หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เปรียบเทียบต้นทุน การขุดทองคำ VS บิตคอยน์

เนื้อหาโดย machete007

 

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งทองคำและคริปโทเคอร์เรนซี โดยเฉพาะบิตคอยน์ ที่ใครหลายคนนิยามว่าเป็นทองคำดิจิทัล ได้กลายมาเป็นหนึ่งในตัวเลือกการลงทุนของใครหลายคน

หากเรามาดูมูลค่าทองคำ แร่ต่าง ๆ และคริปโทเคอร์เรนซี

 

ทองคำ 374 ล้านล้านบาท

เงิน 44 ล้านล้านบาท

บิตคอยน์ 29 ล้านล้านบาท

แพลเลเดียม 14 ล้านล้านบาท

อีเทอเรียม 12 ล้านล้านบาท

 

จะเห็นได้ว่าคริปโทเคอร์เรนซี มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมูลค่าที่เราเห็นนั้น นอกจากจะเป็นผลมาจากความต้องการซื้อและความต้องการขายของตลาดแล้ว ส่วนหนึ่งยังมาจาก “ต้นทุน” ในการผลิต ซึ่งสำหรับทองคำและบิตคอยน์ ถูกเรียกเหมือนกันว่าการขุด ต่างกันตรงที่เราจะขุดทองคำในโลกจริง แต่ขุดบิตคอยน์ในโลกเสมือน

 

แล้วเราเคยสงสัยไหมว่า ต้นทุนในการผลิตทองคำและบิตคอยน์

ประกอบไปด้วยอะไรบ้างและต่างกันอย่างไร ?

 

เริ่มกันที่ต้นทุนในการผลิตทองคำ

 

สำหรับทองคำ เราจะมีศัพท์เฉพาะในอุตสาหกรรมนี้ เรียกว่า “All-In Sustaining Cost”

 

All-In Sustaining Cost หมายถึง ต้นทุนในการผลิตทองคำเพื่อความยั่งยืน ซึ่งจะเป็นการประเมินต้นทุนสำหรับผู้ผลิตทองคำแต่ละรายว่าจะยังคงมีกำไรและมีความสามารถในการผลิตทองคำต่อไปได้หรือไม่ในอนาคต

 

โดย All-In Sustaining Cost จะประกอบไปด้วยค่าใช้จ่ายทุกอย่างของบริษัทที่ใช้ไปในกิจการเหมืองขุด รวมถึงกระบวนการแปรรูปทองคำ

 

เช่น ค่าแรงงานและพลังงาน ค่าขนส่ง ค่าสัมปทาน ค่าสำรวจ ค่าอุปกรณ์ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับอาคารสำนักงาน

 

หากอ้างอิงจากต้นทุนของเหมืองทอง Polyus ในประเทศรัสเซีย ซึ่งมีต้นทุนในการผลิตทองคำ ถูกที่สุดในโลก จะมี All-In Sustaining Cost ต่อหน่วยประมาณ 604 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์

 

ในขณะที่ราคาทองคำ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ เท่ากับว่าต้นทุนในการผลิตทองคำที่ถูกที่สุดในโลก จะคิดเป็นสัดส่วนราว 34% ของมูลค่าทองคำที่ซื้อขายกันในตลาด ณ ตอนนี้

 

ในขณะที่ต้นทุนในการขุดของบิตคอยน์นั้น จะไม่ได้มีมาตรฐานการหาต้นทุนแบบทองคำ

แต่หลัก ๆ ต้นทุนของการขุดบิตคอยน์ ก็จะมาจาก

 

  1. อุปกรณ์ที่ใช้ในการขุดซึ่งที่นิยมใช้มีทั้งการใช้การ์ดจอหรือการใช้เครื่องขุดโดยเฉพาะ

ที่เรียกว่า Application-Specific Integrated Circuit หรือ ASIC

 

  1. พลังงานที่ใช้ในการขุด หรือก็คือพลังงานไฟฟ้า

 

สำหรับคำศัพท์เฉพาะของวงการขุดบิตคอยน์ ก็จะมีคำว่า “Hash Rate” หรือกำลังการคำนวณที่ผู้ขุดใช้เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของการทำธุรกิจบนบล็อกเชน ซึ่งก็ใช้วัดตั้งแต่ระดับอุปกรณ์ในการขุดและของทั้งระบบ

 

หาก Hash Rate ของอุปกรณ์ขุดเรายิ่งสูง ก็หมายความว่ากำลังในการขุดบิตคอยน์ของเราจะยิ่งมาก ซึ่งก็แปรผันกับกำลังไฟฟ้าที่เราใช้ก็จะมากขึ้นตาม นั่นหมายถึงต้นทุนของเราก็จะเพิ่มขึ้น ตามไปด้วย

