10 อันดับ "ความช่วยเหลือที่ประเทศไทยมีต่อกัมพูชา"
ตั้งแต่การรับผู้ลี้ภัย ไปจนถึงการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจและการสาธารณสุข โดยเน้นย้ำถึงผลกระทบเชิงบวกที่ไทยมีต่อเสถียรภาพและการพัฒนาของกัมพูชาในหลายมิติ
1. ค่ายผู้ลี้ภัย (พ.ศ. 2518-2522) ในช่วงที่เขมรแดงปกครองกัมพูชาและมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างโหดเหี้ยม ไทยได้ร่วมกับ UNHCR จัดตั้งค่ายผู้ลี้ภัยตามแนวชายแดน รองรับชาวกัมพูชากว่า 300,000 คน โดยให้ที่พัก อาหาร ยารักษาโรค และการศึกษา ช่วยเหลือพวกเขาให้รอดพ้นจากวิกฤต
2. ต่อต้านรัฐบาลใหม่ (พ.ศ. 2522) หลังเวียดนามเข้ายึดพนมเปญและจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในกัมพูชา ไทย จีน และสหรัฐอเมริกา ได้ร่วมกันสนับสนุนแนวร่วมต่อต้านเวียดนาม (รวมถึงเขมรแดงที่ผันตัวเป็นกองโจร) โดยอนุญาตให้ใช้พื้นที่ชายแดนเป็นฐานปฏิบัติการและเส้นทางลำเลียงอาวุธ ความช่วยเหลือนี้ยาวนานกว่า 10 ปี จนสามารถกดดันเวียดนามให้ถอนทหารออกไป ทำให้กัมพูชาไม่ตกเป็นรัฐบริวารถาวรของเวียดนาม
3. สันติภาพ (พ.ศ. 2528-2532) ไทยร่วมมือกับอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสันติภาพหลายครั้ง โดยเฉพาะที่กรุงปารีสในปี พ.ศ. 2534 ซึ่งนำไปสู่การลงนามในข้อตกลงปารีสเพื่อยุติสงครามกลางเมืองอย่างเป็นทางการ และปูทางไปสู่การเลือกตั้ง การสนับสนุนนี้ทำให้กัมพูชาได้รับการยอมรับจากนานาชาติมากขึ้น
4. สนับสนุนการเลือกตั้ง (พ.ศ. 2536) ไทยร่วมกับสหประชาชาติสนับสนุนการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยครั้งแรกของกัมพูชา โดยอนุญาตให้ใช้พื้นที่ชายแดนเป็นฐานปฏิบัติการ ช่วยฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ และดูแลความเรียบร้อย ทำให้การเลือกตั้งสำเร็จลุล่วงด้วยดีและเป็นก้าวสำคัญสู่ประชาธิปไตย
5. รัฐบาลยุคใหม่ (พ.ศ. 2540) หลังฮุนเซนทำรัฐประหารและยึดอำนาจ ไทยเป็นประเทศแรก ๆ ในอาเซียนที่ให้การยอมรับและสนับสนุนรัฐบาลของฮุนเซน นำไปสู่ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าชายแดน และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งช่วยให้การเมืองของกัมพูชามีเสถียรภาพและถ่วงดุลอิทธิพลจากเวียดนาม
6. เปิดรับแรงงาน (พ.ศ. 2540) ไทยเปิดรับแรงงานกัมพูชาหลายล้านคนเข้ามาทำงาน โดยเฉพาะในภาคเกษตรและก่อสร้าง ซึ่งช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานในไทย และแรงงานเหล่านี้ยังส่งเงินกลับประเทศจำนวนมหาศาล (เฉลี่ย 1,470 ล้านดอลลาร์ต่อปี) ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจกัมพูชาและลดปัญหาการว่างงาน
7. การลงทุน (พ.ศ. 2538-ปัจจุบัน) หลังการเมืองมีเสถียรภาพ ไทยเป็นชาติแรก ๆ ที่เข้าไปลงทุนในกัมพูชา โดยเน้นกลุ่มธุรกิจพลังงาน การผลิต การเกษตร และค้าปลีก มูลค่าการลงทุนสะสมกว่า 1,270 ล้านดอลลาร์ (พ.ศ. 2566) ทำให้เกิดการจ้างงานหลายหมื่นอัตราและกระตุ้นเศรษฐกิจกัมพูชา การลงทุนนี้ยังช่วยให้กัมพูชาลดการพึ่งพาจีนและเวียดนาม
8. เป็นสมาชิกอาเซียน (พ.ศ. 2542) แม้กัมพูชาจะเผชิญปัญหาความขัดแย้งภายในและการรัฐประหาร ทำให้ประเทศสมาชิกอาเซียนลังเล แต่ไทยได้แสดงบทบาทสำคัญในการสนับสนุนกัมพูชาอย่างชัดเจน ทั้งการเป็นเจ้าภาพเจรจา รับรองผลการเลือกตั้ง และใช้การทูตผลักดันให้กัมพูชาได้เข้าเป็นสมาชิกอาเซียนอย่างเป็นทางการ ซึ่งทำให้กัมพูชามีที่ยืนบนเวทีโลก มีอำนาจต่อรองทางการค้า และดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ
9. ช่วยน้ำท่วม (ต.ค. 2563) เมื่อกัมพูชาเผชิญอุทกภัยรุนแรงจากพายุโซนร้อนนางกา ไทยได้จัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง ยา และอุปกรณ์ป้องกันโรคระบาด นอกจากนี้ยังช่วยฝึกอบรมบุคลากรด้านภัยพิบัติ ซึ่งแม้จะเป็นความช่วยเหลือที่ไม่ยิ่งใหญ่เท่าข้ออื่น แต่ก็มีคุณค่ามหาศาลต่อประชาชนที่เดือดร้อน
10. โควิด-19 (พ.ศ. 2564) ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 แม้ไทยจะเผชิญวิกฤตภายในประเทศ แต่ก็ไม่ละเลยแรงงานกัมพูชาในไทย มีการดูแลและให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง รวมถึงการส่งมอบอุปกรณ์ห้องปฏิบัติการ ชุดตรวจ ยา และเครื่องช่วยหายใจให้แก่กัมพูชา นอกจากนี้ยังร่วมกันพัฒนาระบบเฝ้าระวังโรคระบาดในพื้นที่ชายแดนเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต
สรุปแล้ว ประเทศไทยได้มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือและสนับสนุนกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านมนุษยธรรม การเมือง เศรษฐกิจ และการสาธารณสุข ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้กัมพูชาสามารถผ่านพ้นวิกฤตต่างๆ และก้าวสู่การพัฒนาที่มั่นคงยิ่งขึ้นในปัจจุบัน
















