หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

(นิยายป้ายยา) ท้ายเรือนคุณหลวง Ep2- เจิมจันทน์

เนื้อหาโดย nok19800

นิยายเรื่อง ท้ายเรือนคุณหลวง (นามปากกา มาศอุไร) 
วางจำหน่าย ในรูปแบบนิยายออนไลน์ ( ebook) 
แพลตฟอร์มที่วางจำหน่าย : Meb ธัญวลัย นายอินทร์ Ookbee 
สามารถ เข้าอ่านเนื้อหา ฉบับเต็มได้ตาม แพลตฟอร์มนิยายชั้นนำทั่วไป อาทิเช่น...
( Dek-d , readAwrite , ธัญวลัย , Hongsamut , fictionlog )
 
*ลิงค์สำหรับดาวน์โหลด  Ebook ฉบับเต็ม ท้ายเรือนคุณหลวง ได้ที่ (Meb) ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยนะคะ*
-  https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTA5NTcwOSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjMzNjAyMyI7fQ
 
------------------------------------
*ติดตามอ่านนิยายฉบับเต็มได้ที่ ธัญวลัย ตามลิงค์ดา้นล่างนี้นะคะ*
https://www.tunwalai.com/story/817752#
อ่านต่อได้ที่ https://plus.postjung.com/1617729

 

2

(เจิมจันทร์)

 

เจิมจันทร์หญิงสาวชาวบ้านธรรมดา ฐานะหล่อนยากจนข้นแค้น มีดีแค่เพียงหน้าตาสะสวยกับรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นผิวขาวราวหยวกกล้วย

 ของดีที่มักสร้างปัญหาทุกข์ใจให้เจิมจันทร์เรื่อยมา

นับตั้งแต่เจิมจันทร์เริ่มแตกเนื้อสาวหล่อนก็ต้องคอยระมัดระวังตัวเองตลอดเวลา แต่ต่อให้เจิมจันทร์ระมัดระวังตัวกับคนนอกบ้านแค่ไหน หากกับคนในบ้านเจิมจันทร์ไม่อาจมีปากมีเสียงช่วยเหลือตัวเองไม่ให้โดนทุบตีทำร้าย

‘ฉันจะเอานังจันทร์มันไปขายให้เป็นบ่าวในเรือนขุนพระเดโช’

เดือนอ้ายบอกกับผัวว่าอย่างนั้น เพราะตอนนี้เงินจะซื้อข้าวกรอกหม้อสักอัฐยังแทบไม่มี เดือนอ้ายเอาเงินที่พอมีจากการทำงานของเจิมจันทร์ไปเล่นเสียในบ่อนการพนันจนหมดเกลี้ยง

ทั้งที่ตัวเองเป็นคนเอาเงินไปใช้จนหมดแท้ๆ หากกลับไม่เคยคิดโทษตัวเอง ในความคิดของเดือนอ้ายการมีตัวตนอยู่ของเจิมจันทร์ คือการสิ้นเปลืองเงินทองภายในเรือน

ต่อให้มีอัฐมากมาย ก็คงไม่เพียงพอให้เดือนอ้ายเอาไปถลุงเล่นในบ่อนการพนัน นับสิบซึ่งเป็นผัว นั่งมวนยาถึงกับถอนหายใจทิ้ง เมียรักต้องการอย่างนั้น เขาจะพูดอย่างไรได้เล่า ใจหนึ่งก็นึกสงสารลูกสาวกับเมียเก่าที่มาตายจาก หากทว่าแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยขัดใจเมียคนนี้เลยสักครั้ง

 ตามใจจนเดือนอ้ายยกตัวเองขึ้นเป็นใหญ่ในบ้าน นางไม่เคยสนใจความรู้สึกของใครนอกจากความรู้สึกของตัวเองกับลูกสาวของผัวเก่า

 ข่มทั้งผัว ข่มทั้งลูกเลี้ยงสาว ส่วนลูกติดของตัวเองนั่นเหรอ...ปล่อยให้นอนเป็นนางพญา สุขสบายโดยไม่ต้องออกไปทำงานตรากตรำ ทนแดด ทนร้อนดั่งเช่นลูกติดของผัว เจิมจันทร์ต้องออกไปทำงานเลี้ยงดูคนในเรือนทั้งหมดตั้งแต่เจ้าหล่อนอายุได้เพียงสิบขวบ ปัจจุบันเจิมจันทร์อายุยี่สิบปี หล่อนก็ยังต้องออกไปรับจ้างหาอัฐมาจุนเจือทุกคน