 

ซึ่งเราก็ต้องมาดูต่อว่ากำลังในการผลิต ค่าไฟฟ้าที่เราใช้ เมื่อเทียบกับอายุการใช้งานของเครื่องขุดเรา จะคุ้มกับมูลค่าของบิตคอยน์ ณ เวลานั้น ๆ หรือไม่ นั่นเอง

 

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ประเทศจีนนับเป็นประเทศแห่งการขุดบิตคอยน์ สะท้อนให้เห็นจากในปี 2019 ประเทศแห่งนี้ มีส่วนแบ่งการขุดบิตคอยน์มากถึง 75% ของการขุดทั่วโลก

 

แต่หลังจากที่รัฐบาลจีนมีนโยบายปราบปรามเหมืองขุดคริปโทเคอร์เรนซีทั่วประเทศ ก็ได้ทำให้บรรดาเหมืองขุด ต่างพากันเทขายอุปกรณ์ขุด ในขณะที่บางส่วนได้ย้ายฐานไปยังประเทศอื่น

 

ซึ่งประเทศสหรัฐอเมริกา นับเป็นฐานการขุดบิตคอยน์แห่งใหม่ที่กำลังเติบโต

 

ที่บอกแบบนี้ก็เพราะว่าส่วนแบ่งการขุดบิตคอยน์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

ในช่วงต้นปี 2020 ที่มีเพียง 5% ได้ขยับขึ้นมาเป็น 17% ในปี 2021

 

แต่จากการย้ายฐานการผลิตดังกล่าวก็ทำให้ต้นทุนรวมของการขุดบิตคอยน์สูงขึ้น จากต้นทุนค่าพลังงานที่แตกต่างไปจากเดิม ซึ่งสหรัฐอเมริกามีค่าไฟฟ้าประมาณ 0.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ในขณะที่จีนมีค่าไฟฟ้าเพียง 0.09 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง

 

ทีนี้ เราลองมาดูกันว่าต้นทุนในการขุดบิตคอยน์หนึ่งเหรียญ จะมีมูลค่าเท่าไร ?

 

จริง ๆ แล้ว การหาต้นทุนในการขุดบิตคอยน์นั้นทำได้ค่อนข้างยาก เพราะผู้ขุดแต่ละคน

ก็จะมีวิธีการจัดอุปกรณ์ขุดที่ต่างกันออกไป และส่วนใหญ่จะใช้เครื่องขุดเป็นจำนวนมาก

 

ในที่นี้ เราจึงนำสมมติฐานของ Miner Daily ที่ได้ระบุว่าโดยทั่วไป

เครื่องขุดบิตคอยน์ ASIC จะมีอายุการใช้งานราว 4 ปี

และหากเราใช้เครื่อง ASIC เครื่องเดียว ก็จะใช้เวลาขุด 4 ปี ถึงจะได้มา 1 บิตคอยน์

นั่นเท่ากับว่าเราสามารถนำมูลค่าเฉลี่ยของ ASIC มาบวกกับค่าไฟเพื่อเป็นต้นทุนได้

 

ซึ่งวิธีนี้ก็ถือเป็นเพียงตัวอย่างการคำนวณต้นทุน เพราะในทางปฏิบัติคงมีน้อยคนที่ใช้เครื่อง ASIC 1 เครื่องขุดบิตคอยน์เป็นเวลา 4 ปี

 

สำหรับค่าเฉลี่ยของเครื่องขุดที่ Miner Daily เฉลี่ยเอาไว้อยู่ที่ 7,946 ดอลลาร์สหรัฐต่อเครื่อง

ในขณะที่ค่าไฟตลอดระยะเวลาการขุดเพื่อให้ได้ 1 บิตคอยน์

 

ที่ 0.09 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ตามค่าไฟในประเทศจีน

ต้นทุนทั้งหมดจะอยู่ที่ 26,693 ดอลลาร์สหรัฐ

คิดเป็น 56% ของมูลค่าบิตคอยน์ (ให้ปัจจุบัน บิตคอยน์ 47,369 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญ)

 

ที่ 0.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ตามค่าไฟในประเทศสหรัฐอเมริกา

ต้นทุนทั้งหมดจะอยู่ที่ 39,191 ดอลลาร์สหรัฐ

คิดเป็นราว 83% ของมูลค่าบิตคอยน์ (ให้ปัจจุบัน บิตคอยน์ 47,369 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญ)

 

