หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ต้นกำเนิด Coca-Cola มาจากการรักษา อาการเจ็บปวด

เนื้อหาโดย machete007

 

ในปี ค.ศ. 1861 เกิดความขัดแย้งระหว่างผู้ประกอบการและแรงงานในภาคการเกษตรของประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งนำไปสู่สงครามกลางเมือง ที่ทำให้ผู้คนบาดเจ็บล้มตายนับล้านชีวิต

 

ช่วงเวลานั้น ได้มีนายพันของกองทหารม้านายหนึ่งชื่อว่า “John Stith Pemberton”

ได้รับบาดเจ็บจากการถูกดาบแทงขณะออกรบ และแม้ว่าเขาจะรอดชีวิตมาได้

อาการเจ็บปวดจากบาดแผลยังคงติดตัวเขาไปตลอดชีวิต

 

แต่รู้หรือไม่ว่าด้วยความเจ็บปวดนี้เอง ได้กลายมาเป็นต้นกำเนิดของเครื่องดื่มที่มีชื่อว่า Coca-Cola..

 

แล้วบาดแผลที่ถูกดาบแทงกลายมาเป็นแบรนด์เครื่องดื่มน้ำอัดลมระดับโลกได้อย่างไร ?

 

ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากบาดแผลในสงคราม ทำให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหลายคนจำเป็นต้องใช้ “มอร์ฟีน”

ซึ่งนอกจากจะเป็นสารเสพติดแล้ว มันยังช่วยในการระงับความเจ็บปวด

 

แต่เมื่อมันขึ้นชื่อว่าสารเสพติดแล้ว การที่ใช้มอร์ฟีนในปริมาณที่มากเกินไปจึงทำให้ร่างกายได้รับผลกระทบในระยะยาว

 

นายพัน Pemberton จึงต้องหันไปหาทางเลือกอื่นและด้วยตัวเขาเองที่ก่อนเข้าร่วมสงครามมีอาชีพเป็นเภสัชกรและนักเคมี เขาจึงเริ่มค้นหาตัวยาที่ช่วยระงับความเจ็บปวดและมีผลข้างเคียงน้อยกว่ามอร์ฟีน

 

ในปี ค.ศ. 1886 Pemberton ก็ได้ผลิตไวน์ ที่ถือได้ว่าเป็นต้นแบบดั้งเดิมของ Coca-Cola

ในชื่อ “French Wine Coca” ที่มีคุณสมบัติช่วยในการระงับความเจ็บปวด และรักษาอาการอื่น ๆ เช่น ท้องเสียและอาการปวดหัว

 

ด้วยวัตถุดิบหลักคือสารสกัดจากใบโคคาหรือก็คือพืชชนิดเดียวกันกับที่ใช้ผลิตโคเคน

ซึ่งในสมัยนั้นโคเคนยังไม่ถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

 

แต่เนื่องจากไวน์ดังกล่าวมีกลุ่มลูกค้าที่เฉพาะกลุ่มเกินไป ทำให้ Pemberton เกิดไอเดียที่จะต่อยอดไปยัง

เครื่องดื่มที่คนทั่วไปก็สามารถดื่มได้และทำเงินได้มากกว่า เขาจึงเลือกที่จะมองไปยังเครื่องดื่มยอดฮิตในขณะนั้นซึ่งก็คือน้ำหวานผสมโซดา หรือที่เรารู้จักกันในชื่อน้ำอัดลมในปัจจุบัน

 

เขาจึงเริ่มปรับปรุงสูตรด้วยการเพิ่มน้ำตาลเพื่อให้มีรสหวานและนำแอลกอฮอล์ออกจากตัวเครื่องดื่มเพื่อที่จะสามารถขายให้กับผู้บริโภคตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ จนได้รสชาติอย่างที่ต้องการโดยที่ยังมีส่วนผสมของใบโคคาเป็นส่วนประกอบอยู่

 

