“สมี” คำนี้มีความหมายว่าอย่างไร
ช่วงเวลานี้ ผู้ที่ตกเป็นข่าวโด่งดังข้ามวันข้ามคืนและสามารถยึดครองพื้นที่สื่อได้มากที่สุด คงหนีไม่พ้นบุคคลที่สื่อเรียกว่า “ทิดจอร์จ” หรือ "สมีจอร์จ" อดีตพระนักพัฒนาผู้มีจิตอาสาชื่อดัง ในพื้นที่สื่อทั่วไปมักใช้คำว่า "สมีจอร์จ" แทนชื่อนายเกรียงไกร เพ็ชร์แก้ว หรือจอร์จ (ชื่อเล่น) เหตุหนึ่งคงเป็นเพราะว่า "สมีจอร์จ" เป็นคำที่สั้นเหมาะกับการเขียนการอ่าน
นอกจากนี้ยังเป็นคำที่กินความมาก สื่อแล้วคนทั่วไปเข้าใจได้ง่าย "สมีจอร์จ" แล้วคำว่า "สมี" ที่นำหน้านั้นมีความหมายว่าอย่างไร? วันนี้ผู้เขียนอาจจะไม่ได้ขอนำเสนอเรื่องราวของข่าวที่โด่งดังในช่วงนี้ แต่ขอนำเสนอเรื่องของคำว่า “สมี” นั้นมีความหมายว่าอย่างไร และทำไมเราถึงเรียกพระที่สึกด้วยเหตุการอะไรว่าสมี มาพอสังเขป
“สมี “(อ่านว่า สะ-หฺมี) เป็นคําเรียกพระภิกษุผู้ต้องอธิกรณ์ขั้นปาราชิก “เป็นบุคคลที่เป็นสมีจะบวชอีกไม่ได้ตลอดชีวิต” หรือทางโลกอาจกล่าวได้ว่า” สึกออกไปอย่างไม่สง่างามและมีมลทิน” (ในความเห็นของผู้เขียนนะครับ)
การอาบัติปาราชิกนั้น ได้มีบัญญัติไว้ว่า” เมื่อพระภิกษุอาบัติปาราชิกแล้ว ต้องขาดจากความเป็นพระภิกษุทันที แม้จะไม่ยอมสึกออกจากการเป็นพระภิกษุก็ตาม นอกจากนี้ ทางพระวินัยถือว่า พระภิกษุที่อาบัติปาราชิกแล้ว จะไม่สามารถทำกิจร่วมกับพระภิกษุอื่นได้ และไม่สามารถบวชเป็นพระได้อีกตลอดชีวิต”
ส่วนสาเหตุที่ส่งผลให้อาบัติปาราชิก มี 4 ข้อ ดังนี้
อาบัติข้อที่ 1. เสพเมถุน กรณีที่พระภิกษุเสพสังวาสกับสตรี หรือแม้แต่เดรัจฉานเพศเมีย ถือว่าขาดจากความเป็นพระภิกษุทันที แม้จะอยู่ในผ้าเหลืองหรือไม่ก็ตาม ถือว่าขาดจากการเป็นพระขณะที่สำเร็จกิจ
อาบัติข้อที่ 2. ลักขโมย เมื่อมีเจตนาลักขโมยของที่เจ้าของไม่ได้อนุญาตด้วยจิตที่จะลัก
อาบัติข้อที่ 3. ฆ่ามนุษย์ให้ตายด้วยตนเอง หรือใช้ให้คนอื่นฆ่า กรณีนี้ คือ พระภิกษุมีเจตนาตั้งใจที่จะฆ่าอยู่แล้ว เช่น คิดและมีการวางแผนฆ่าให้ตาย เมื่อไม่ตายก็พยายามแล้วพยายามอีกจนเสียชีวิต
อาบัติข้อที่ 4. พูดอวดคุณวิเศษ ในที่นี้หมายภูมิธรรม อาทิ ไม่ได้เป็นพระโสดาบัน แต่กลับอ้างตัวว่า บรรลุฌานสมาบัติ เป็นต้น
นอกจากนี้ “สมี” ในพจนานุกรมกรมเก่า ๆ ก็จะพบการให้ความหมายของ "สมี" ได้ดังนี้
สมี น. (1) (สะหฺมี) น. คำเรียกพระภิกษุผู้ต้องอธิกรณ์ขั้นปาราชิก (พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554)
สมี น. คำเรียกพระภิกษุผู้ต้องอธิกรณ์ขั้นปาราชิก (พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542)
สมี น. คำเรียกพระภิกษุผู้ต้องอธิกรณ์ชั้นปาราชิก (พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525)
สมี เป็นคำใช้เรียกพระภิกษุ, ภายหลังให้เป็นคำเรียกพระภิกษุผู้ต้องอธิกรณ์ (พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2473)