สำหรับลูกติดของเดือนอ้ายนั้นมีชื่อว่า ดาวสวรรค์ อายุนั้นน้อยกว่าเจิมจันทร์อยู่เพียงไม่กี่ปี วันๆเอาแต่นั่งกินนอนกินไม่เคยลุกขึ้นมาช่วยทำมาหากิน เดือนอ้ายผู้เป็นแม่ไม่เคยด่าทอให้ระคายหู อุ้มชูเลี้ยงดูหวังจะพึ่งพาลูกสาวคนนี้ยามแก่ชรา เหตุเพราะเดือนอ้ายหมายจะให้ดาวสวรรค์ได้ตบแต่งเข้าเรือนเจ้าขุนมูลนายคนใหญ่คนโตในคุ้งน้ำสักแห่ง ต่อให้ต้องเป็นเมียรองหรือเมียบ่าวก็ไม่เป็นอะไร ยังไงซะถือว่ายังได้ใช้ชีวิตอยู่สุขสบาย ตัวนางก็จะได้สุขสบายตามไปด้วย ดังนั้นทั้งงานในบ้านนอกบ้านเดือนอ้ายจึงโยนให้เป็นหน้าที่ของเจิมจันทร์รับทำไปคนเดียว

 นับสิบส่งมวนยาเข้าปาก หางตาเขาเหล่มองไปยังลูกสาวคนโต

‘ตามใจแม่อ้ายเถอะ ข้ายังไงก็ได้’

 เจิมจันทร์กำลังนั่งเย็บผ้าอยู่ไม่ห่างจากทั้งสองคน หล่อนถึงกับตกใจหน้าขาวซีด รีบลนลานวางงานในมือคลานมาหาแม่เลี้ยง สีหน้าหวาดหวั่นพรั่นพรึง ใครบ้างไม่กลัวขุนพระเดโช

‘พ่อจ๋าฉันไม่เอานะจ๊ะ น้าอ้าย...ฉันไม่อยากถูกขายไปเป็นบ่าวอยู่เรือนนั้น น้าอ้ายให้ฉันทำอย่างอื่นเถอะจ้ะ หรือไม่...ฉันจะออกไปรับจ้างทำนาเพิ่มจากเดิมก็ได้ ฉันสัญญา ฉันจะพยายามหาอัฐมาให้น้าอ้ายใช้ไม่ขาดมือ’

 เจิมจันทร์ยกมือไหว้ขอร้อง น้ำตาไหลพรากดูน่าเวทนายิ่งนัก ผู้เป็นพ่อทำได้เพียงเมินหน้าหนี ในชีวิตเขาขาดลูกสาวได้แต่ให้เขาขาดเมียที่ชื่อเดือนอ้าย เขาขาดไม่ได้ เมียคนนี้เขาทั้งรักทั้งหลง เขารักเดือนอ้ายก่อนจะได้แม่ของเจิมจันทร์มาเป็นเมียเสียอีก

 ‘แล้ววันนี้จะเอาข้าวสารที่ไหนกรอกหม้อ...’

เดือนอ้ายตั้งท่าจะด่าลูกเลี้ยง นับสิบขี้เกียจทนฟังเขาจึงตัดบท

‘แม่เดือนใจเย็นก่อน ประเดี๋ยววันนี้พี่จะไปหยิบยืมอัฐจากบ้านลุงแสงมาซื้อข้าวสาร ส่วนพรุ่งนี้จันทร์ก็ออกไปรับจ้างทำงานเพิ่ม หาอัฐมาคืนลุงแสงแกก็แล้วกัน’

พูดแล้วก็รีบลุกเดินเข้าห้อง ไม่อาจทนมองหน้าลูกสาวได้นาน นับสิบเข้าใจดีทำไมเจิมจันทร์ลูกสาวถึงไม่อยากไปเป็นบ่าวเรือนขุนพระเดโช

ใครๆในคุ้งน้ำละแวกนี้ต่างก็รู้ถึงกิตติศัพท์เจ้านายเรือนนั้น มีนิสัยใจคอโหดร้ายเยี่ยงไร แถมยังล่ำลือถึงจิตวิปลาส ข่าวลือพูดกันหนาหู บ่าวทั้งหญิงทั้งชายหลายคนในเรือนขุนพระเดโชมักหายสาบสูญหาตัวไม่เจอ

