หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ลงทุนให้ถูกทาง / Asset Class

เนื้อหาโดย machete007

 

การจัดพอร์ตลงทุนของผมจะไม่ให้น้ำหนักกับหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง ผมจะเน้นการกระจายความเสี่ยงไว้ก่อน แต่ผมก็ไม่มีหุ้นฟุ่มเฟือยมากนัก บางตำราเขียนไว้ว่า ต้องลงทุนในหุ้น 50 ตัว แต่พอร์ตของผมไม่ถึงขนาดนั้น

 

ผมจะลงทุนเพียงครั้งละ 10 ตัวเท่านั้น เพื่อที่จะเฝ้าดูหุ้นได้ทัน ที่สำคัญถ้าหากเกิดเหตุเสียหายขึ้นกับหุ้นที่ผมลงทุนก็จะไม่กระทบไปทั้งพอร์ต หุ้นที่ลงทุนทั้ง 10 ตัวนี้ ผมก็จะไม่ได้ลงทุนในสัดส่วนที่เท่ากัน

 

ถ้าหากผมเจอหุ้นตัวหนึ่งที่ราคาถูกและพื้นฐานดีมาก ผมก็อาจจะลงทุนในสัดส่วนที่สูงกว่าตัวอื่น หรืออาจจะลงทุนในหุ้นที่ผมให้ความมั่นใจในสัดส่วนที่สูงกว่าตัวอื่น ทั้งนี้ ถ้าหากมั่นใจมากๆ ผมอาจจะลงทุนหุ้นครั้งละ 15 ตัวเลยก็ได้ (ฮา..)

 

แต่ไม่ควรจะมากกว่านั้นแล้วนะ เพราะว่าเราจะวิเคราะห์ไม่ทัน นอกจากนี้ ผมจะไม่ลงทุนเจาะจงลงไปเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมเดียว จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องกระจายการลงทุนออกไปในหลากหลายอุตสาหกรรม สักประมาณ 3-4 อุตสาหกรรมก็จะดีกว่า ด้วยจะเป็นการดีกว่าที่เราลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวที่จะมีความเสี่ยงมาก

 

ข้อดีของการกระจายพอร์ตลงทุน ถ้าหากเกิดความเสียหายก็จะน้อย และถ้าแจ็กพอต!! หุ้นที่เราลงทุนอยู่ 1-2 ตัวจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีก็จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับพอร์ตของเราได้ เช่น ถ้าเราลงทุนหุ้น 10 ตัว และได้ผลตอบแทนหุ้นละ 10% ผลตอบแทนที่เราได้จะอยู่ที่ 10% แต่ถ้าโชคดีหุ้นที่เราถืออยู่ 2 ตัว เกิดสร้างผลตอบแทนได้ 50% เท่ากับว่าพอร์ตของเราจะสามารถสร้างผลตอบแทนรวมได้ถึง 18%

 

วิธีการกระจายการลงทุนแบบนี้ยังช่วยให้เราสามารถควบคุมความเสี่ยงได้ว่า ต้องลงทุนหุ้นให้ถูกกี่ตัว ถ้าเราลงหุ้นเพียงไม่กี่ตัว เช่น 3 ตัว เหมือนเป็นการบังคับว่าเราจะต้องเลือกหุ้นให้ถูกทั้งหมดนะ แต่ถ้ามีหุ้นอยู่จำนวนหนึ่งที่ไม่มากเกินไปจะช่วยลดความกดดันลงไปได้ว่าต้องเลือกให้ถูกทั้งหมด บางปีอาจจะมีหุ้น 2 ตัวที่แจ็กพอต ลงทุนถูกตัว แต่ปีต่อไปหุ้นอาจจะลงก็ได้ และอาจจะมี 2 ตัวใหม่ที่ราคาหุ้นขึ้นมาแทน

 

กรณีที่หุ้นลงทั้งหมดในช่วงที่เศรษฐกิจแย่ๆ ถ้าเราลงในหุ้นน้อยตัวมีความเสี่ยงที่หุ้นตัวนั้นอาจจะลงมากกว่าตลาดก็ได้ แต่ถ้าลงหุ้นในจำนวนที่เหมาะสม พอร์ตของเราอาจจะปรับลดลงในระดับเดียวกันหรือน้อยกว่าตลาดได้ เพียงแค่ตัวเลขผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นเพียงเปอร์เซ็นต์เดียวมันส่งผลต่อเงินในพอร์ตของเราระยะยาวได้ นี่คือเหตุผลที่ต้องกระจายความเสี่ยงในหุ้น

 

เรื่องของสินทรัพย์การลงทุนสำหรับผู้ที่ลงทุนหุ้นคุณค่า (Value Investor) หรือ วีไอ ต้องเริ่มจากรู้จักตัวเองก่อนว่ารับ “ความเสี่ยง” ได้แค่ไหน