ส่วนชื่อนั้นถูกตั้งโดย Frank Robinson นักบัญชีที่คอยช่วยเหลือ Pemberton มาตลอด

โดยคำว่า Coca มาจากใบโคคา (Coca Leaf) และ Cola มาจากถั่วโคลา (Kola Nut)

ที่เป็นแหล่งที่มาของสารกาเฟอีนใน Coca-Cola

 

นอกจากนี้ Robinson ยังเป็นผู้ออกแบบโลโกของ Coca-Cola ที่ได้ใช้มาจนถึงปัจจุบัน อีกด้วย

 

แต่เมื่อออกจำหน่ายในปีแรก Coca-Cola กลับขายได้เพียง 1,000 แก้วเท่านั้น

และหลังจากนั้นไม่นาน Pemberton ก็ได้เสียชีวิตลง

 

ก่อนที่ Pemberton จะเสียชีวิต เขาก็ได้ขายสูตรน้ำหวาน Coca-Cola ต่อให้กับ Asa Candler เจ้าของธุรกิจร้านขายยา ซึ่งเรื่องดังกล่าว ก็ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์เครื่องดื่มที่ผู้คนทั่วโลกชื่นชอบ

 

ในปี ค.ศ.1891 Candler ได้ก่อตั้งบริษัท Coca-Cola ขึ้นอย่างเป็นทางการ

โดยสิ่งแรกที่เขาทำ คือการโปรโมตแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก

ด้วยการใส่โลโก Coca-Cola ลงบนทุกสิ่งที่สามารถใส่เข้าไปได้..

ไม่ว่าจะเป็นปฏิทิน กระเป๋าสตางค์ ผนังกำแพง รถของพนักงานขาย และอีกหลากหลายสิ่ง

เพื่อให้แน่ใจว่าผู้คนต้องได้เห็นโลโกของ Coca-Cola

 

โดยโปรโมชันแรก ๆ ที่ Coca-Cola เลือกที่จะทำคือ “คูปองดื่มฟรี”

 

ต้องเข้าใจก่อนว่าในช่วงเวลานั้น เครื่องดื่มผสมโซดาจะถูกวางขายในร้านขายยา

โดยมีลักษณะคล้ายกับน้ำอัดลมโบราณในบ้านเรา ซึ่งอาจมีน้ำหวานมากกว่า 100 รสชาติให้เราได้เลือก

ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมีตัวเลือกมาก การที่ลูกค้าจะเลือก Coca-Cola จึงเป็นไปได้ยาก

 

สิ่งที่ Candler ทำก็คือการเขียนจดหมายถึงเจ้าของร้านขายเครื่องดื่มเพื่อขอรายชื่อลูกค้าขาประจำ 50 คน

โดยภายในจดหมายแต่ละฉบับจะมีคูปองที่มีโลโก Coca-Cola ให้กับลูกค้าประจำมาแลกเครื่องดื่มฟรีที่ร้าน

 

ซึ่งเรื่องนี้ก็สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ได้ลิ้มลองรสชาติและเกิดการบอกต่ออย่างรวดเร็ว

 

แต่แล้ว Coca-Cola ก็ต้องพบกับปัญหาใหญ่

เมื่อโคเคนถูกระบุว่าเป็นสารเสพติดและเกิดการต่อต้านอย่างรุนแรงจากผู้คนในเวลานั้น

และภาครัฐก็ยื่นคำขาดว่าห้ามมีโคเคนอยู่ในเครื่องดื่มเด็ดขาด

 

อีกประเด็นหนึ่งก็คือพวกเขาจำเป็นต้องรักษาสารสกัดจากโคคาไว้

เพื่อที่จะยังได้รับการปกป้องเครื่องหมายการค้าของบริษัท

 

นั่นทำให้พวกเขาต้องใช้เวลาหลายปีในการพัฒนาสูตร Coca-Cola ที่ยังมีส่วนผสมจากใบโคคา

แต่ไม่มีสารออกฤทธิ์ชนิดเดียวกับโคเคนเหลืออยู่ในเครื่องดื่มและเป็นสูตรสำเร็จที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน

