วัยเรียนของผม
ถ้ากล่าวว่าชีวิตในผู้ใหญ่ของผมไม่น่าพึงพอใจ แล้วสมัยวัยเรียนของผมล่ะ น่าพึงพอใจมั้ย ผมตอบได้เลยว่า เลวร้ายพอกัน ถึงขนาดที่ว่าผมแทบจะไม่ผูกพันธ์กับสถาบัน และไม่มีอะไรให้อาลัยอาวรณ์จากการจบการศึกษาเลย
ย้อนไปในสมัยเรียนอนุบาล ตอนนั้นผมจำความไม่ค่อยได้ แต่การเรียนในตอนนั้นจะมีปัญหาอยู่เรื่องหนึ่งคือผมไม่ชอบขี้หน้าเพื่อนผมคนหนึ่งที่ชื่อโอ๊ต ถ้าจำไม่ผิดนะ เป็นเด็กชายร่างท้วม เขาก็ปฏิบัติดีกับผมมาตลอด แต่ผมไม่อยากคบหากับเขาด้วยเพราะผมไม่ชอบเขาอย่างไม่มีเหตุผล ผมแสดงอาการปฏิเสธเขามาโดยตลอด จนถึงวันจบการศึกษา ผมนึกเสียใจเรื่องนี้มาตลอด ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมตอนนั้นถึงตัดสินใจวางตัวแบบนั้น แต่มันก็เป็นตัวตนที่แท้จริงของผมที่ไม่ได้ปรุงแต่ง
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมเรียนรู้จากอนุบาลคือความพาลของครูผู้สอน ทีแรกผมเข้าใจว่าเราคงเรียนไม่ดี ไม่เป็นที่น่าพอใจ ครูเขาเลยต้องกระตุ้นดุพวกเราให้กระตือรือร้นหน่อย พอนานวันเข้า เรียนมาหลายปีจึงได้เข้าใจว่ามันไม่ใช่ความหวังดีของครูเสมอไป
เราถูกกำราบ ถูกข่มเพื่อให้อยู่ในโอวาท ด้วยระบอบการปกครองเด็กเช่นนี้มีส่วนทำให้ผมขาดความมั่นใจในตัวเอง ยอมทำทุกอย่างขอแค่อย่าให้ใครมาตำหนิหรือดูถูกเป็นใช้ได้
ประถมศึกษาเป็นช่วงเวลาที่กดดันหนักพอสมควร โดยเฉพาะคณิตศาสตร์วิชาที่ผมไม่ถนัดแม้ผมจะทุ่มเทเท่าไรก็ไม่เป็นผล เหมือนมีผีมาบดบังความคิด คำนวณไม่รอบคอบ ท่องจำสูตรคูณก็ทำได้ไม่ดีจนกระทั่งแม่ผมตำหนิและบ่นถึงผลการเรียนอยู่บ่อยครั้ง ผมกลัวมาก กลัวชีวิตข้างหน้าต่อจากนี้จะทำอะไรไม่เป็น ทั้งๆที่คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ผมให้เวลากับมันมากที่สุด ผมทำความเข้าใจกับมันไม่ออกแม้จะเรียนพิเศษเพิ่มเติมแล้วก็ตาม และรู้สึกว่าการเป็นคนไม่ฉลาดนั้นน่ากลัวมาก เรียนหนังสือไม่ดี จะทำงานที่ดีได้อย่างไร โตขึ้นมาไปไหนใครจะต้อนรับ ยิ่งหากไม่เรียนหนังสือก็จะมีวลีขู่ว่า "เด็กๆไม่เรียนหนังสือ โตขึ้นมาต้องขัดรองเท้า" ขัดรองเท้าในยุคนี้น่าจะถูก disruption ไปเรียบร้อยแล้ว
ความจริงถ้าหากผมได้เจอครูที่เหมาะและเมตตาเข้าใจในจุดที่นักเรียนคนนั้นไม่เข้าใจจริงๆเราก็ยังพอแก้ปมปัญหาได้ การเรียนด้วยความเข้าใจเป็นอะไรที่สนุกมาก ไม่ใช่รำคาญเด็กที่เรียนอ่อนจนรู้สึกว่าต้องสอนใหม่ทั้งหมด เพราะความเป็นจริงแล้วมันเด็กที่ไม่เรียนไม่ทบทวนกับเด็กที่เรียนหมั่นทบทวนแต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี บวกกับผมเป็นคนหัวช้า การได้เจออาจารย์รำคาญสิ่งที่ผมเป็น