เที่ยวย่างกุ้ง แวะชมชเวดากอง พม่า
รีวิวนี้เป็นรีวิวการเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆบ้านเรา นั่นคือ ประเทศพม่า
หลายๆคนอาจจะชอบถามว่า ไปพม่า ไปทำอะไร มีอะไรเที่ยว น่าไปตรงไหน แต่รีวิวนี้เราอยากให้หลายๆคนเปลี่ยนความคิดและมุมมอง ว่า พม่านี่แหละ เที่ยวโคตรสนุกเลย อาจจะเขียนยาวหน่อย เพราะรายละเอียดอยากให้คนที่มีงบน้อยๆ ได้เที่ยวตามกันจริงๆ
ไปครั้งนี้ถือว่าเป็นการหารายละเอียดของเราน้อยมาก เรียกได้ว่า ไปแบบไม่ค่อยมีรายละเอียดอะไรเลย
บินตรงสู่ย่างกุ้ง ประมาณ 1 ชั่วโมง ไฟล์ 7.15-8.00 น. เวลาที่ประเทศพม่าจะช้ากว่าบ้านเรา 30 นาที (อย่าลืมตั้งเวลา Time zone )
ตั๋วเครื่องบินขาไป ดอนเมือง-ย่างกุ้ง 1739 บาท
ตั๋วเครื่องบินขากลับ ย่างกุ้ง-ดอนเมือง 1939 บาท
บิน 1 ชั่วโมงก็ถึง สนามบินย่างกุ้ง จัดการแลกเงิน เราแลกเงินดอลล่าห์ไป แล้วเอาไปแลกเงินจั๊ต หรือสามารถแลกเงินไทยเป็นเงินจั๊ตได้เลย แต่ต้องเป็นแบงค์ใหญ่ๆ เช่น 1000 ส่วนการแลกเงินดอลล่าห์ การไปพม่า ต้องเป็นแบงค์ใหม่ๆ ห้ามยับได้ยิ่งดี ห้ามมีรอยขีดเขียน
แลกเงินไทยประมาณ 5000 บาท โดยแลกเป็นเงินดอลล่าห์ ประมาณ 130 ดอลล่าห์ ได้เงินจั๊ต 190,000 จั๊ต ส่วนเงินดอลล่าห์ประมาณ 30 ดอลล่าห์เอาไว้จ่ายค่าที่พัก
หลังจากจัดการแลกเงินเสร็จ ก็จัดการซื้อซิม เราเลือกเครือข่าย ของค่าย oredoo ในราคา 6500 จั๊ต เน็ต 5 GB ใช้ได้ 7 วัน ส่วนเพื่อนเราซื้อซิมของ AIS sim 2 fly จากบ้านเรา ก็ใช้ได้เหมือนกัน เน็ตเร็วไม่มีปัญหา
จัดการแลกเงินและซื้อซิมเรียบร้อย ก็จะเจอคนขับรถแท็กซี่มากหน้าหลายตาเข้ามาทักทาย Taxi Taxi เราอย่าสนใจค่ะ แต่ถ้าใครอยากนั่งก็ต่อรองราคาได้เลย เราไม่ได้ถามราคา Taxi เพราะเราตั้งใจจะไปขึ้น Airport bus เข้าตัวเมืองย่างกุ้ง
เดินออกจากสนามบินทางออก 3 เดินข้ามถนนไป จะเจอ รถบัส เข้าตัวเมือง ในราคาคนละ 500 จั๊ต หรือคิดเป็นเงินไทยบ้านเรา ประมาณ 11 บาท
การขึ้นรถบัสในพม่า จะมีกล่องหยอดเงินข้างหน้าทางขึ้น ฉะนั้น เตรียมเงินแบงค์น้อยให้พอดีกับค่ารถเมล์ แล้วขึ้นไปเลือกที่นั่งได้เลย รับรองแอร์เย็นกว่ารถเมล์บ้านเรา สังเกตรถดีๆนะคะ ด้านหน้าจะเขียนว่า Airport-Sule ก่อนขึ้นก็ถามคนขับอีกรอบเพื่อความแน่ใจ
นั่งรถจากสนามบินเข้าตัวเมืองใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเพราะค่อนข้างไกล และที่พม่ารถติดเป็นกิจวัตรประจำวัน เวลาจะไปที่ไหน เผื่อเวลากันอย่างน้อยประมาณ 2 ชั่วโมงนะคะ