โดยเฉพาะบ่าวสาวๆ ไม่เคยมีใครรอดเงื้อมมือขุนเดโชได้สักรายเดียว

ก็ถ้าไม่ยากจนข้นแค้นจนกระทั่งหมดหนทางกันจริงๆ คงไม่มีเรือนไหนอยากเฉียดกายเข้าใกล้เรือนนั้นกันนักหรอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านที่มีลูกสาว

พอเดือนอ้ายเห็นผัวลุกเดินเข้าห้อง นางก็ขยับเข้ามาใกล้ลูกเลี้ยง ส่งสายตาเกลียดชัง ก้มหน้าลงกระซิบไม่ให้เสียงดัง

‘มึงสัญญาแล้วนะอีจันทร์ มึงต้องหาเงินมาให้กูกับลูกดาวใช้ไม่ให้ขาดมือ ถ้ามึงทำไม่ได้อย่างปากพูด กูจะเอามึงไปขายให้ขุนพระท่านจริงๆ”

‘จ้ะๆ ฉันสัญญา ฉันจะหาอัฐมาให้น้าใช้เยอะๆ’

เจิมจันทร์ให้คำมั่นสัญญา เจ้าหล่อนก็พยายามทำงานแลกอัฐเพื่อมาให้แม่เลี้ยงกับลูกติดใช้อย่างไม่ขาดมือ หากทว่างานรับจ้างนั้นก็ใช่จะมีเข้ามาให้เจิมจันทร์ได้ทำทุกวัน วันไหนไม่มีอัฐกลับเข้าบ้าน เจิมจันทร์มักถูกทำร้ายทุบตี หรือถูกขู่จะลากตัวไปขายเป็นบ่าวในเรือนขุนพระเดโชทุกครา

‘อีจันทร์...มึงออกไปแรดร่านข้างนอกมาทั้งวัน เสือกกลับมาบอกว่าไม่ได้เงินสักอัฐเดียวนี่นะ ดีๆ ถ้าอย่างนั้น...กูจะเอามึงไปขายเป็นบ่าวเรือนขุนพระเดโชให้สิ้นเรื่องสิ้นราวมันเสียตั้งแต่วันนี้’

วันนั้นนับสิบไม่อยู่เรือน เดือนอ้ายจึงใช้คำหยาบคายด่าทอลูกเลี้ยงได้สบายปาก ปกติถ้านับสิบอยู่เรือนด้วยถึงนางจะถึงขั้นลงไม้ลงมือบ้างหากก็จะใช้คำพูดไม่รุนแรงอะไรนัก วันนี้นางเล่นไพ่เสียมาจนหมดตัว เลยถือโอกาสหาที่ระบายอารมณ์สักหน่อย

นางจึงทั้งด่าทอทั้งทุบตี จนเจิมจันทร์น่วมไปทั้งตัว 

เดือนอ้ายจิกหัวลูกเลี้ยงขึ้นมาจากพื้น หลังจากใช้ไม้กวาดกระหน่ำตีตามเนื้อตัวจนเป็นร่องรอยเขียวช้ำ นางยกฝ่ามือฟาดใบหน้านวลเนียนเสียงดังเพลี๊ยะไม่ยั้งแรง เจิมจันทร์ถึงกับหน้าหันไปตามแรงตบ เจ็บจนน้ำตาคลอเบ้า

 หล่อนยกมือไหว้อ้อนวอน ขออย่าให้เดือนอ้ายพาไปขายเป็นบ่าว

‘ฉันขอร้องน้าล่ะจ้ะ อย่าเอาฉันไปขายเป็นบ่าวใครเลยนะ ถึงวันนี้ฉันไม่มีอัฐติดมือเข้าเรือน ประเดี๋ยวพรุ่งนี้ ฉันจะหาอัฐมาให้น้าเพิ่มเป็นสองเท่าเลยดีไหม?’

‘ให้มันทำได้อย่างที่ปากมึงพูดเถอะ อีจันทร์...กูจะไม่ใจดีกับมึงบ่อยๆนักหรอกนะ...แล้วพรุ่งนี้กูกับลูกดาวต้องใช้เงิน จะต้องไปตลาดตัดชุดสวยๆใส่ไปงานทำบุญใหญ่ที่วัดในพระนคร...’