ถือเป็นการตอกย้ำให้ผมเกลียดการเรียนหนักขึ้นไปอีก ช่วงนั้นครูโรงเรียนนิยมให้ลูกศิษย์เรียกตนว่าอาจารย์ ผมว่ามันก็ฟังโก้หรูดี แม้ศักดิ์คำว่าอาจารย์จะใช้กับมหาวิทยาลัยก็ตาม เด็กคนไหนเรียกว่าครู ครู ครูครับ/ค่ะ อาจารย์แกจะโกรธมาก คำว่าครูมันฟังดูอบอุ่น เข้าถึงได้ ไม่ห่างเหิน แต่ถ้าครูต้องการจะเป็นอาจารย์ถึงขนาดนี้ เด็กๆอย่างเราก็ไม่อาจปฏิเสธ
การถูกบูลลี่หรือถูกกลั่นแกล้งก็เกิดขึ้นในช่วงนี้เช่นกัน เพื่อนผม...ไม่สิ...เรียกว่าคนรู้จักดีกว่า เขาคงไม่ชอบขี้หน้าผม จึงเลือกปฎิบัติกับผมแบบนี้เวลาไปเรียน ส่วนหนึ่งผมก็รู้สึกต้องคอยระมัดระวังตัว ไม่เหมือนชีวิตวัยเด็กอย่างเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ จากหนังสือที่ผมอ่าน "เจ้าสัว สอนรวย" ตอนหนึ่งว่า ทุกคนในชั้นเรียนจะเชื่อฟังคุณธนินท์ แม้แต่เด็กเกเรของห้อง คุณธนินท์สามารถโน้มน้าวให้ทุกคนร่วมมือกันในการทำงานในชั้นเรียนให้ผ่านไปได้ ส่วนหนึ่งคุณธนินท์เป็นเด็กหัวดี จึงเป็นที่ไว้วางใจของครูประจำชั้นในการดูแลเพื่อนร่วมห้อง แม้คุณธนินท์จะไม่ค่อยใส่ใจเรียนในบางช่วงก็ยังตามเนื้อหาเรียนทัน แม้จะมีสอบทันทีที่เรียนจบบทนึงก็ยังทำคะแนนได้ดีเป็นที่น่าพอใจ
ความคับข้องใจในการเรียนของทวีความรุนแรงมากขึ้น ผมตั้งใจเรียนเพราะอนาคตผมอยากได้ดี อยากมีชีวิตที่เลือกได้ กำหนดอนาคตที่จะเลือกเรียน เลือกที่จะเป็นได้ โดยมิให้คะแนนสอบมากำหนดชะตาให้ผมทิ้งความฝันไป ทว่าแค่ผลการเรียนในวันนี้ยังย่ำแย่ ชีวิตผมถ้าไม่ทรงก็ทรุด ช่วงไหนที่ผมสอบคะแนนตามเกณฑ์เพื่อนร่วมห้องส่วนใหญ่ได้ผมจะดีใจมาก การเรียนกับอาจารย์แต่ละท่านนั้น ยิ่งโตผมก็ยิ่งเกลียดอาจารย์อยู่ลึกๆ ความพาลของอาจารย์เด่นชัดขึ้นทุกวัน แต่บางท่านก็เป็นอาจารย์ที่ดีที่น่าเคารพ
ป.5 ช่วงนั้นผมจะได้ยินเรื่องเพื่อนนิยมพูดคุยกันว่า "เราทุกคนเกิดจากความสุขของพ่อแม่" ช่วงนั้นผมตีความออก ผมไม่คิดเลยว่าพวกเราจะหาประโยคพูดได้ลึกซึ้งถึงเพียงนี้ เดาว่าช่วงนั้นเพื่อนบางคนมีปัญหาทางครอบครัว พ่อแม่หย่าร้างไปมีคู่ครองใหม่ มีลูกใหม่ เราในฐานะลูกคนเก่าจึงรู้สึกไร้ค่า ไม่มีความหมายอะไร นอกจากเราเกิดมาก็เพราะความสุขของพ่อแม่เท่านั้น ความทราบไปถึงอาจารย์สอนนาฏศิลป์ แกโกรธจนต้องอบรมชุดใหญ่ว่าพูดจาอัปรีย์ขนาดนี้ได้ยังไง ผมได้แต่นึกถามอาจารย์ในใจว่า อาจารย์ไม่เข้าใจความรู้สึกของพวกเขาหรือ ว่าพวกเขาใจสลายแค่ไหนถึงต้องเจอเรื่องแบบนี้ทั้งที่อายุยังน้อย อาจารย์อาจจะหัวโบราณเกินไปที่จะยอมรับไม่ได้ที่คนเป็นลูกจาบจ้วงพ่อแม่ตัวเอง แต่ความจริงพวกเขาไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น และด้วยวัยของผมตอน ป.5 นั้นก็เข้าใจดีว่าความสุขแบบนั้นมันรู้สึกยังไง
