Thermage Eye vs EMFACE Eyes ยกกระชับรอบดวงตาแบบไม่ใช้เข็ม เลือกอะไรให้ใช่สำหรับคุณ
Thermage Eye vs EMFACE Eyes ยกกระชับรอบดวงตาแบบไม่ใช้เข็ม เลือกอะไรให้ใช่สำหรับคุณ
ดวงตาเป็นจุดแรกที่สะท้อนความสดใสและอายุผิว ปัญหาริ้วรอย หางตาตก หนังตาหย่อน หรือถุงใต้ตา จึงมักทำให้ใบหน้าดูอ่อนล้าเกินจริง ข่าวดีคือปัจจุบันมีเทคโนโลยียกกระชับรอบดวงตาแบบ “ไม่ผ่าตัด–ไม่เข็ม–ไม่ต้องพักฟื้น” หลายวิธี โดยสองโปรแกรมที่ถูกพูดถึงบ่อยคือ Thermage Eye และ EMFACE Eyes บทความนี้สรุปทุกประเด็นสำคัญ ตั้งแต่หลักการทำงาน ผลลัพธ์ ความรู้สึกระหว่างทำ จุดเด่น–ข้อจำกัด ไปจนถึงใครเหมาะกับอะไร เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้ตรงปัญหา
Thermage Eye vs EMFACE Eyes ต่างกันอย่างไร?
- Thermage Eye ใช้พลังงาน Monopolar RF ส่งความร้อนลึกถึงชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิว เพื่อ “ทำให้คอลลาเจนหดตัวทันที” พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน–อีลาสตินใหม่ ผลคือผิวรอบดวงตาแน่นขึ้น ริ้วรอยและถุงใต้ตาดูลดลง เปลือกตา–หางตาดูยกขึ้น
- EMFACE Eyes ผสาน Synchronized RF + HIFES™ (High-Intensity Facial Electrical Stimulation) คลื่นความร้อนบำรุงผิวชั้นบน ขณะที่ HIFES™ โฟกัส “ชั้นกล้ามเนื้อ” ร่วมด้วย โดยเฉพาะกล้ามเนื้อวงตา (orbicularis oculi) จึงช่วยยกคิ้ว–หางตา ปรับใบหน้าส่วนบนให้ดูยกกระชับจากโครงสร้างลึก
Thermage Eye คืออะไร ทำงานอย่างไร?
Thermage Eye เป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุชนิด Monopolar RF ซึ่งสามารถควบคุมอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ พลังงานจากคลื่นวิทยุจะถูกส่งลงไปยังชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิวอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้คอลลาเจนเดิมหดกระชับทันที และกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่อย่างต่อเนื่องหลังทำ
หัวทิปที่ใช้กับ Thermage Eye ได้รับการออกแบบมาเฉพาะสำหรับรอบดวงตา เช่น Total Tip Eye ขนาด 0.25 เซนติเมตร ซึ่งมีลักษณะโค้งรับกับเปลือกตาและใต้ตา ทำให้การส่งพลังงานแม่นยำ ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง อีกทั้งยังมีอุปกรณ์ช่วยปกป้องดวงตาตลอดกระบวนการรักษา
ในระหว่างทำหัตถการ ผู้รับบริการจะรู้สึกถึงความอุ่นลึกเป็นจังหวะ ๆ ซึ่งสามารถปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับความทนของผิวได้ ผลลัพธ์ที่ได้คือเปลือกตาบนและหางตาดูยกกระชับขึ้น ริ้วรอยเล็ก ๆ ลดเลือนลง ถุงใต้ตาและความหมองคล้ำที่เกิดจากความหย่อนคล้อยดูลดลง และผิวรอบดวงตาดูเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ผลการรักษามักเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีประมาณ 20% หลังทำ และจะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นภายใน 1–3 เดือน โดยผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานราว 1–2 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังทำ
EMFACE Eyes คืออะไร? ทำไมถึงแตกต่าง?
