“เบญจสุทธคงคา” แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ในไทย
ในความเชื่อเกี่ยวกับน้ำอันศักดิ์สิทธิ์นั้น ที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ จะได้อิทธิพลความเชื่อจากศาสนาพราหมณ์ฮินดู ซึ่งในประเทศอินเดียวจะมีแม่น้ำอันศักดิ์สิทธิ์คือ “ปัญจมหานที”
ปัญจมหานที คือแม่น้ำสำคัญห้าสายของชมพูทวีปที่ปรากฏในวรรณกรรมพราหมณ์ และวรรณกรรมพุทธ ประกอบด้วย คงคา ยมุนา อจิรวดี สรภู และมหิ และความเป็นจริงของแม่น้ำเหล่านั้นคืออะไร
1.คงคา (Ganga) กำเนิดจากธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัย ในรัฐอุตตรขัณฑ์ ประเทศอินเดีย ออกจากปากถ้ำที่เรียกว่าโคมุข ตำนานกล่าวว่าน้ำนี้มาจากมวยผมของพระศิวะเจ้า เมื่อไหลลงมาแล้ว ลงสู่ที่ราบบริเวณเมืองฤๅษีเกศ ศูนย์กลางสำคัญของปรัชญาโยคะ และเมืองหริทวาร (ฮาริดวาร์) จากนั้นได้ไหลหล่อเลี้ยงที่ราบ ผ่านเมืองสำคัญเช่น กานนุช กานปุระ ประยาค (อัลลาฮาบัด) พาราณสี ปัฏนะ ก่อนลงสู่อ่าวเบงกอลในเขตประเทศบังคลาเทศ ถือเป็นจิตวิญญาณของอารยธรรมอินเดียตอนบน
2.ยมุนา (Yamuna) กำเนิดจากธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัย ในรัฐอุตตรขัณฑ์ ประเทศอินเดีย เช่นเดียวกับแม่น้ำคงคา ก่อนไหลผ่านทุ่งปานิปัต อินทปัตถ์ (เดลี) อัคระ และบรรจบกับแม่น้ำคงคา และแม่น้ำสรัสวดีในตำนาน ที่เมืองประยาค (อัลลาฮาบัด) ในจุดที่เรียกว่าตรีเวนิสังคัม หรือจุฬาตรีคูณ
3.อจิรวดี (Aciravati) ปัจจุบันเรียกว่าแม่น้ำรัปตีตะวันตก (West Rapti) กำเนิดจากประเทศเนปาล ก่อนไหลเข้าสู่รัฐอุตตรประเทศ ไปบรรจบกับแม่น้ำฆาฆรา (Ghaghara) และไหลลงแม่น้ำคงคาก่อนถึงเมืองปัฏนะ
4.สรภู หรือสรยู (Sarayu) กำเนิดจากเทือกเขาหิมาลัยไหลสู่รัฐอุตตรประเทศ ลงสู่แม่น้ำฆาฆรา ซึ่งผ่านเมืองอโยธยา เมืองของพระราม อย่างไรก็ตาม แม่น้ำฆาฆราส่วนนั้นก็เรียกว่าแม่น้ำสรภูไปด้วย
5.มหิ (Mahi) กำเนิดจากเทือกเขาวินธัยในรัฐมัธยประเทศ ประเทศอินเดีย ก่อนไหลลงทะเลอาหรับ ที่รัฐคุชราต
ปัญจมหานที ที่ได้ชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์และเอาไปใช้ในพิธีกรรมสำคัญ ก็เพราะความเชื่อที่ว่าแม่น้ำเหล่านี้ไหลมาจากเขาไกรลาส ซึ่งเป็นที่สถิตของพระอิศวร ในประเทศไทยก็ปรากฏ 5 แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ในไทย ที่ “อนุโลมว่าเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกับปัญจมหานทีในประเทศอินเดีย” เช่นกัน เรียกว่า “เบญจสุทธคงคา” ใช้ในพิธีรดน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ หรือ “พิธีสรงน้ำพระมุรธาภิเษก” ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ประกอบด้วย
- แม่น้ำบางปะกง ตักน้ำที่บึงพระอาจารย์ แขวงเมืองนครนายก
- แม่น้ำป่าสัก ตักน้ำที่ตำบลท่าราบ แขวงเมืองสระบุรี
- แม่น้ำเจ้าพระยา ตักน้ำที่ตำบลบางแก้ว แขวงเมืองอ่างทอง
- แม่น้ำราชบุรี ตักน้ำที่ตำบลดาวดึงส์ แขวงเมืองสมุทรสงคราม
- แม่น้ำเพชรบุรี ตักน้ำที่ตำบลท่าไชย แขวงเมืองเพชรบุรี
เมื่อตักน้ำมาจากแม่น้ำทั้ง 5 แล้ว จะเอาไปเจือกับแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 แห่ง ที่เมืองสุพรรณ ซึ่งมีแต่กษัตริย์เท่านั้นที่ทรงใช้ได้ นามว่าสระเกษ, สระแก้ว, สระยมนา และสระคา อีกทีหนึ่ง ซึ่งเป็นน้ำที่ใช้ในพิธีบรมราชาภิเษก อย่างน้อยก็สมัยกรุงศรีอยุธยา
อย่างไรก็ตาม การใช้เบญจสุทธคงคาเจือกับแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 4 แห่งนี้ ปรากฏถึงเพียงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 5 ครั้งแรก คือเมื่อ พ.ศ. 2411 เพราะต่อมาได้มีการนำน้ำอื่น ๆ มาเจือผสมด้วย เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2416 ของรัชกาลที่ 5 ได้ใช้น้ำจากปัญจมหานที (บ้างว่าเฉพาะแม่น้ำคงคา) มาเจือในน้ำสรงพระมุรธาภิเษก หรือในสมัยรัชกาลที่ 6 ก็ยังคงแบบแผนจากสมัยรัชกาลที่ 5 แต่เพิ่มน้ำจากเจดียสถานและน้ำที่เสกตามวัดประจำมณฑลต่าง ๆ เข้ามา เป็นต้น
*********
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
เปิดแฟ้มลับ 5 อันดับคดีมนต์ดำสะเทือนราชสำนักไทย
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
5 จอมโจรขมังเวทแห่งที่ราบสูง: ตำนานเสือร้ายภาคอีสานที่โลกต้องจดจำ
10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต
เปิดตำนานอาถรรพ์ "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" แห่งวัดกุฎีดาว: ความลี้ลับที่อยู่คู่แผ่นดินอยุธยา
ใครที่ยังตั้งรหัสผ่านง่ายๆ รีบเปลี่ยนด่วน! เพราะไม่ปลอดภัยอาจโดนเจาะได้
เจาะเทรนด์ปี 2026! นิสัยและไลฟ์สไตล์ผู้ชายแบบไหนที่ "ดึงดูดใจ" สาวๆ ยุคใหม่มากที่สุด
บุรีรัมย์เดือด! ศึกชิงเก้าอี้ สส. วันแรกคึกคัก 'ไหม ศิริกัญญา' บุกถิ่นพรรคสีน้ำเงิน ท้าชนกลุ่มอำนาจเดิม
หลังหยุดยิง จีนบริจาคเงินและของให้เขมร มูลค่า 20 ล้านหยวน
พระสงษ์ชาวเวียดนาม ผู้เสียสละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องศาสนา