พูดถึงเรื่องธรรมเนียมปฏิบัติของคนเอเชียแล้ว นอกจากเด็กจะไม่มีสิทธิ์พูดแย้งผู้ใหญ่ด้วยเหตุผลได้นั้น ผู้ใหญ่จะมองว่าเถียง ถึงจะด้วยเหตุผลหรือให้เกียรติแค่ไหน แต่การพูดแย้งไม่เห็นชอบด้วย ไม่เคารพนั้น ถือเป็นการทำลายอีโก้ผู้ใหญ่อย่างร้ายแรงนอกจากนี้ก็จะมีกุศโลบายให้เด็กนักเรียนนั้น เคารพครูบาอาจารย์อย่างถึงที่สุด เพราะการว่าครูนั้นจะทำให้โตไปไม่เจริญ เรื่องนี้ทำให้เด็กหลายคนถูกปลูกฝังชนิดโงหัวไม่ขึ้น ถ้าครูดี ไม่มีศิษย์คนไหนอยากไปว่าร้ายหรอก ยอมรับว่ากุศโลบายนี้ใช้กับคนรุ่นผมได้ดีเยี่ยม ผมนั้นเคารพครูทุกคนอย่างถึงที่สุด แม้ว่าปากวาจาแกจะรุนแรง เราก็แค่ระวังตัวเวลาจำเป็นต้องเข้าหา ยอมแก เพราะจำยอม กว่าจะรู้เดียงสาเราก็จบมานานแล้ว และการเรียนก็ไม่ได้ดีขึ้นสักเท่าไหร่ มองอีกมุมหนึ่งกุศโลบายนี้อาจมีประโยชน์ต่อการเรียนของเด็ก เพื่อให้เด็กเปิดใจยอมรับอาจารย์ในการเรียนการสอนดีขึ้น จนทำคะแนนสอบสัมฤทธิ์ผลออกมาดีก็ได้ คะแนนสอบถือเป็นตัวชี้วัดการเรียนเสมอ
การออกค่ายลูกเสือครั้งแรกในชีวิตของผมคือตอนป.5 สิ่งที่คิดไว้กับความเป็นจริงไม่เหมือนกัน ทุกอย่างอยู่ในความดูแลของทหารทั้งหมด การฝึก การกิน การนอน เราปฏิบัติทุกอย่างเหมืินทหารเกณฑ์ไม่ใช่ลูกเสือ ผมเป็นคนทนกับความลำบากไม่ได้ เช่นกินข้าวต้องมีคัดฉากพร้อมเพรียง มุดโต๊ะให้ไวหากคัดฉากไม่พร้อม ครูฝึกจะสั่งตะคอกสั่งวนไปวนมาแล้วแต่ความพึงพอใจ เคยมีเพื่อนกระแหนะกระแหนว่าผมมันลูกผู้ดีเลยไม่เคยอยู่กับความลำบาก ผมอยากจะบอกว่าถ้าลำบากแล้วไม่ได้ประโยชน์ จะลำบากไปทำไม ความกดดันก็มีมาก มากเสียยิ่งกว่าไปเขาชนไก่ด้วยซ้ำ หรือคงเป็นเพราะผมยังเด็ก ยังไม่เคยประสบพบเจออะไรแบบนี้ จึงรู้สึกว่ามันหนักอึ้ง ต่างจากเขาชนไก่สมัยที่ผมอายุ 17-18 ปี มันเหมือนว่าผมเคยเจอหนักกว่านี้มาแล้วเลยยอมรับมันได้
ก่อนจบชั้นประถมศึกษาผมมองว่าชีวิตที่ผ่านมาแบกรับความกดดันค่อนข้างมาก โดยเฉพาะผลการเรียนที่ทำให้แม่ผมทุกข์ใจอย่างมากกลัวว่าจะมีปัญหาเมื่อจะสมัครเรียนต่อชั้นมัธยมฯ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาผมก็เคยสมัครสอบเข้าศึกษาชั้นประถมฯในโรงเรียนชื่อดังไม่ได้มาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ครั้งนั้นพ่อแม่ผมมองว่าผมยังเด็กมากจึงไม่ได้ถือโทษแต่อย่างใด
