รู้หรือไม่ ทำไมน้ำทะเลถึงเค็ม? คำตอบที่เรียบง่าย แต่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน มาดูกัน
พอดีเมื่อวานผมไปเจอบทความหนึ่งเกี่ยวกับเรื่อง “ทำไมน้ำทะเลถึงเค็ม” อ่านแล้วรู้สึกว่า เออ! จริงแฮะ เราเคยรู้สึกว่าน้ำทะเลเค็ม แต่ไม่เคยหยุดคิดเลยว่ามันเค็มได้ยังไง?
ก็เลยอยากมาเล่าแบบง่าย ๆ เผื่อใครยังไม่เคยรู้เหมือนผมครับ
เริ่มจากน้ำฝนนี่แหละครับ
เวลาฝนตก น้ำฝนจะไหลผ่านดิน ผ่านภูเขา หิน และชั้นดินต่าง ๆ ในระหว่างที่ไหลลงแม่น้ำ น้ำฝนก็จะพาเอาแร่ธาตุที่อยู่ในดินหินลงมาด้วย ซึ่งในนั้นมี “เกลือแร่” อยู่ด้วย โดยเฉพาะ โซเดียม (Sodium) และ คลอไรด์ (Chloride) ซึ่งจับตัวกันกลายเป็น “เกลือ” หรือ NaCl ที่เรารู้จักกันดีนั่นเองครับ
น้ำในแม่น้ำต่าง ๆ ทั่วโลกก็ไหลรวมกันลงสู่ทะเลมานับล้าน ๆ ปี เกลือแร่ที่มากับน้ำก็เลยสะสมอยู่ในทะเลมากขึ้นเรื่อย ๆ
แล้วทำไมน้ำทะเลถึงเค็มมากกว่าแม่น้ำล่ะ?
เพราะแม่น้ำมันมีการไหลตลอดเวลา น้ำใหม่มาแทนเรื่อย ๆ ทำให้ไม่สะสมเกลือมากนัก
แต่ทะเลนั้น น้ำส่วนใหญ่ไม่ได้ไหลออกไปไหนเลยครับ น้ำระเหยขึ้นฟ้าเป็นไอน้ำไป แต่ เกลือไม่ระเหยตามไปด้วย มันยังอยู่ในทะเลเหมือนเดิม
พอน้ำระเหยบ่อยเข้า เกลือก็ยิ่งเข้มข้น จนน้ำทะเลมีความเค็มสูงนั่นเอง
น้ำทะเลเค็มแค่ไหน?
ค่าเฉลี่ยความเค็มของน้ำทะเลอยู่ที่ประมาณ 35 กรัมต่อลิตร หรือถ้าจะให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือ น้ำ 1 ลิตร มีเกลืออยู่ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ เลยทีเดียว
ทะเลที่เค็มที่สุดในโลกคือ?
Dead Sea หรือทะเลเดดซี ที่อยู่แถว ๆ จอร์แดนกับอิสราเอลครับ เค็มจนคนสามารถ “ลอยตัว” ได้แบบไม่ต้องว่ายน้ำเลย เพราะความหนาแน่นของน้ำสูงมาก
สรุปสั้น ๆ
น้ำทะเลเค็มเพราะฝนพาเกลือแร่จากดินหินลงสู่ทะเล พอน้ำระเหยออกไปแต่เกลือยังค้างอยู่ ก็เลยสะสมเค็มขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นทะเลเค็มอย่างที่เรารู้จักกันทุกวันนี้นั่นเอง
---
ใครที่ไปเที่ยวทะเลแล้วเคยโดนน้ำทะเลเข้าปาก คงจะรู้ว่ามันเค็มจริง!
แต่พอรู้เบื้องหลังแล้ว มันก็เป็นความรู้ธรรมดา ๆ ที่น่าสนใจดีเหมือนกันนะครับ
📚แหล่งข้อมูลที่อ่านมาประกอบ:
สถาบันสมุทรศาสตร์ Woods Hole (WHOI)
National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA)
บทความวิทยาศาสตร์จากเว็บไซต์ LiveScience และ BBC Earth
#น้ำทะเลเค็มทำไม #ความรู้รอบตัว #วิทยาศาสตร์ง่ายๆ #เล่าเรื่องวิทย์ #แชร์เก็บไว้ให้ลูกหลานอ่าน



















