บูตอน : ชนเผ่าตาสีฟ้าแห่งอินโดนีเซียการกลายพันธุ์จนกลายเป็นลักษณะพิเศษ
หากเราพูดถึงชนชาติในเเถบเอเชียที่สืบเชื้อสายจากมองโกลอยนั้น ลักษณะทางพันธุกรรมคือ ผิวขาวเหลือง ผมดำ หรือน้ำตาลเข้ม และมีดวงตาสีดำ หรือน้ำตาล แต่หาใช่ชนเผ่าบูตอนเเห่งประเทศอินโดนีเซียไม่ เพราะชนเผ่านี้มีผิวสีน้ำผึ้ง เเต่ดวงตากลับเป็นสีฟ้า วันนี้เรามาเล่าถึงสาเหตุ ปัจจัยที่ทำให้ ชนเผ่าบูตอนถึงมีลักษณะพิเศษเช่นนี้
ชนเผ่าบูตอน (Buton) อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของหมู่เกาะซูลาเวซี ประเทศอินโดนีเซีย มีชื่อเสียงในเรื่องดวงตาสีฟ้าที่โดดเด่น บางคนมีตาสองสี ซึ่งเป็นลักษณะที่หาได้ยากในภูมิภาคนี้
ซึ่ง ลักษณะที่หายากนี้เกี่ยวข้องกับภาวะทางพันธุกรรมที่เรียกว่าวาร์เดนเบิร์กซินโดรม "Waardenburg Syndrome" ซึ่งเกิดขึ้นได้ประมาณ 1 ใน 42,000 คน
ภาวะวาร์เดนเบิร์กซินโดรม "Waardenburg Syndrome" นี้ส่งผลต่อโครงสร้างร่างกายและการเปลี่ยนแปลงของสีผิว เส้นผม และดวงตา รวมถึงอาจทำให้เกิดปัญหาด้านการได้ยินบางส่วนได้เช่นกันโดยทั่วไปแล้ว เเต่เริ่มเดิมทีผู้คนในชนเผ่าบูตอนมักมีดวงตาสีดำหรือน้ำตาลเข้ม อย่างไรก็ตาม ตรงกันข้ามกับที่บางคนอาจคิด ดวงตาสีฟ้าที่เห็นในในชนเผ่าบูตอน (Buton) ไม่ได้เป็นผลมาจากการสืบเชื้อสายยุโรป แต่เป็นผลมาจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมที่เกิดขึ้นเอง แม้ว่าจะไม่ค่อยพบเห็น แต่สภาพนี้ได้ถูกสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนในบางครอบครัวในเผ่า วาร์เดนเบิร์กซินโดรม (Waardenburg Syndrome) คืออะไรเป็นหนึ่งในกลุ่มอาการที่หาพบได้ยาก ปัจจัยที่เสี่ยงมากที่สุดมักเกิดจากพันธุกรรมหากมีเครือญาติที่ป่วยเป็นโรคนี้ โดยมีโอกาสพบได้ประมาณ 2 ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ หรือพบได้เพียง 1 ใน 40,000 คนเท่านั้น กลุ่มอาการวาร์เดนเบิร์กซินโดรมจะแสดงออกมาผ่านสีของดวงตาอาจกลายเป็นสีฟ้าซีด สีผิวหนังจะซีดที่จะแตกต่างไปจากเดิม และเป็นกลุ่มอาการที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้วาร์เดนเบิร์กซินโดรม (Waardenburg Syndrome) มีกี่ชนิด
ชนิดที่ 1 : ผู้ป่วยจะมีอาการสูญเสียการได้ยิน ดวงตาเบิกกว้างกว่าปกติ และเกิดการเปลี่ยนสีจากสีเดิมกลายเป็นสีฟ้าซีดในอาการป่วยชนิดนี้จะพบได้บ่อยที่สุดในกลุ่มอาการทั้งหมด
ชนิดที่ 2 : อาการจะคล้ายกับผู้ป่วยวาร์เดนเบิร์กซินโดรมในกลุ่มชนิดที่ 1 แต่มีข้อแตกต่างคือดวงตาจะไม่เบิกกว้างเท่ากับชนิดที่ 1 แต่มีโอกาสสูญเสียการได้ยินได้มากกว่า
ชนิดที่ 3 : มีอาการโดยรวมคล้ายกับทั้งชนิดที่ 1 กับ 2 แต่จะมีอาการอื่น ๆ พบร่วมด้วย เช่น อาการโหว่ในเพดานช่องปาก นิ้วมือมีความผิดปกติ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ป่วยวาร์เดนเบิร์กซินโดรมในชนิดนี้จะมีอาการช่วงแขนจนถึงไหล่อ่อนแรง มีปัญหาข้อต่อหรือสติปัญญา ในกลุ่มนี้บางทีจะเรียกว่า "Klein-Waardenburg syndrome"
ชนิดที่ 4 : เซลล์ประสาทของผู้ป่วยวาร์เดนเบิร์กซินโดรมชนิดนี้จะทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพมีส่วนให้เกิดความผิดปกติของลำไส้เป็นผลให้เกิดอาการท้องผูกในระดับที่ค่อนข้างรุนแรง รวมถึงมีปัญหาการได้ยินร่วมด้วย
ชนิดของผู้ป่วยวาร์เดนเบิร์กซินโดรมที่พบได้มากที่สุด คือชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 ส่วนชนิดที่ 3 และชนิดที่ 4 จะพบได้ยาก
อย่างไรก็ตามดวงตาสีฟ้าของชาวบูตอนนี้ ยังคงเป็นเสน่ห์ให้ชวนค้นหาถึงปัจจัยสาเหตุอื่นๆทั้งทางวิทยาศาสตร์ด้านพันธุกรรม ด้านมานุษยวิทยาเพื่อค้นหาความเป็นของดวงตาลึกลับแห่งนี้
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
"เหมย หมึกเป็นซาซิมิ" แฉผัวตัวดีแอบกินกิ๊กเด็กในร้าน
10 ประเด็นร้อนฉ่าที่คนไทยให้ความสนใจสูงสุดในปี 2568
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
มาดู “อดีตไอดอล” ที่พิสูจน์ว่า 40 ยังแจ๋ว — เซรินะ อดีต SDN48 กับการคัมแบ็กสายกราเวียร์
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
คุกกี้เสี่ยงทาย... ทายนิสัยความขี้อ้อนของคนเกิดทั้ง 7 วัน
เงินเดือนผู้ประกาศข่าว
ปลาย พรายกระซิบ ยัน "ไม่ใช่ผู้วิเศษ" ต้องหาอาชีพอื่นสำรองไว้ด้วย
พชร์ อานนท์ การันตี "หอแต๋วแตก" ภาคล่าสุด เส้นเรื่องแน่น มุกสดใหม่ทันเหตุการณ์
"จีน-รัสเซีย" ผนึกกำลังรุมบดขยี้ "สหรัฐ" ส่งเรือรบยึดน้ำมัน ใช้กำลังทหารรุกราน "เวเนซุเอลา"