จากสมมติฐานดังกล่าว ก็จะเห็นได้ว่า ทั้งต้นทุนในการขุดทองคำจะถูกกว่าราคาตลาดอยู่พอสมควร

แต่สำหรับการขุดบิตคอยน์นั้น ต้นทุนจะมีความแตกต่างกันมาก ตามค่าไฟในแต่ละประเทศ

 

และ ณ ที่ต้นทุนดังกล่าว อาจใช้เป็นตัวชี้วัดในการหาระดับราคาที่จะลงได้ลึกที่สุดของบิตคอยน์และทองคำได้เช่นกัน เพราะด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้าราคาขายมันลงไปต่ำกว่าราคาต้นทุน ก็อาจทำให้คนเลิกขุด และเมื่อคนเลิกขุดก็จะทำให้ Supply ในตลาดลดลง และเมื่อ Supply น้อยกว่า Demand ก็จะส่งผลให้ราคาเพิ่มขึ้นในที่สุด

 

ถึงตรงนี้ เราก็คงจะพอเห็นภาพว่าทั้งการขุดทองคำและขุดบิตคอยน์ก็จะมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และแต่ละประเภท ก็มีความผันผวนและความเสี่ยงที่ไม่เหมือนกัน

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ทั้ง 2 สินทรัพย์ ยังมีจุดร่วมเดียวกันก็คือ “การมีอยู่อย่างจำกัด” ซึ่งก็ถือเป็นคุณสมบัติ ที่ทั้งนักลงทุนและใครหลายคน เชื่อมั่นว่าจะช่วยให้เรากักเก็บความมั่งคั่งเอาไว้ได้

 

ซึ่งบางที ความเชื่อของเราที่สร้างขึ้นมาเองนั้น อาจจะเป็นส่วนที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทั้งทองคำและบิตคอยน์ มากกว่าต้นทุนในการผลิต ก็เป็นได้..

เนื้อหาโดย: machete007
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
machete007's profile


โพสท์โดย: machete007
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: machete007
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ตำแหน่งที่สิวขึ้นบนใบหน้า บ่งบอกอะไรได้บ้าง"ฮุนเซน" ขู่ "ไทย" หากล้อมรั้วรอบปราสาทตาเมือนธม..จะเกิดสงครามแน่!ทหารไทย เหยียบ ระเบิดเก่าตกค้าง แท้จริงเป็น ทุ่นระเบิดที่วางใหม่คนขับรถเก๋งมักง่ายชอบแทรก เจอคนจริงด่าออกไมค์..อายจนต้องขับรถหนีทำความรู้จักกับ "ทุ่นระเบิด PMN2" ที่ทหารไทยเหยียบแฉหมดเปลือก! ชีวิต ‘สีกากอล์ฟ’ กับจำนวนลูกที่แท้จริงโค้กประกาศกลับมาใช้น้ำตาลอ้อย แทนน้ำเชื่อมข้าวโพดแล้วคนโสด เพื่อนโสด คือที่ปรึกษาหัวใจที่ดี ให้คำปรึกษาได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีแฟนเกิดเหตุไฟไหม้ห้างสรรพสินค้า ในอิรัก มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 รายชายถูกจับคาบ้านพัก หลังขโมยผีเสื้อ 6 ตัวจากสวนสัตว์ เพื่อนำกลับบ้านให้ลูกชายเด็ก 15 โดนจับ หลังใช้มีดแทงเพื่อนร่วมชั้น ที่โรงเรียนมาแล้ว! เลขเด็ด "เสือตกถังพลังเงินดี" งวดวันที่ 1 สิงหาคม 68..รีบส่องด่วน!!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
โค้กประกาศกลับมาใช้น้ำตาลอ้อย แทนน้ำเชื่อมข้าวโพดแล้วห้ามพลาด! 10 เหตุผลที่คนติดใจ "ช้อปออนไลน์" ข้อ 7 ทำคนไทยซื้อรัวๆจากนักเขียนสู่ปีศาจในชีวิตจริงบริษัทที่ใหญ่ที่สุด มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
5 ตึกระฟ้าที่สูงที่สุดของไทย ที่ตั้งอยู่นอกเขตเมืองกรุงเทพมหานครกาลิเลโอกาลิเลอีเผยเหตุผลที่เรือไม่มี "ไฟหน้า" เหมือนรถยนต์..แล้วมองเห็นทางได้ยังไง ?“ปิดทองหลังพระ” ทำดีโดยไม่หวังผลตอบแทน แนวคิดลึกซึ้งจากพ่อหลวง ร.9 ที่ยังคงงดงามในใจคนไทย
ตั้งกระทู้ใหม่