สมี น. เป็นคำเรียกพระภิกษุผู้ต้องคดี (ปทานุกรม กรมตำรา กระทรวงธรรมการ 2470)
จากความหมายข้างต้นจะเห็นได้ว่าความหมายแรก "คำเรียกพระภิกษุผู้ต้องอธิกรณ์ขั้นปาราชิก" จะตรงกับความหมายที่เราใช้เรียก "สมี" กันในปัจจุบัน เป็นคำที่ใช้เรียกพระภิกษุทั่วไปเท่านั้น
ดังนั้นหมายความว่าในอดีต "สมี" เป็นคำที่ใช้เรียกพระภิกษุ เช่น สมีแก้ว สมีคำ สมีคง ส่วน "สมี" ที่มีความหมายถึงพระภิกษุผู้ต้องอธิกรณ์ขั้นปาราชิก คงเกิดขึ้นในสมัยหลัง แต่จะเป็นสมัยใดก็ไม่อาจทราบได้
แต่หากอ้างอิงในปทานุกรม ปี 2470 ได้ให้ความหมายของ “สมี” ว่าเป็นคำเรียกพระภิกษุผู้ต้องคดี ในขณะที่พจานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2473 ได้ให้ความหมายแรกว่าเป็นคำที่ใช้เรียกพระภิกษุ และบอกว่าภายหลังใช้เรียกพระภิกษุผู้ต้องอธิกรณ์ ส่วนในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้ความหมายแรกว่าเป็นคำเรียกพระภิกษุผู้ต้องอธิกรณ์ขั้นปาราชิก และเป็นคำที่ใช้เรียกพระภิกษุ (โบ) สำหรับพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ได้ให้ความหมายเหมือนกับฉบับ พ.ศ. 2525
ดังนั้นความหมายของ “สมี” ที่หมายถึงพระภิกษุผู้ต้องอธิกรณ์มีใช้กันมาตั้งแต่ พ.ศ. 2470 มาแล้ว แต่เมื่อลองค้นคำในหนังสือ "รัตนมาลา" พจนานุกรมแสดงความหมาย “สมี” และที่มาของ โบราณิกศัพท์ ได้ให้ความหมายและที่มาของศัพท์ดังนี้
สมี (น.) คำเรียกพระภิกษุทั่วไป ปัจจุบันใช้เรียกพระภิกษุผู้ต้องอธิกรณ์ขั้นปาราชิก
"พระสมีทรงคัมภีร์ให้แบกนำ" ปาจิต น.1448
"นิมนต์สมีขรัวส้มท่านสมภาร" ขุนช้าง เสภา ต.40 น.
"จะกล่าวถึงสมีเพชรกับเณรบัว" ขุนช้าง เสภา ต.48 น.101
จะเห็นได้ว่า "รัตนมาลา" ได้ให้ความหมายเหมือนกับพจนานุกรมฉบับปัจจุบัน แต่ตัวอย่างที่แสดงที่มาของศัพท์ในวรรณคดีนั้น เมื่อพิจารณาแล้ว คำว่า “สมี” ในที่นี้น่าจะมีความหมายไปในเชิงเรียกพระภิกษุทั่วไปมากกว่า
*****************
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
ทายนิสัยจากอาการตอนเมา บ่งบอกตัวตนที่แท้จริง ใครเป็นสายไหนบ้าง มาดู!
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
บุกจับเซียนพระลูกผู้ใหญ่บ้าน ยิงกลางร้านอาหารนครปฐม เสียชีวิต 2 เจ็บ 3
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอม
อัลปากา VS อัลปากา: พลังศักดิ์สิทธิ์จากสัตว์แห่งอินคา สู่โลหะมงคลในวงการพระเครื่องไทย
ถอดรหัสเสน่ห์ร้ายของยอดนักรัก! ทายนิสัยความเป็น "คาสโนว่าและคลาสโนวี่" ตามเดือนเกิด พร้อมส่องพฤติกรรมการแสดงออก
เปิดตำนาน "ฮัตเชปซุต" ฟาโรห์หญิงผู้ต้อง "สวมเครา" ท้าทายกฎบุรุษ จนถูกลบชื่อนาน 3,500 ปี!
บัวน่าปลูก...สายมูต้องห้ามพลาด! เสริมมงคลให้ชีวิตรุ่งเรือง