เรานั่งรถบัสจากสนามบินมาลง ป้าย sule pagoda แล้วเที่ยวรอบๆในตัวเมืองย่างกุ้ง โดยนั่งรถแท็กซี่ ไปสถานที่ต่างๆ ป้ายรถเมล์จะอยู่หน้าห้าง sule squre เดินย้อนกลับมาแล้วเลี้ยวซ้ายจะเจอกับร้าน KFC และเดินไปอีกหน่อย จะเป็นห้าง Junction city คล้ายๆสยามบ้านเรา ตรงข้าม ห้าง Jungtion city จะเป็นตลาดสก็อต
เราแบกกระเป๋าไปฝากไว้กับโรงแรมที่เพื่อนจองที่แถวๆเจดีย์ Sule แล้วมานั่งรถ Taxi เที่ยวรอบๆเมืองย่างกุ้ง ที่แรกที่เราไปคือ เจดีย์โบตาทาวน์ ไปไหว้เทพทันใจนัตโบโบยี องค์ที่คนไทยนิยมไปไหว้มากที่สุด
เจดีย์โบตาทาวน์ เสียค่าเข้า คนละ 6000 จั๊ต เจดีย์โบตะตาว ไม่ได้มีเพียงแต่เทพทันใจ เท่านั้น แต่ยังมี “เทพกระซิบ หรือ เมี๊ยะนานหน่วย” ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเจดีย์ มีนัตองค์หนึ่งกล่าวไว้ว่า เทพกระซิบเป็นธิดาของพญานาคที่มีความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เชื่อว่าถ้ากระซิบขออะไรแล้วจะสมหวังอีกด้วย
หลังจากเดินรอบๆ บ่ายๆเกือบเย็น เราเลยนั่งรถเมล์ไป เจดีย์เชวดากอง ขึ้นฝั่งเจดีย์สุเล รถเมล์ สาย 36, 47 , 12 หรือ Airport bus ก็ผ่าน บอกคนขับว่า Shwedagon Pagoda คนขับพยักหน้าก็ขึ้นได้เลย พอถึงตอนลง เค้าจะสะกิดเรียกเรา ค่ารถเมล์คนละ 200 จั๊ต
นั่งรถจากเจดีย์สุเลประมาณ 30 นาที รถเมล์จะจอดตรงสะพานลอย ให้เราข้ามฝั่งสะพานลอยมา เดินย้อนกลับไปตามซอย จะเจอทางเข้าเจดีย์เชวดากอง แต่แอบเดินไกลหน่อย
การไปย่างกุ้งครั้งนี้เราตั้งใจไปกราบไหว้เจดีย์เชวดากอง แล้วก็เป็นดังตั้งใจ เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับแรกที่นักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางไปพม่าจะต้องเข้าไปเยี่ยมชมและสักการะ
เสียค่าเข้าชมคนละ 10000 จั๊ต
ผู้หญิงและผู้ชายควรแต่งกายให้สุภาพ ถ้าการแต่งกายไม่เหมาะสม เจ้าหน้าที่จะมีผ้าถุงให้เราเช่า ผืนละ 3000 จั๊ต มัดจำไว้ พอเอาผ้าถุงมาคืนก็ได้เงินคืน
หลังจากกราบไหว้เจดีย์เชวดากองเสร็จ ที่ขาดไม่ได้ที่ต้องทำอีกอย่างคือ สรงน้ำพระประจำวันเกิด ซึ่งจะอยู่รอบเจดีย์ การสรงน้ำจะต้องสรงมากกว่าอายุตัวเอง 1 ขัน บอกได้เลยว่า เมื่อยแขน
เราอยู่ที่เจดีย์เชวดากองจนกระทั่งตะวันตกดิน พอได้เห็นแสงเจดีย์กระทบกับสปอร์ตไลค์ แสงเหลืองอร่าม สวยมาก คุ้มค่าแก่การมาเยือนจริงๆ