เจิมจันทร์จึงต้องดิ้นรน ทำทุกวิถีทางให้ได้อัฐมาให้เดือนอ้ายได้ใช้สอย

 บางวันเจิมจันทร์ต้องเก็บผักบุ้ง เก็บตำลึง เก็บผักริมทาง ไปแลกเป็นอัฐในตลาดสดมาหาซื้อเครื่องปรุงนำไปประกอบเป็นอาหารให้คนในครอบครัวได้กินอิ่มหมีพีมัน ส่วนตัวเองต้องกินข้าวกับเกลือ บางวันก็แทบไม่มีเม็ดข้าวตกถึงท้องสักเม็ดเดียว เจิมจันทร์ยังก้มหน้าก้มตาสู้อดทนทำทุกอย่างให้คนในครอบครัวไม่ลงมือทำร้าย เจิมจันทร์ไม่รู้จะหนีไปขอพึ่งใบบุญใคร

 เจิมจันทร์ไม่มีญาติ ไม่มีใครพอจะเป็นหลักให้พึ่งพิง 

จนมาอยู่วันหนึ่ง ตอนเจิมจันทร์ไปรับจ้างทำนาให้บ้านยายดาวเรือง แกให้ค่าจ้างอยู่หลายอัฐ นอกจากทำนาแล้วแกยังให้เจิมจันทร์อยู่ช่วยทำกับข้าวเลี้ยงชาวบ้านในตอนเย็น เพราะว่าปีนี้ดินดีน้ำดี ยายดาวเรืองจึงทำนาได้มากกว่าทุกปี มีอัฐเข้าเรือนเป็นหีบๆ ยังมีเหลือเผื่อแผ่ให้ชาวบ้านได้กินของอร่อย  

เดิมทียายดาวเรืองแกเป็นคนมีน้ำใจ แกชอบเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้กับคนรอบตัวเสมอ พอตัวเองได้มากก็หวังอยากให้ชาวบ้านได้กินของอร่อยกันสักมื้อ เลยตีฆ้องร้องป่าวประกาศเรียกชาวบ้านให้มากินข้าวที่เรือนของแก  

เพราะนี่ไม่ใช่หนแรกของความมีน้ำใจ ชาวบ้านที่ได้ยินเสียงป่าวประกาศ ต่างจูงลูกจูงหลานมานั่งกินข้าวที่เรือนยายดาวเรืองกันอย่างเอร็ดอร่อย

ส่วนตัวลุงหม่านซึ่งเป็นลูกชายของยายดาวเรือง ตัวแกเองก็มีตำแหน่งเป็นถึงนายบ้านในคุ้งน้ำแห่งนี้ หมายจะตั้งวงเหล้าเลี้ยงหนุ่มทั้งในและนอกหมู่บ้าน ซึ่งทุกคนก็ล้วนเป็นคนรู้จักคุ้นหน้าคุ้นตา

 ดังนั้นกับแกล้มพร้อมด้วยอาหารการกินจึงต้องทำเพิ่มมากขึ้นกว่าทุกครา ยายดาวเรืองทำคนเดียวไม่ไหวแกจึงต้องจ้างคนช่วย เจิมจันทร์กุลีกุจอขออยู่ช่วยเพราะจะได้อัฐเพิ่ม ยังมีลูกมืออีกสามคน อาหารการกินจึงทำเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว

“หนูจันทร์...เอ็งมายกเนื้อแดดเดียวทอดออกไปส่งให้พวกคนในวงเหล้าเขาหน่อยสิ ประเดี๋ยวทางนี้ข้ากับนางด้วงจะลงมือทำต้มเปรตสักหม้อ เอาไว้ให้พวกขี้เหล้ามันคอยซดน้ำร้อนๆแก้เมาค้าง”   

“จ้ะ...ยาย” เจิมจันทร์รับคำเสียงหวาน เดินนอบน้อมมาหยิบจานเนื้อทอดที่ยายดาวเรืองยื่นส่งให้

“อ้อ...แล้วอย่าลืมเอาผ้าคลุมหน้าไว้ด้วยนะจันทร์...จะได้ไม่เดือดร้อนตอนเอ็งเดินกลับเรือน”  ยายดาวเรืองร้องเตือนด้วยความเป็นห่วง