 

จากนั้นในปี ค.ศ. 1899 Joseph Whitehead และ Benjamin Thomas

ก็ได้เข้ามาติดต่อขอซื้อสิทธิ์ในการขายเครื่องดื่ม Coca-Cola แบบบรรจุขวดจาก Candler

 

โดยที่ Candler ก็ได้ขายสิทธิ์ดังกล่าวในราคาเพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น เนื่องจากธุรกิจบรรจุขวดในสมัยนั้น ยังถือว่ามีกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพต่ำและมีความยากในการบริหารจัดการ

 

เพราะฝาปิดขวดในอดีตยังใช้วัสดุประเภทลวดและจุกยาง ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพของเครื่องดื่มและยากต่อการทำความสะอาด นี่จึงเป็นที่มาของฝาจีบที่เข้ามาแก้ปัญหานี้ในเวลาต่อมา และในปี 1910 โรงงานบรรจุขวดของ Coca-Cola ก็ได้เกิดขึ้นไปทั่วสหรัฐอเมริกา

 

แต่ปัญหาก็ยังไม่ได้หมดเพียงแค่นี้ เพราะด้วยการเติบโตแบบรวดเร็วของ Coca-Cola จึงทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่ลอกเลียนแบบแบรนด์ขึ้นมา

ทั้งชื่อที่ออกเสียงคล้ายกัน โลโก และขวดที่มีลักษณะเหมือนกัน

จนทำให้ผู้บริโภคแยกไม่ออกว่าแบบไหนคือ Coca-Cola ของแท้

 

เมื่อเป็นเช่นนี้ในปี ค.ศ. 1915 Coca-Cola จึงได้ออกแบบขวดรูปทรงใหม่ ที่มีส่วนโค้งเว้า

มีลายแนวตั้งข้างขวดเป็นเอกลักษณ์ โดยลักษณะขวดดังกล่าว

ก็ได้ตกทอดและยังสามารถพบเห็นได้ในปัจจุบัน

 

หลังจากนั้นสงครามโลกก็เกิดขึ้น และน้ำตาลซึ่งเป็นส่วนผสมหลักถูกจำกัดการซื้อขาย เพื่อนำไปเป็นเสบียงให้กับกองทัพ ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้ทำให้ปริมาณการผลิตของ Coca-Cola หายไปถึงครึ่งหนึ่ง

 

บริษัทจึงเจรจากับรัฐบาลให้สนับสนุน Coca-Cola แก่ทหารทุกนายในกองทัพในราคาขายปกติ ไม่ว่าจะมีต้นทุนส่วนเพิ่มใด ๆ ก็ตาม นั่นทำให้บริษัทได้รับข้อยกเว้นจากการจำกัดการใช้น้ำตาลและสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้

 

และช่วงเวลานี้เองที่ Coca-Cola ได้กลายเป็นแบรนด์เครื่องดื่มที่รู้จักไปทั่วโลก

ซึ่งเรื่องราวเกิดจากการที่ Dwight D. Eisenhower ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น

ได้สอบถามถึงความต้องการของทหารในกองทัพว่ามีอะไรที่จะช่วยให้พวกเขามีขวัญกำลังใจและคลายเครียดได้บ้าง คำตอบที่ Eisenhower ได้รับคือ

 

  1. บุหรี่
  2. ลูกอม
  3. Coca-Cola

 

นั่นจึงทำให้ Coca-Cola ถูกร้องขอให้ไปตั้งโรงงานบรรจุขวดในต่างประเทศ

ทั้งในยุโรป อาเซียน และอีกหลาย ๆ พื้นที่ ที่กองทัพสหรัฐอเมริกาไปถึง และเมื่อสงครามจบลงโรงงานเหล่านั้นก็ยังคงดำเนินธุรกิจและกลายเป็นตัวแทนจำหน่ายของ Coca-Cola ในต่างแดนต่อไป..

