความต้องการของตัวเองให้ละเอียดลงไปอีก เพื่อจะได้ไม่ฟุ้งซ่านว่าชีวิตนี้ผมอ้อนวอนขออะไรจากจักรวาลมากมายเหลือเกิน ในงาน เงิน ความรัก สุขภาพ มันมีพรอะไรบ้างที่ถ้าผมพิชิตเรื่องไหนสำเร็จแล้วจะไม่จำเป็นต้องขอพรจากจักรวาลอีกเลย มันคือความปรารถนาอะไรบ้าง ผมคิด ...คิดจนได้คำตอบออกมาเป็นความปรารถนาอย่างละเอียด 7 ข้อ ดังนี้
1.ขอให้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด
2.ขอให้ได้พบคู่แท้ ได้ครองรักกันอย่างมีความสุขทั้งสองฝ่าย
3.ขอให้มีฐานะร่ำรวย
4.ขอให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
5.ขอให้ได้พบมิตรแท้และเพื่อนฝูงมากมายเกื้อกูลกันสู่ความสำเร็จ
6.ขอให้พ่อแม่มีความสุข
7.ขอให้ประสบความสำเร็จในชีวิต ทั้งทางโลกและทางธรรม เข้าถึงนิพพานด้วยเทอญฯ
นี่คือพร 7 ข้อที่ถ้าหากผมทำได้ ทำสำเร็จ คงไม่น่ามีอะไรจะต้องร้องขออีกมากนัก หรือถึงมีก็คงน้อยมาก
สิ่งที่อยากฝากไว้ก็คือ ความปรารถนาของเราไม่ใช่เรื่องไร้สาระ มันคือปัญหาชีวิตที่รอเราแก้ปัญหาอยู่ ซึ่งมันเป็นปัญหาค่อนข้างใหญ่พอสมควร เราถึงเฝ้าฝันชีวิตที่สมปรารถนาแบบนั้น
ความปรารถนาดังกล่าว จะเป็นแกนชีวิตที่บ่งบอกว่าเรากำลังลงมือทำเพื่อให้ประสบความสำเร็จในทิศทางที่เรากำลังต้องการหรือเปล่า ?
แม้จะไม่สำเร็จ แต่อย่างน้อยชีวิตก่อนตายเราก็จะไม่คับข้องใจและไม่มีอะไรค้างคาใจอีก
รู้จักคิดเองและลงมือทำ..ให้เป็นทักษะด้วย
มะเขือตอแหล : ชื่อเจ็บจี้ด แต่คุณค่าประโยชน์ล้ำเลิศ
ชาวบ้านเพื่อนบ้านเหวอ! กลับมาดูพื้นที่หนองจาน เจอรั้วลวดหนาม–บ้านรุกล้ำถูกรื้อ ทหารไทยขีดเส้นชัด
ดราม่ารับปีใหม่! เที่ยวชะอำเจอ "ค่าเก้าอี้ 600"
เวลาเราเห็นของเปรี้ยว ทำไมต้องน้ำลายสอ ?