“จ้ะ...ยาย ฉันจะคุลมผ้าเดี๋ยวนี้ ”

เจิมจันทร์หยิบผ้ามาคลุมหน้า ปิดไว้ให้เห็นเพียงดวงตาสุกสกาว ถึงจะเห็นเพียงแค่ดวงตาคู่สวย หากใครได้เพ่งพิศดีๆก็ต้องมองออกว่าใบหน้าในส่วนที่ถูกซุกซ่อนต้องงดงามมากแน่ๆ  ชาวบ้านในคุ้งน้ำนี้ต่างรู้ถึงความสวยของเจิมจันทร์ แต่ก็ไม่มีใครคิดร้ายต่อหญิงสาว อาจจะเคยมีบ้างแต่ก็ถูกนายหม่านกำราบจนไม่มีไอ้หนุ่มคนไหนคิดร้ายกับเจิมจันทร์

สิ่งที่ยายดาวเรืองแกกลัว คือชายหนุ่มจากคุ้งน้ำอื่นจะเห็นหน้าตาสะสวยจนเกิดจิตพิศวาส ครั้งหนึ่งเคยเกิดเหตุการณ์นี้มาก่อน ตอนนั้นเจิมจันทร์ถูกดักฉุดหวังกระทำชำเราระหว่างทาง เจ้าหล่อนเกือบจะเสียเนื้อเสียตัว โชคดีที่มีคนผ่านมาเห็นเข้า จึงเข้าช่วยเจิมจันทร์เอาไว้ได้ทัน มันเป็นชายฉกรรจ์มาจากคุ้งน้ำอื่น พอเหล้าเข้าปากก็อดใจไว้ไม่อยู่ เลยคิดชั่วหมายจะดักฉุดสาวมาข่มขืน ยายดาวเรืองเลยกลัวเหตุการณ์จะซ้ำรอย นางจึงหาทางป้องกันให้เจิมจันทร์ใช้ผ้าคลุมหน้าเวลาต้องเอากับแกล้มเดินออกไปให้คนในวงเหล้า

วันนั้นเจิมจันทร์จึงได้พบชายหนุ่มท่าทางภูมิฐานคนหนึ่งเข้า เขานั่งร่วมวงดื่มสุรากับกลุ่มชาวบ้าน ถึงกระนั้นกลับดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร ไม่ใช่เพียงเสื้อผ้าดูสะอาดสะอ้าน ผิวพรรณเขายังดูเกลี้ยงเกลาผิดแผกจากชายหนุ่มทั่วไปซึ่งนั่งรายล้อมเขาอยู่

เจิมจันทร์เดินก้มหน้าเอาจานเนื้อทอดไปวางเงียบๆ ใบหน้าซึ่งมีผ้าคลุมปิดมิดชิดกลับไปสะดุดตาของใครบางคน สำหรับชายหนุ่มหรือชาวบ้านทั้งหลายต่างรู้ถึงสาเหตุทำไมเจิมจันทร์ต้องใช้ผ้าคลุมหน้าจึงไม่มีใครให้ความสนใจ นั่งดื่มกินกันตามปกติ

จะยกเว้นก็แต่ชายหนุ่มเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก

“กินข้าวกินปลาแล้วหรือจันทร์เอ่ย...” ลุงหม่านซึ่งนั่งอยู่ในวงร้องทัก

“กินแล้วจ้ะลุง...”

“ตอนกลับเรือน เอ็งอย่าลืมหิ้วกับข้าวกลับไปฝากคนที่เรือนนั้นด้วยล่ะ วันนี้มีทั้งอัฐ ทั้งของกินดีๆ หูเอ็งคงเบาได้สักวัน”

“ขอบใจจ้ะลุงหม่าน” เจิมจันทร์ยกมือขึ้นไหว้ กิริยานุ่มนิ่มอ่อนน้อมทำให้คนแอบมองหัวใจกระตุก

หลวงไกรยกเหล้าขึ้นจิบ พร้อมเงียหูฟังบทสนทนา โดยสายตาจับจ้องไปยังเรือนร่างอรชร ความสนใจทำให้คุณหลวงไกรสะกิดถามเพื่อนร่วมวงซึ่งนั่งใกล้กัน

