เปรียบเทียบเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้า Ultherapy Prime กับ EMFACE แบบไหนเหมาะกับคุณที่สุด?
เปรียบเทียบเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้า Ultherapy Prime กับ EMFACE แบบไหนเหมาะกับคุณที่สุด?
ในยุคที่ความงามไม่จำกัดแค่เรื่องของอายุ การดูแลผิวหน้าให้ยกกระชับ และดูอ่อนเยาว์จึงกลายเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะการเลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการฟื้นฟูผิวแบบไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งช่วยลดระยะเวลาพักฟื้น และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
สองเทคโนโลยีที่กำลังเป็นกระแสในวงการความงาม ได้แก่ Ultherapy Prime และ EMFACE ทั้งคู่ต่างก็มีจุดเด่นและการทำงานเฉพาะตัว ซึ่งในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับทั้งสองโปรแกรม เพื่อเปรียบเทียบข้อดี จุดแข็ง และความเหมาะสมในการใช้งาน เพื่อการตัดสินใจที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ดีที่สุด
Ultherapy Prime คืออะไร?
Ultherapy Prime ใช้พลังงาน Ultrasound แบบเฉพาะเจาะจง ส่งผ่านลงไปยังชั้นผิวลึก SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นผิวที่ศัลยแพทย์ใช้สำหรับการผ่าตัดดึงหน้า
พลังงาน Ultrasound นี้จะกระตุ้นให้เกิดความร้อนในระดับ 60–70°C ส่งผลให้เนื้อเยื่อหดตัวและร่างกายเร่งการผลิตคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวหน้าดูยกกระชับและเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
จุดเด่นของ Ultherapy Prime
- เจาะจงลึกถึงชั้น SMAS ที่เทคโนโลยีอื่นเข้าถึงไม่ได้
- เห็นผลทันที 30% และชัดเจนเต็มที่ภายใน 2–3 เดือน
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1–2 ปี
- ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
EMFACE คืออะไร?
EMFACE คือเทคโนโลยีที่ผสานพลังงานสองชนิดเข้าด้วยกัน ได้แก่ HIFES (High-Intensity Facial Electrical Stimulation) และ Radio Frequency (RF) เพื่อการยกกระชับทั้งในระดับกล้ามเนื้อและชั้นผิว
- HIFES ช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้า ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น
- RF ปล่อยคลื่นความร้อนเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ส่งผลให้ผิวแน่นและกระชับขึ้น
จุดเด่นของ EMFACE
- ไม่เจ็บ ไม่ใช้เข็ม ไม่ต้องใช้ยาชา
- ใช้เวลาเพียง 20–30 นาทีต่อครั้ง
- เหมาะกับผู้มีเวลาน้อย เพราะไม่ต้องพักฟื้น
- ฟื้นฟูทั้งผิวและกล้ามเนื้อในเวลาเดียวกัน
- เหมาะกับทุกสภาพผิว
เปรียบเทียบการทำงานของ Ultherapy Prime และ EMFACE
Ultherapy Prime และ EMFACE เป็นเทคโนโลยีเพื่อการยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่มีหลักการทำงานที่แตกต่างกัน ซึ่งตอบโจทย์ในระดับชั้นผิวที่ไม่เหมือนกัน
- พลังงานและเทคโนโลยีที่ใช้
