วิกฤตน้ำซ่อนใต้ทะเลทราย ซาอุฯ ขุดแหล่งน้ำโบราณเลี้ยงปากท้อง แต่อนาคตดับฝันเมื่อทรัพยากรใกล้หมด
ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ซาอุดีอาระเบียได้ขุดหาแหล่งทรัพยากรที่มีค่ามากกว่าน้ำมัน นั่นคือ "น้ำ" วิศวกรและเกษตรกรต่างพากันเจาะหาแหล่งน้ำซ่อนใต้ผืนทราย เพื่อปลูกข้าว ผลไม้ และผักกลางทะเลทรายที่แห้งแล้ง ภาพถ่ายดาวเทียมจากปี 1987, 1991, 2000 และ 2012 บริเวณแอ่งน้ำวาดี อัส-ซีร์ฮาน แสดงให้เห็นวิวัฒนาการของพื้นที่เกษตรกรรมที่ขยายตัวขึ้นอย่างชัดเจน
ในดินแดนที่ไม่มีแม่น้ำ ทะเลสาบ หรือแม้แต่พื้นที่สีเขียวชอุ่ม เพราะปริมาณฝนแทบเป็นศูนย์ ชาวซาอุฯ ต้องพึ่งพาโอเอซิสและโรงกลั่นน้ำทะเลเพื่อดำรงชีวิตมาหลายศตวรรษ แต่เมื่อไม่นานมานี้ ความพยายามของรัฐบาลได้เปลี่ยนโฉมทะเลทราย และสร้างความต้องการน้ำปริมาณมหาศาล
เมื่อมองจากฟ้า พื้นที่เกษตรกรรมสีเขียวขจีตัดกับผืนทรายสีทองอย่างชัดเจน ความเขียวขจีเหล่านี้เกิดขึ้นได้ด้วยระบบชลประทาน ขณะที่โรงเลี้ยงวัวนมขนาดยักษ์ซึ่งต้องใช้น้ำจำนวนมากเพื่อการบริโภคและควบคุมอุณหภูมิ ก็ตั้งตระหง่านอยู่ไม่ไกล
น้ำที่สร้างความอัศจรรย์กลางทะเลทรายนี้ ถูกสูบมาจากชั้นหินอุ้มน้ำโบราณที่สะสมมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรซาอุฯ มีสภาพอากาศชื้นกว่าเดิมมาก แหล่งน้ำสุดแปลกตาเหล่านี้ทำให้ชาติทะเลทรายมีความหวังที่จะพึ่งพาตนเองด้านอาหาร แทนที่จะนำเข้าจากต่างประเทศเหมือนในอดีต
แต่ความหวังนี้อาจอยู่ได้ไม่นาน นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าแหล่งน้ำโบราณกำลังจะหมดลงในไม่ช้า ความฝันที่จะเปลี่ยนทะเลทรายเป็นสวนสวรรค์กำลังเผชิญวิกฤต เมื่อทรัพยากรอันมีค่ากำลังจะเหือดแห้งไปพร้อมกับความหวังของชาติ
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของซาอุดีอาระเบีย แต่เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับทั่วโลก ในการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน เพราะเมื่อแหล่งน้ำโบราณหมดลง การฟื้นฟูอาจเป็นไปไม่ได้อีกเลย ทะเลทรายที่เคยเขียวชอุ่มอาจกลับสู่สภาพเดิม ในขณะที่ประชากรและสัตว์เลี้ยงนับล้านต้องเผชิญชะตากรรมที่ไม่แน่นอน


