“หล่อนผู้นั้นใบหน้าเป็นอะไรหรือ ทำไมถึงต้องใช้ผ้าคลุมเสียมิดชิด”

คนถูกถามเงยหน้ามองก่อนจะร้องอ้อ

“มันไม่ได้เป็นอะไรหรอกพ่อไกร นังคนนี้หน้าตามันสะสวยอย่างหาตัวจับยาก ที่มันต้องใช้ผ้าปิดหน้าปิดตาเสียมิดชิดอย่างนั้น มันก็แค่ระวังไม่ให้ไอ้พวกขี้เหล้านิสัยหื่นกระหายเห็นตอนขาดสติ มันกลัวจะโดนฉุดกลางทางเหมือนคราวก่อนกระโน้น”

สวยขนาดนั้นเชียวหรือ...หลวงไกรนึกสงสัย

ดวงตาคบกริบจับจ้องไม่ห่างหาย ถ้าเป็นไปได้เขาอยากเห็นใบหน้าของเจ้าหล่อนให้เต็มตา

เจิมจันทร์เอากับแกล้มมาให้เสร็จหล่อนก็รีบเดินกลับเข้าครัว รู้สึกเหมือนมีดวงตาคู่หนึ่งคอยตามจับจ้องมองไม่ห่างเลยนึกหวั่นใจ เกรงภัยจะมาถึงตัวอีกครั้ง

หลวงไกรยังมองตาม จนกระทั่งหญิงสาวลับหายเข้าในเรือนยายดาวเรือง เขาจึงดึงความสนใจกลับมาอยู่ในวงสุรา...

-------------------------

“อ๊า อา อา อืม ซีด คุณหลวงอรรถเจ้าขา เข้ามาในตัวอิฉันลึกเหลือเกินเจ้าค่ะ ทั้งลึกทั้งใหญ่ จะทำให้พวงหยกตายเอาได้นะเจ้าคะ”

พวกหยกถูกของใหญ่อัดใส่เข้ารูเล็กแคบ หล่อนก็ร้องครางลั่นสุขสม ไม่คิดว่าจะมาเจอของดีของเด็ด พิจารณาจากท่าทางไม่คิดว่าคุณหลวงผู้นี้จะร้อนแรงเสียยิ่งกว่าถูกไฟแผดเผา ร้อนลวกไปตามร่างกาย

ตอนพวงหยกถูกลิ้นคุณหลวงอรรถละเลงเสียดสี เจ้าหล่อนก็ดิ้นพล่าน ตัวกระตุกเกร็งจนต้องขับน้ำคาวสวาทออกมามากล้นปากรู นมต้มถูกมือหยาบฟอนเฟ้นเนื้อนุ่มปลิ้นปลอกลอดง่ามนิ้วมือ

“หล่อนจะเป็นสาวคนแรกที่ต้องมาตายด้วยดุ้นเนื้อของผู้ชาย”

 หลวงอรรถสัพยอก ดันดุ้นเนื้อกระหน่ำใส่เข้าร่องสวาทด้วยพลังชายล้นเหลือ มือยังบีบขยำนมเต้าใหญ่อย่างเมามันส์ ทั้งบีบ ทั้งดูด เพราะนมพวงหยกขาวจั๊วะแล้วก็ใหญ่อวบเต็มไม้เต็มมือ หลวงอรรถนิยมชมชอบสาวนมใหญ่หอยอวบ พวงหยกมีทุกอย่างที่หลวงอรรถต้องการ เห็นทีงานนี้เขาคงต้องผูกปิ่นโตกับเจ้าหล่อนไปนานๆ จะได้ไม่ต้องหวั่นวิตกเรื่องการถูกผูกมัด

หลวงอรรถควงสะโพก หมุนเอวคว้านภายในร่องแน่นหนึบหนับ พวงหยกร่อนเอวขึ้นสู้ไม่ยอมน้อยหน้า เกิดเสียงเนื้อกระทบเนื้อดัง