- Ultherapy Prime ใช้เทคโนโลยี Micro-Focused Ultrasound หรือ MFU-V ซึ่งเป็นพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง โดยสามารถส่งผ่านพลังงานลงไปถึงชั้นผิวลึกอย่างแม่นยำ จุดเด่นอยู่ที่การเข้าถึงชั้น SMAS (Superficial Musculo-Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นผิวที่ศัลยแพทย์มักใช้เป็นเป้าหมายในการผ่าตัดดึงหน้า นี่จึงทำให้ Ultherapy Prime เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีไม่ผ่าตัดที่สามารถยกกระชับผิวได้ในระดับลึกที่สุดโดยไม่ทำลายผิวชั้นบน
- ขณะที่ EMFACE เป็นเทคโนโลยีที่รวมสองพลังงานไว้ในหนึ่งเดียว ได้แก่ HIFES (High-Intensity Facial Electrical Stimulation) และ RF (Radio Frequency) โดย HIFES จะส่งสัญญาณไฟฟ้าความเข้มข้นสูงเข้าไปกระตุ้นกล้ามเนื้อบนใบหน้าให้หดตัวคล้ายกับการออกกำลังกายกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อที่อ่อนแอกลับมากระชับขึ้น ในขณะเดียวกัน RF จะปล่อยพลังงานความร้อนลงสู่ชั้นผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ส่งผลให้ผิวหน้าเต่งตึงและยืดหยุ่นมากขึ้น
- ระดับความลึกของการทำงานในชั้นผิว
- Ultherapy Prime ทำงานลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นโครงสร้างรองรับผิวชั้นลึกที่อยู่ใต้ผิวหนังและกล้ามเนื้อบางส่วน จึงเหมาะสำหรับการยกกระชับโครงหน้าในผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณกรอบหน้า ใต้คาง และลำคอ
- ในทางกลับกัน EMFACE ทำงานในชั้นผิวที่ลึกกว่า โดยมุ่งเน้นไปที่กล้ามเนื้อใบหน้าและชั้นหนังแท้ ส่งผลให้เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าให้กระชับขึ้น และเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อใบหน้าโดยไม่รู้สึกเจ็บหรือระคายเคือง
- ผลลัพธ์ที่ได้
- Ultherapy Prime ให้ผลลัพธ์ในลักษณะของการยกผิว (lifting effect) อย่างดูเป็นธรรมชาติ เพราะสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในระดับลึก ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ปรากฏชัดในช่วง 2–3 เดือนหลังทำ และอยู่ได้นานถึง 1–2 ปี จากการรักษาเพียงครั้งเดียว
- ในขณะที่ EMFACE เน้นผลลัพธ์แบบยกกล้ามเนื้อและปรับผิว (lifting & toning effect) ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นภายใน 4–6 สัปดาห์หลังเริ่มทำ โดยมักจะทำต่อเนื่องประมาณ 4 ครั้งในช่วงแรก และเสริมผลลัพธ์ด้วยการทำปีละ 1–2 ครั้ง ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานราว 6–12 เดือน
จุดเด่นเฉพาะตัวของ Ultherapy Prime และ EMFACE
Ultherapy Prime
- เจาะลึกชั้นผิว SMAS ได้แม่นยำเทียบเท่าการผ่าตัดดึงหน้า
- ใช้พลังงาน Ultrasound เฉพาะจุด ลดผลกระทบต่อผิวชั้นบน
- ผลลัพธ์หลังทำเพียงครั้งเดียว อยู่ได้นานสูงสุด 1–2 ปี
- ได้รับการรับรองจาก FDA ว่ามีประสิทธิภาพสูง
EMFACE
- ผสาน HIFES + RF ยกกระชับกล้ามเนื้อพร้อมฟื้นฟูผิว
- ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะกับคนกลัวเข็มและไม่มีเวลาหยุดงาน
- ใช้เวลารักษาสั้นเพียง 20–30 นาทีต่อครั้ง
พื้นที่ที่สามารถรักษาได้ด้วย Ultherapy Prime และ EMFACE
Ultherapy Prime
เหมาะสำหรับบริเวณใบหน้า ใต้คาง ลำคอ และเนินอก โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับลึก เช่น
- กรอบหน้า
- คางสองชั้น
- หนังตา
- ลำคอ
EMFACE
เน้นเฉพาะใบหน้าส่วนบนและกลาง เช่น
- หน้าผาก
- โหนกแก้ม
- กรอบหน้า
- มุมปาก
เหมาะกับใคร?