EMFACE Eyes เป็นเทคโนโลยีที่ทำงานพร้อมกันสองระดับในคราวเดียว โดยใช้พลังงาน RF เพื่อปรับสภาพผิวชั้นบนให้มีความเฟิร์มและเรียบเนียนขึ้น ควบคู่กับการทำงานของ HIFES™ ซึ่งเป็นระบบกระตุ้นการหดและคลายของกล้ามเนื้อใบหน้าอย่างปลอดภัย เสมือนการบริหารกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณกล้ามเนื้อรอบดวงตา ส่งผลให้ใบหน้าส่วนบน คิ้ว และหางตาดูยกกระชับจากฐานกล้ามเนื้อจริง ๆ
หัวอุปกรณ์ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับดวงตา สามารถแนบสนิทกับเปลือกตาและใต้ตา เพื่อส่งผ่านพลังงานได้อย่างแม่นยำตลอดการรักษา ขณะทำหัตถการ ผู้รับบริการจะรู้สึกถึงความอุ่นจากพลังงาน RF ผสมกับการกระตุกเบา ๆ ของ HIFES™ โดยไม่จำเป็นต้องพักฟื้นหลังทำ
ผลลัพธ์ที่คาดหวังคือหางตาและคิ้วยกขึ้น ผิวใต้ตาอิ่มฟูขึ้น ริ้วรอยรอบดวงตาลดเลือน ถุงใต้ตาที่เกิดจากความอ่อนแรงของกล้ามเนื้อดีขึ้น และโครงหน้าส่วนบนโดยรวมดูสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ หลายคนสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรก และหากทำต่อเนื่องเป็นคอร์สจะยิ่งเห็นผลลัพธ์ชัดเจนและยาวนาน โดยผลสะสมจะคงอยู่ประมาณ 6–12 เดือน ขึ้นอยู่กับโครงสร้างกล้ามเนื้อและสภาพผิวของแต่ละบุคคล
เปรียบเทียบจุดเด่น Thermage Eye vs EMFACE Eyes
- ระดับพลังงานและชั้นผิวที่ทำงาน
Thermage Eye จะโฟกัสที่ชั้นผิวและไขมันใต้ผิวโดยตรง แต่ไม่ได้ลงลึกถึงกล้ามเนื้อ จึงเหมาะกับการแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ลดริ้วรอยเล็ก ๆ รวมถึงถุงใต้ตา ส่วน EMFACE Eyes ทำงานพร้อมกันทั้งชั้นผิวและชั้นกล้ามเนื้อ จึงมีจุดเด่นในการยกหางตาและช่วยให้ใบหน้าส่วนบนดูกระชับจากฐานกล้ามเนื้อ
- ช่วงเวลาที่เห็นผลลัพธ์
การทำ Thermage Eye สามารถเห็นผลบางส่วนได้ทันทีหลังทำ และผลจะค่อย ๆ ชัดขึ้นภายใน 1–3 เดือน โดยผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 1–2 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำปีละครั้งแล้วได้ผลยาวนาน ในขณะที่ EMFACE Eyes มักเห็นผลเร็วตั้งแต่ครั้งแรก และจะยิ่งชัดเจนขึ้นหากทำต่อเนื่องเป็นคอร์ส เหมาะกับผู้ที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงแบบเร่งด่วนและต้องการดูแลโครงสร้างกล้ามเนื้อไปพร้อมกัน
- ความสะดวกในการทำหัตถการ
ทั้ง Thermage Eye และ EMFACE Eyes เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องผ่าตัด และแทบไม่ต้องพักฟื้น หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
Thermage Eye vs EMFACE Eyes เหมาะกับใครบ้าง?
- Thermage Eye เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูคอลลาเจนรอบดวงตา ลดริ้วรอยเล็ก ๆ และถุงใต้ตาที่เกิดจากความหย่อนคล้อย อีกทั้งยังช่วยให้เปลือกตาและหางตาดูยกขึ้น รูปตาดูกว้างและสดใสขึ้น จุดเด่นคือทำเพียงปีละครั้งก็ได้ผลยาวนาน
- EMFACE Eyes เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับทั้งผิวและกล้ามเนื้อ เหมาะกับคนที่คิ้วตก หางตาตก หรือใบหน้าส่วนบนเริ่มหย่อน และยังตอบโจทย์ผู้ที่อยากเห็นผลเร็วและต่อเนื่องเมื่อทำเป็นโปรแกรม
ข้อควรระวังของการทำ Thermage Eye vs EMFACE Eyes
- Thermage Eye ไม่เหมาะกับผู้ที่ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร มีแผลติดเชื้อ หรือเพิ่งทำศัลยกรรมรอบดวงตา ส่วน EMFACE Eyes ไม่เหมาะกับผู้ที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าฝังในร่างกาย ภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือเพิ่งฉีดฟิลเลอหรือไขมันในใบหน้าส่วนบน โดยทั้งสองกรณีควรให้แพทย์ประเมินก่อนเสมอ
อายุที่เหมาะสมกับการทำ Thermage Eye vs EMFACE Eyes
- โดยทั่วไปช่วง 30 ปีขึ้นไปเริ่มเห็นสัญญาณความหย่อนคล้อย จึงเป็นวัยที่ได้ประโยชน์ชัดเจนจากทั้งสองเทคโนโลยี หากอายุน้อยกว่าแต่มีปัญหาเฉพาะ เช่น หนังตาตกจากพันธุกรรม ถุงใต้ตาตกจากโครงสร้างกล้ามเนื้อ ก็สามารถพิจารณาได้หลังประเมินโดยแพทย์ ส่วนช่วง 40–60 ปีขึ้นไป มักเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน
สรุป
หากเน้นกระชับผิว ลดริ้วรอยและถุงใต้ตา พร้อมผลที่อยู่ได้นาน ควรเลือก Thermage Eye แต่ถ้าอยากยกหางตาและคิ้ว เสริมความแข็งแรงกล้ามเนื้อใบหน้าส่วนบน และเห็นผลต่อเนื่องเร็วขึ้น EMFACE Eyes จะตอบโจทย์มากกว่า สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวและกล้ามเนื้อร่วมกัน แพทย์อาจวางแผนให้ทำทั้งสองเทคโนโลยีร่วมกันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีอย่างเหมาะสม
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่น
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
เพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอม
ภาพ 3 มิติ คืออะไร? เทคนิคสร้างภาพเสมือนจริงสำหรับมือใหม่
Microsoft Fabric คืออะไร? แนะนำเครื่องมือใหม่จาก Microsoft สำหรับองค์กรยุคดิจิทัล
ทุกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ ESG คืออะไร และทำไมถึงสำคัญต่อองค์กร
ดึงหน้า (Facelift) คืออะไร? มีกี่เทคนิค รวมข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