ปรัก ปรัก ปรัก

เรือนร่างขาวโพลนโยกโยนไปตามแรงกระเด้าย้ำๆบนโต๊ะทรงกลม ทั้งสองยังไม่คิดเปลี่ยนสถานที่เสพสังวาส มาตอนนี้รอบข้างเกิดเสียงครางระงมไม่ต่างกัน ไม่ต้องเปิดม่านดูต่างก็รู้กันดีแก่ใจ หลายโต๊ะคงจะทำกิจกรรมเสียวสวาทกันบ้างแล้ว ยิ่งดึกเสียงรอบตัวก็ยิ่งดังลั่น ไม่รู้กลัวจะน้อยหน้ากันหรือไม่แต่อย่างไร หนุ่มสาวในสถานที่นี้กลับไม่มีใครอายใคร ยิ่งร้องดังยิ่งเท่ากับเป็นการประกาศศักดา ใครจะลีลาเด็ดกว่าใครกระมัง

“อา อีกเจ้าค่ะ เอาเข้ามาลึกๆอีกเจ้าค่ะ”

“หล่อนนี่ร่านถูกใจ พรุ่งนี้ตอนเย็นไปรอฉันที่หน้าตึกฝาหรั่ง ฉันจะพาหล่อนไปนั่งบนเล้ายี่สุ่น”

“อูย จริงๆหรือเจ้าค่ะ คุณหลวงจะพาพวงหยกไปนั่งที่นั่น”

พวงหยกเนื้อเต้น หล่อนเคยใฝ่ฝันอยากไปนั่งตึกสีส้มที่ดูโอ่อ่าตระการตามาช้านาน ตึกนั้นต้องคนมีทั้งเงินและบารมีถึงจะเข้าไปนั่งได้ พวงหยกได้ยินมาว่านอกจากรสชาติอาหารจะเลิศรส ยังมีการแสดงของนางรำที่เป็นของจีนแปะ เรียกว่างิ้ว...

“จะพาหล่อนไปเย่อหอยบนตึกชั้นสูง หล่อนเคยโดนเย่อตึกสูงเฉียดฟ้าหรือไม่?”

“อิฉันไม่เคยเจ้าค่ะ.....ได้ยินแล้วอดจะรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้”

“ก็น่าจะจริง รูหล่อนตอดดุ้นฉันใหญ่เลย”

คุณหลวงกระซิบเสียงแหบพร่า นัยน์ตาขุ่นมัวจากแรงพิศวาสจับจ้องใบหน้าสวยหวาน พวงหยกดันศีรษะขึ้นจูบปากหลวงอรรถเป็นการให้รางวัล หล่อนร่อนเอว ส่ายรับดุ้นเนื้อทะยานเข้าออกอย่างสาแก่ใจ...

“อา คุณหลวงขา อีกค่ะ เข้ามาอีก แรงๆ “

---------------------

แฟนเพจ: กนกรส  https://www.facebook.com/กนกรส-1742298989361370/


อ่านต่อได้ที่ https://plus.postjung.com/1617729

เนื้อหาโดย: nok19800
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
nok19800's profile


โพสท์โดย: nok19800
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรกไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวนจีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่นเครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจนักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 334 พันธุ์ไม้ "นักดูดฝุ่น" ฟอกอากาศขั้นเทพที่ควรมีติดบ้านมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียแบบ “มหาศาล” ของทรัมป์ จะเขย่ามอสโกแค่ไหนและคำตัดสินใจของจีนกับอินเดียคือหมากชี้ขาดสงครามยาเสพติดเวอร์ชันทรัมป์เมื่อวิทยาศาสตร์อธิบายวินาที "กระดูกร้าวถึงหัก" บนสังเวียนของตะวันฉาย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
IO เขมรปั่นหนัก! ใช้ AI สร้างพาสปอร์ตปลอม อ้าง “บัวขาว” เป็นคนกัมพูชา ไม่ใช่คนไทยโรงแรมในเกียวโตลดราคาเหลือ 3,000 เยนต่อคืน หลังไม่มีนักท่องเที่ยวจีนสงครามยาเสพติดเวอร์ชันทรัมป์
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
"รอยยิ้มสร้างได้เสมอ"อากาศหนาวเราห่วงใย ใส่หมวกให้น้องยัฝมอบไออุ่นความสุขของสายใจผ่อนคลายจากสายน้ำ "น้ำตกวังเดือนห้า คอนสาร""สนามบินเตโช" ความยิ่งใหญ่มหาศาลแห่งใหม่ ในดินแดนยุคของฮุนเซนการมองสีเนื้อวัวที่อร่อย หอมหวานซอยบางๆ 🫜สิ่งที่คนอีสานชอบทานกัน
ตั้งกระทู้ใหม่