Ultherapy Prime เหมาะกับ
- Ultherapy Prime เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 30–60 ปี
- Ultherapy Prime เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยอย่างชัดเจน
- Ultherapy Prime เหมาะสำหรับผู้ต้องการยกกระชับชั้นลึก เช่น แก้ม คาง ลำคอ และเนินอก
- Ultherapy Prime เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ยาวนาน โดยไม่ต้องผ่าตัด
EMFACE เหมาะกับ
- EMFACE เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 25–50 ปี
- EMFACE เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง หรือผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย
- EMFACE เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนชัดเจน
- EMFACE เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์เร็วและไม่รู้สึกเจ็บ
ข้อควรรู้ก่อนเริ่มโปรแกรม Ultherapy Prime หรือ EMFACE
- งดวิตามิน E, โสม และอาหารเสริมต้านการแข็งตัวของเลือดอย่างน้อย 7 วัน
- หลีกเลี่ยงเลเซอร์หรือทรีตเมนต์แรง ๆ ก่อนทำอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดใช้ AHA, BHA และ Retinol ก่อนทำ 5–7 วัน
- ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และงดแต่งหน้าในวันที่เข้ารับการรักษา
ข้อควรรู้หลังทำ Ultherapy Prime หรือ EMFACE
- งดสครับหรือขัดผิวเป็นเวลา 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก 48 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณนั้นแรง ๆ
- ควรควรทาครีมบำรุงที่อ่อนโยน และกันแดด SPF 50+ ทุกวัน
- ควรดื่มน้ำให้มาก เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ดีขึ้น
สรุปเลือกเทคโนโลยีที่ใช่สำหรับคุณ
Ultherapy Prime เหมาะกับผู้ที่ต้องการจัดการปัญหาผิวหย่อนคล้อยในระดับลึก และต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนาน โดยไม่ต้องผ่าตัด
EMFACE เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวและกล้ามเนื้อโดยไม่รู้สึกเจ็บ และต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว
หากคุณต้องการยกกระชับผิวแบบครอบคลุมในทุกมิติ การทำ Ultherapy Prime ร่วมกับ EMFACE เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ให้ผลลัพธ์ครบทั้งผิวชั้นลึกและผิวชั้นบน เพิ่มประสิทธิภาพทั้งการยกกระชับและฟื้นฟูผิวในเวลาเดียวกัน
"DJ Sakura Soh" กับบทบาทใหม่ในวงการ JAV
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
สื่ออินเดียมอง ฉลาดล้ำลึก ทิ้งไข่ถล่มคาสิโนเขมรมาเป็นเกราะป้องกันตัว
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
เจาะลึกเลขเด็ดสำนักดัง งวดประจำวันที่ 2 มกราคม 2569
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
ลือสะพัด เกาหลีใต้ถีบส่งแรงงานเขมรกลับบ้าน 5 หมื่นราย หลัง 37 องค์กรเกาหลี ไม่ทนพวกเขมรป่วนเมือง
สยายปีกรับทรัพย์! เลขเด็ด "นกตาทิพย์" แนวทางรวยงวดใหม่ 2 มกราคม 2569
อาเซียนเทเขมร ไม่เอาด้วย โยนให้ไทย กับกัมพูชาไปเคลียร์กันเอง
ปิดฉากบทบาทนักการเมือง! "นอท พันธ์ธวัช" ย้ำชัดลาออกพรรคเปลี่ยน พร้อมประกาศจุดยืนไม่หนุนฝ่ายใด
แนะนำ! เว็บไซต์ ai สามารถวาดรูป [l8+](สร้างฟรี) ผู้ใหญ่เท่านั้น
"ใหม่ ดาวิกา" อวดหุ่นแซ่บในชุดชั้นในหวานแหวว..เห็นแล้วร้องว้าวกันสนั่น
ลือสะพัด เกาหลีใต้ถีบส่งแรงงานเขมรกลับบ้าน 5 หมื่นราย หลัง 37 องค์กรเกาหลี ไม่ทนพวกเขมรป่วนเมือง
ทหารไทย ยึดฐานกัมพูชา เจอถุงยางเกลื่อนฐาน
🎄ดราม่าต้นคริสต์มาสสนามบินลังกาวี! ชาวเน็ตมาเลเซียวิจารณ์ยับ หน้าตาคล้าย “กองอุจจาระ” จนกลายเป็นไวรัลสะเทือนโซเชียล
ทภ.2 แฉภาพจรวด BM-21 เขมร ถล่มบ้าน-ชุมชน-วัด-โรงเรียน-รพ.




