กลิ่นอับในหน้าฝนแก้ยังไง? เคล็ดลับง่าย ๆ ที่ช่วยให้เสื้อผ้าหอมขึ้นได้
หน้าฝนทีไร ปัญหาน่าปวดหัวที่ตามมาแบบไม่ต้องนัดก็คือ “กลิ่นอับในเสื้อผ้า” ซักยังไงก็ไม่หอม แถมบางทีกลิ่นเปรี้ยว ๆ ชื้น ๆ ก็แอบลอยมาให้รู้สึกไม่มั่นใจ ทั้งที่ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มก็แล้ว ซักหลายรอบก็แล้ว แต่ก็ยังไม่รอด... แล้วแบบนี้จะมีวิธีไหนช่วยให้เสื้อผ้าหอมสดชื่นได้บ้างในช่วงฝนตกไม่หยุดแบบนี้?
มาดู เคล็ดลับง่าย ๆ ที่ทำได้จริง ช่วยให้เสื้อผ้าของคุณหอม ฟู ไม่มีกลิ่นตุ ๆ ตลอดฤดูฝนกันดีกว่า!
✅ 1. ซักแล้วรีบตาก อย่าหมักผ้าในเครื่องนาน
หลายคนซักผ้าเสร็จแล้วเผลอลืมไว้ในเครื่องนานเป็นชั่วโมง หรือบางทีข้ามวันเลย กลิ่นอับมาแน่นอนครับ! เพราะความชื้นในเครื่องคือแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียชั้นดี ถ้ารู้ว่าฝนจะตกบ่อย ให้ซักตอนที่มั่นใจว่าจะมีเวลาตากทันที จะช่วยลดกลิ่นและเชื้อโรคได้มาก
✅ 2. ใช้น้ำส้มสายชูหรือน้ำยาฆ่าเชื้อผสมขณะซัก
ลองเติมน้ำส้มสายชูลงไปเล็กน้อยตอนซักรอบน้ำสุดท้าย หรือใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่เหมาะกับผ้า จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นอับได้ดี โดยไม่ทำลายเนื้อผ้า อีกทั้งยังช่วยให้ผ้านุ่มขึ้นโดยไม่ต้องใช้ปรับผ้านุ่มเยอะด้วย
✅ 3. ตากผ้าในที่โปร่ง ลมโกรก อย่าตากในห้องน้ำ!
บางคนไม่มีที่ตากนอกบ้านเลยเอาไปตากในห้องน้ำหรือห้องที่อับชื้น ซึ่งยิ่งทำให้ผ้าแห้งช้าและเกิดกลิ่นง่าย ทางที่ดีควรตากผ้าในที่ที่ลมผ่าน มีอากาศถ่ายเท หรือใช้พัดลมช่วยเป่าให้แห้งเร็วขึ้นก็ยังดี
✅ 4. ใช้เครื่องอบผ้าหรือเตารีดช่วย
ถ้าฝนตกหลายวันติดต่อกันและผ้าไม่มีทางจะแห้ง ให้ใช้เครื่องอบผ้าหรือเตารีดแบบอบไอน้ำช่วยได้เลยครับ ความร้อนจะช่วยฆ่าเชื้อและลดกลิ่นอับได้ดีมาก ยิ่งถ้าใช้เตารีดกับน้ำหอมฉีดผ้าเบา ๆ ก็จะช่วยให้เสื้อผ้าหอมยิ่งขึ้นอีกขั้น
✅ 5. จัดเก็บเสื้อผ้าในที่แห้ง พร้อมใส่ถุงหอมหรือซองกันชื้น
สุดท้าย อย่าปล่อยให้เสื้อผ้าหอม ๆ ต้องไปเก็บในตู้ที่อับชื้น หรือวางกองในมุมห้องที่ไม่มีอากาศถ่ายเท ลองใส่ถุงหอมเล็ก ๆ หรือซองกันชื้นไว้ในตู้เสื้อผ้า จะช่วยดูดกลิ่นและความชื้นส่วนเกิน พร้อมช่วยให้ตู้เสื้อผ้าหอมสดชื่นไปอีกขั้น
แม้ฝนจะตกทุกวัน แต่ถ้าเราดูแลผ้าอย่างถูกวิธี กลิ่นอับก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
ลองปรับวิธีซักและตากผ้าเล็กน้อยตามเคล็ดลับเหล่านี้
รับรองว่าชุดที่ใส่ในหน้าฝนของคุณจะหอม มั่นใจ และพร้อมลุยได้ทุกวัน















