ลองเช็กอาการ 'Dead Inside' คุณกำลังตายช้า ๆ จากข้างในหรือไม่
ลองเช็กอาการ 'Dead Inside' คุณกำลังตายช้า ๆ จากข้างในหรือไม่
เอาเข้าจริงแล้ว ไม่แปลกที่ในบางครั้งเราจะรู้สึกอ่อนแอ โดดเดี่ยว หรือขาดไร้ซึ่งแรงจูงใจในการใช้ชีวิต เพราะในโลกที่ใครต่างก็ยื้อแย่งและจงเกลียดจงชังกันได้ง่าย ไม่ว่าอะไรก็พร้อมจะบั่นทอนกำลังใจเราได้ทั้งนั้น นี่จึงเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่ว่าทำไมเราควร "ตรวจเช็กสภาพจิตใจ" ของตนเองอยู่เรื่อย ๆ เพราะเราไม่รู้หรอกว่า แต่ละสิ่งที่กำลังเผชิญในแต่ละวันมันทำให้เรารู้สึกกำลังตายอย่างช้า ๆ จากข้างในหรือเปล่า วันนี้จึงอยากพาทุกคนมาสำรวจอาการ "Dead Inside" หรือภาวะสิ้นยินดี ผ่านการสังเกตความผิดปกติของตนเอง
Dead Inside หรือ ภาวะสิ้นยินดี เป็นคำอธิบายความรู้สึก "ด้านชา" ภายในจิตใจ ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับอะไรสักสิ่งหนึ่ง รู้สึกไม่มีเป้าหมายในชีวิต โดดเดี่ยว และเปลี่ยวเหงา ถ้าเปรียบเสมือนภาพวาดก็คงให้อารมณ์หม่นปนเศร้า ซึ่งในบางครั้งความรู้สึกเหล่านี้ก็เกิดขึ้นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ ทว่าบางทีก็กินระยะเวลานานหลายอาทิตย์หรือหลายเดือน ขึ้นอยู่กับระดับของปัญหาที่เผชิญหรือสิ่งแวดล้อมในขณะนั้น ซึ่งมันค่อนข้างต่างจากโรคซึมเศร้าตรงที่ Dead Inside ออกฤทธิ์ช้าและสามารถหายเองได้ แต่ถ้าปล่อยนานไปก็อาจนำไปสู่โรคซึมเศร้าถาวร
🟣 คุณรู้สึกเหมือนไม่มีจุดหมายในชีวิตหรือไม่?
ต่อให้เป็นคนที่ขี้เกียจหรือไม่แยแสอะไรเลยมากที่สุดในโลก ต่างก็มีเป้าหมายในการทำอะไรสักสิ่งหนึ่ง เพราะทุกการกระทำของมนุษย์ถูกขับเคลื่อนด้วยจุดประสงค์เสมอ ดังนั้นหากขาดไร้ซึ่งแรงจูงใจหรือเป้าหมายในการทำอะไรสักอย่าง มักอนุมานได้ว่านั่นคือความรู้สึกที่ "ผิดปกติ" ไปจากเดิม อาทิ ปกติแล้วคุณมักจะออกกำลังกายอย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์ แต่ช่วงนี้รู้สึกไม่อยากออกไปทำอะไรเลย หรือปกติแล้วตั้งเป้าหมายว่าต้องดูซีรีส์ให้จบอย่างน้อยวันละตอน แต่ช่วงนี้ไม่อยากทำอะไรเป็นพิเศษ ได้แต่นอนเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อย ๆ
🟣 คุณเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับความหมายของชีวิตหรือไม่?
โดยปกติแล้วการตั้งคำถามแนวสัจธรรมในทำนองว่า เราเกิดมาทำไม ดำรงอยู่ไปเพื่อสิ่งใด ความฝันถูกบั่นทอนลงไปหรือไม่ โลกหลังความตายมีจริงหรือเปล่ามันสามารถผุดขึ้นมาได้เสมอ เพียงแต่ว่าความคิดเหล่านี้มักจะโผล่มาให้ฉุกคิดแค่ระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ทว่าหากคุณมีคำถามเหล่านี้ผุดขึ้นมาในหัวอยู่บ่อยครั้ง และมักจะจมดิ่งอยู่กับสิ่งที่ว่าเป็นเวลานานมากเกินไป ก็ให้อนุมานไว้เลยว่าช่วงนี้คุณน่าจะกำลังเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่ผิดปกติ
🟣 คุณรู้สึกว่าตัวเองมีความชินชากับหลายสิ่งมากขึ้นหรือไม่?