 

ถึงแม้จะเป็นที่น่าเสียดาย ที่ Pemberton ผู้คิดค้นสูตรต้นตำรับของ Coca-Cola จะไม่มีโอกาสได้เห็นความยิ่งใหญ่ของสิ่งที่เขาได้สร้างขึ้นมากับมือ

 

แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าระหว่างทางตั้งแต่ Pemberton ไปจนถึง Joseph Whitehead และ Benjamin Thomas ผู้นำสิทธิ์ Coca-Cola ไปบรรจุขวด รวมไปถึงการเกิดขึ้นของสงครามโลกที่ทหารสหรัฐอเมริกานำเครื่องดื่มนี้ไปหลายประเทศทั่วโลก หากมีตรงไหนเพี้ยนไปจากสิ่งที่ได้เกิดขึ้น Coca-Cola ก็อาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้และเป็นเพียงยาแก้ปวดชนิดน้ำยี่ห้อหนึ่งก็เป็นได้..

 

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ

รู้หรือไม่ว่า Warren Buffett ยังคงกินขนมขบเคี้ยวและดื่ม Coca-Cola วันละประมาณ 5 กระป๋อง

เนื่องจากเขาเชื่อในสถิติที่ว่าเด็กอายุ 6 ขวบมีอัตราการเสียชีวิตน้อยที่สุด

เขาจึงกินในแบบที่เด็ก 6 ขวบ ชอบกิน และเขายังติดการกินอาหารรสเค็มอีกด้วย ซึ่งปัจจุบัน Warren Buffett มีอายุ 90 ปีแล้ว

เนื้อหาโดย: machete007
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
machete007's profile


โพสท์โดย: machete007
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: paktronghie, machete007
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
บริษัทที่ใหญ่ที่สุด มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทยติ๊กต๊อกเกอร์ชื่อดังของไทย ถูกแก๊งค์เหงียนตัดมือขาด"กินโกโก้" มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายกองทัพเขมร จัดงานฉลองใหญ่ ดีใจ "คุกตรวลสเลง" ให้เป็นมรดกโลก ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สั่งกองทหารทุกกอง ให้ตีฆ้องฉลองชัยอีลอน มัสก์ ประกาศตั้ง “America Party” เขย่าการเมืองสหรัฐฯวัดเขาบังเหยชุมพลสีมาราม เทพสถิตชัยภูมิเลขเด็ด "แม่จำเนียรล็อตเตอรี่" มาแล้ว! งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 68..คอหวยส่องด่วน!ไทยเปิดดีลนำเข้าหมูสหรัฐ คนไทยได้อะไร? ใครได้–ใครเสีย“ถึงเวลาแล้วหรือยัง... ที่คนไทยรุ่นใหม่ควรได้เรียน ‘วิชาวิพากษ์’ บนโลกออนไลน์” (กรณีศึกษา: เสียงพากย์ Superman – จากคำติ สู่การด่าจิกหัว)อำเภอเดียวของจังหวัดในภาคกลาง ที่มีพื้นที่อยู่ติดกับต่างประเทศกัมพูชาโวย! วัดภูม่านฟ้าไทย เลียนแบบนครวัด!!วัดถาวรชัยศิริ (ด้อแด้)
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
บริษัทที่ใหญ่ที่สุด มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทยเลขเด็ด "แม่จำเนียรล็อตเตอรี่" มาแล้ว! งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 68..คอหวยส่องด่วน!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ข้อดีของการล้างหน้าด้วยน้ำเย็นที่ไม่ควรมองข้ามมาเลย์เตรียมสร้างกำแพงกั้นไทย! คนไทยเฮลั่น! โจรใต้หนาวแน่ งานนี้ใครหน้าแหกมาดู!"นัตโตะ" อาหารกลิ่นแรง แต่แรงดีไม่มีตก! บุกโรงงานต้นตำรับที่ญี่ปุ่น พร้อมเคล็ดลับแปลงร่างให้กินง่ายสไตล์ไทยๆ"กินโกโก้" มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย
ตั้งกระทู้ใหม่