 

การเป็นวีไอ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องลงทุนหุ้นทั้ง 100% ของพอร์ต ขอให้รู้จักตัวเองว่ารับความเสี่ยงได้แค่ไหนและลงทุนในสัดส่วนที่ยอมรับได้ ถ้าคุณคิดว่ารับความเสี่ยงได้เต็มที่ แม้แต่หุ้นที่เราถืออยู่ติดลบไปกว่า 50% ก็ทำใจได้ แบบนี้ลงหุ้นได้เต็มที่ไปเลย ผมยังเชื่อว่าหุ้นเป็นอะไรที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนสูงสุดอยู่แม้ระหว่างทางอาจจะมีความผันผวน

 

แต่ถ้าคุณคิดว่ารับความเสี่ยงจากการขาดทุนได้เพียง 20% แบบนี้ต้องลงทุนในหุ้นในสัดส่วนที่น้อยลง เพราะโดยเฉลี่ยแล้วในหนึ่งปีตลาดหุ้นอาจจะลดลงได้ 20% เป็นปกติ แต่กรณีที่เลวร้ายที่สุด หุ้นเคยลงมา 50% ในหนึ่งปีก็มีมาแล้ว ถ้าเหตุการณ์เป็นเช่นนั้นคุณตายแน่! บางคนผมเห็นขาดทุน 5% ก็จะตายแล้ว ดังนั้น ควรลงทุนหุ้นในสัดส่วนที่รับความเสี่ยงได้ สักประมาณ 20% ของพอร์ต ที่เหลือก็ไปลงทุนพวกตราสารหนี้หรือกองทุนตราสารเงินดีกว่า

 

ตัวผมไม่ปฏิเสธที่จะลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่ไม่ใช่หุ้น เพียงแต่ต้องรู้จักสินทรัพย์การลงทุน (Asset Class) นั้นๆ ให้ถ่องแท้ก่อนลงทุนเสมอ แต่แน่นอนว่า คนที่เป็นวีไอ จะไม่ชอบลงทุนในพวกสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ ทองคำ น้ำมัน คืออะไรก็ได้ที่ไม่สร้างผลตอบแทนในภาวะที่ทุกอย่างแย่หมด อย่างเช่น หุ้น แม้ในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ก็ยังมีการจ่ายเงินปันผล

แต่พวกสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้ เวลาตลาดหุ้นร่วงคือร่วงทั้งหมด เวลาที่ตลาดหุ้นขึ้นก็ไม่มีปันผลให้เรานะ ผมคิดว่าเป็นเพียงแค่สินทรัพย์ที่ถูกตั้งขึ้นมาให้ซื้อขายกัน ส่วนตราสารทางการเงิน (Financial Instruments) อาทิ ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrants), สัญญาออปชั่น (Options) วีไอก็ไม่ชอบ ต้องดูด้วยว่าตราสารการเงินเหล่านี้สามารถให้ผลตอบแทนในระยะยาวได้ไหม นอกจากมีวันหมดอายุแล้ว ยังไม่ได้ให้กระแสเงินสดกลับมาอีกด้วย อย่างเช่น เวลาที่ลงทุนทองคำ ผมไม่รู้ว่าจะประเมินมูลค่าของมันอย่างไร

 

นอกจากหุ้นแล้ว ผมก็มีแค่ตราสารหนี้ กองทุนตลาดเงินแค่นั้น อย่างตราสารหนี้ระดับ AAA แม้ตอนที่เศรษฐกิจแย่ๆ ก็ยังได้ดอกเบี้ย 2-3% สัดส่วนการลงทุนผมก็ไม่มีสูตรสำเร็จ คงต้องย้อนกลับไปว่า คุณสามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน

เนื้อหาโดย: machete007
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
machete007's profile


โพสท์โดย: machete007
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่าชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีนเปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหมชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทยแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการีพบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯแบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทยพบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอม
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ตุ๋นลงทุนทิพย์: ไว้ใจ เชื่อใจ หรือเกรงใจ… สุดท้ายใครคือเหยื่อ?รอบ 3 อาการ 12: หัวใจแห่งการตื่นรู้สำหรับชีวิตประจำวัน (เอไอ รวบรวมและเรียบเรียง)เลิกกัน แต่ปล่อยคลิปลับ — คนแบบนี้ยังมีอยู่ในโลกได้ยังไง?7 อันดับสารพิษตัวร้าย : อยู่ให้ไกล ระวังให้ดี เพราะโลกนี้ไม่ได้อ่อนโยนกับเราเสมอไป
ตั้งกระทู้ใหม่