ถ้าช่วงนี้คุณรู้สึกไม่ตื่นเต้นกับสถานที่ที่อยากไป รับประทานของโปรดไม่อร่อยเหมือนเดิม เลิกร้องไห้กับสิ่งที่เคยเสียใจ ไม่หัวเราะให้กับสิ่งที่เคยสร้างความสุขให้กับตัวเอง พูดง่าย ๆ คือ คุณรู้สึกไม่ยินดียินร้ายกับอะไรทั้งนั้น หัวใจของคุณไม่เชิงว่างเปล่า แต่มันเปรียบเสมือนหลุมดำที่พร้อมจะดูดกลืนทุกอย่างเข้าไปจนหมด
🟣 คุณรู้สึกโดดเดี่ยวหรือเปลี่ยวเหงาบ้างหรือไม่?
บางครั้งต่อให้อยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่ก็ยังรู้สึกโดดเดี่ยวและเหงาอยู่ดี เพราะในเชิงของความรู้สึก คำว่า "เหงา" มันไม่ใช่แค่การขาดไร้ซึ่งคนเคียงข้าง แต่มันเหมือนกับการขาดคนเข้าอกเข้าใจอย่างแท้จริงมากกว่า มันเหมือนกับทุกปัญหาที่ต้องเผชิญ เรากำลังรับมือกับมันคนเดียว ทั้งที่คนรอบข้างก็เดินผ่านไปผ่านมายั้วเยี้ยะเหมือนหนอน ถ้าคุณรู้สึกว่าต่อให้อยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายขนาดไหนก็ไม่สามารถลบล้างความรู้สึกโดดเดี่ยวภายในได้ นั่นอาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติเช่นกัน
🟣 แล้วทำไมเราถึงค่อย ๆ "ตาย" จากข้างใน?
ความจริงแล้วมันเกิดขึ้นจากทั้งปัจจัยด้านจิตวิทยาและชีววิทยา บางครั้ง Dead Inside คืออาการแรกเริ่มของโรคซึมเศร้า ที่มีจุดเด่นคือการขาดไร้แรงจูงใจในการใช้ชีวิต หรือรู้สึกมีชีวิตชีวาน้อยลง ขณะที่อาการด้านชาแบบนี้อาจเกิดจากภาวะ PTSD หรือภาวะที่จิตใจได้รับความกระทบกระเทือนหลังการเผชิญหน้ากับเหตุสะเทือนขวัญหรือการสูญเสีย ซึ่งมีส่วนที่ทำให้การจัดการด้านอารมณ์ความรู้สึกเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หรือในบางครั้ง Dead Inside ก็เชื่อมโยงกับภาวะเครียดสะสม ภาวะแยกตัวออกจากสังคม หรือแม้กระทั่งภาวะความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง (BPD)
🟣 เราจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งได้อย่างไร?
ปกติแล้วทุกความเศร้าที่เข้ามาเกาะกุมจิตใจมักมีสาเหตุมาจากความเครียด ซึ่งความเครียดก็มีสาเหตุมาจากปมปัญหาบางอย่าง ถ้าเราสามารถแก้ไขปัญหาที่ฝังอยู่ภายในใจได้ ก็มีแนวโน้มที่อาการจะดีขึ้น ทว่าหากความเครียดมันสะสมจนผสานรวมเข้ากับความเศร้า จนจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าเกิดจากอะไรกันแน่ การได้พูดคุยกับใครสักคนหนึ่งเพื่อระบายหรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก หรือพาตัวเองออกไปเผชิญสิ่งใหม่ ๆ แล้วสูดหายใจให้เต็มที่อีกครั้ง ก็อาจจะทำให้หัวจิตหัวใจเรากลับมาชุ่มชื้นขึ้นอีกครั้ง


