ผมจำได้ว่าผมจะมีความสุขเป็นอย่างมากเมื่อได้เพลิดเพลินไปกับโปเกมอนและการท่องเที่ยว แต่เรื่องเรียนมันทำให้ผมรู้สึกไร้ค่า เมื่อผมทำได้ดีผมถึงจะเป็นที่ยอมรับ แต่ก็ทำได้น้อยครั้งนักคงเป็นเพราะฟลุ๊คมากกว่า ส่วนมากผมทำได้แค่เกาะกลุ่มเท่านั้น แม้จะเรียนพิเศษแล้วยังไม่ช่วยให้ผมเข้าใจมากขึ้น หนำซ้ำผมกลับเกลียดการเรียนมากขึ้นไปอีก
ผมเปลี่ยนตัวเองพยายามอย่างถึงที่สุดกับเรื่องเรียนแม้ว่ามันจะฝืนใจแค่ไหนก็ตาม เพราะไม่อยากให้ที่บ้านผิดหวังในตัวผมมากไปกว่านี้ นั่นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมเป็นคนมีบุคลิกภาพตึงเครียดแทบจะตลอดเวลา โชคดีที่ในที่สุดผมก็สอบเข้าโรงเรียนมัธยมฯแห่งหนึ่งได้สำเร็จ แม้จะไม่ใช่โรงเรียนที่มีชื่อเสียงก็ตาม
ทายนิสัย ความ Introvert โลกส่วนตัวสูง ของคนแต่ละราศี ตอนที่ 2 ราศีกรกฎ – ราศีธนู
🔮คุณเกิดวันไหน? มาทายนิสัย เปิดดวง ความรัก การเงิน ครบทั้ง 7 วันเกิด
สิบเลขขายดีแม่จำเนียร งวด 16/11/68
Maddiction เสwติดความเกรี้ยวกราด หากรู้สึกว่ามีใครทำอะไรไม่เข้าท่า จะพุ่งโจมตีไปที่คนนั้น ทำเพื่อความถูกต้อง สามารถทำได้โดยชอบทำ
ภัยสุขภาพยังไม่หยุด! ฝุ่น PM2.5 พุ่งต่อเนื่องทั่วประเทศ แนะติดตั้งแอปฯ ตรวจสอบก่อนออกจากบ้าน
หวิดสิ้นชื่อ!ฝ่ายปกครองอำเภอปากพนัง บุกจับเอเย่นต์ ทิ้งยาบ้า กระโดดน้ำคลำใต้ถุนบ้าน
ศิลปินแอบนำภาพจาก AI ไปแขวนในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ
สนธิญา ร้องกองปราบฯ ตรวจสอบเพจ “โอ๊ค พานทองแท้” เหตุโพสต์ลักษณะหมิ่นฯ ซ้ำ หลังเคยถอนฟ้องไปแล้ว
กล้องชัด!ตำรวจไล่จับระทึก ไอ้มด ขาใหญ่ยานรก ซิ่ง จยย.หนี
ช็อกโกแลตร้อน: จากเครื่องดื่มโบราณสู่สุนทรียภาพแห่งรสชาติที่หลากหลาย
ลุงวัย 60 พูดเป็นลาง " ดักปลาไหลครั้งสุดท้าย " เจอเป็นศพจมน้ำ
กลาโหมจีนประกาศลั่น "ญี่ปุ่นจะแพ้ราบคาบหากจะมาสู้กับจีน"
ทหารกัมพูชาท้าชน – โพสต์โชว์เสื้อยันต์ “เกราะเพชร” ลั่นไม่กลัว “เสียม” พร้อมสู้ทุกสถานการณ์
กลาโหมจีนประกาศลั่น "ญี่ปุ่นจะแพ้ราบคาบหากจะมาสู้กับจีน"
ภัยสุขภาพยังไม่หยุด! ฝุ่น PM2.5 พุ่งต่อเนื่องทั่วประเทศ แนะติดตั้งแอปฯ ตรวจสอบก่อนออกจากบ้าน
หวิดสิ้นชื่อ!ฝ่ายปกครองอำเภอปากพนัง บุกจับเอเย่นต์ ทิ้งยาบ้า กระโดดน้ำคลำใต้ถุนบ้าน
เหนื่อยจนท้อ เป็นสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังเข้าสู่ภาวะหมดไฟในการทำงาน
ตลาดน้ำดำเนินฯ วิถีชาวบ้าน หรือ แหล่งทท.พรีเมี่ยม??
ข่าวดี! พลังศรัทธาสู่ประติมากรรมระดับประเทศ!กับ VarietyYo Art Show
‘ทฤษฎีเจอกันในฝัน’ Lucid Dream รู้ตัวว่ากำลังฝัน และ ควบคุมเหตุการณ์ในความฝันได้ สามารถสร้างสถานการณ์ต่าง ๆ ตามที่ต้องการทำให้ ‘การเจอกันในฝัน’ เป็นไปได้ในเชิงของความรู้สึก