หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ทำไมเยอรมนีจึงเป็นประเทศแห่งรถยนต์ ตอนที่ 2

เนื้อหาโดย machete007

 

Mercedes-Benz, Porsche, BMW, Audi รู้หรือไม่ว่า แบรนด์รถยนต์เยอรมัน 4 แบรนด์นี้ที่หลายคนใฝ่ฝัน มีจุดเริ่มต้นอยู่บนเส้นทางเดียวกัน

 

Mercedes-Benz เป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมยานยนต์ของเยอรมนี ส่วน BMW, Audi และ Porsche หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์เหล่านี้ ล้วนเคยทำงานให้กับ Daimler-Benz มาก่อน

 

ถึงแม้ทั้ง 4 แบรนด์จะแยกออกมาขับเคลื่อนบนเส้นทางของตัวเอง แต่โชคชะตาก็พาให้ต้องมาอยู่บนเส้นทางร่วมกันอีกครั้ง และยังมีอีกแบรนด์หนึ่งเกิดขึ้นมาชื่อ Volkswagen

 

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจาก การเข้าสู่ตำแหน่งสูงสุดของผู้นำพรรคนาซี “อดอล์ฟ ฮิตเลอร์”...

 

หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จักรวรรดิเยอรมันอยู่ในสถานะผู้แพ้สงคราม..

 

การถูกจำกัดอาวุธ ต้องชดใช้หนี้ค่าปฏิกรรมสงคราม รัฐบาลจึงพยายามพิมพ์เงินมาใช้หนี้จนอันกลายเป็นภาวะเงินเฟ้อมหาโหด และถูกซ้ำเติมด้วยภาวะวิกฤติเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่ หรือ Great Depression

 

รถยนต์สมัยนั้นยังประกอบด้วยมือ จึงเป็นสินค้าที่มีราคาสูง เมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมยานยนต์จึงได้รับผลกระทบอย่างหนัก

 

อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ หัวหน้าพรรคนาซี ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำสูงสุดของประเทศ และเริ่มต้นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจมากมาย หนึ่งในนั้นคือการสร้างเอาโทบาห์น หรือ ไฮเวย์ ไปทั่วประเทศ

 

เพื่อซื้อใจประชาชน ฮิตเลอร์ได้ให้คำสัญญาว่าจะผลิตรถราคาถูกเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้ เรียกว่า “Volkswagen” แปลว่า รถของประชาชน ฮิตเลอร์ได้ว่าจ้าง Ferdinand Porsche แห่งบริษัทที่ปรึกษาด้านเครื่องยนต์ Porsche ให้มาเป็นผู้ออกแบบรถยนต์ Volkswagen Type 1 ในปี ค.ศ. 1933

 

เมืองแห่งโรงงานรถยนต์ หรือ Autostadt ถูกตั้งขึ้นในเมืองวอล์ฟสบวร์คที่อยู่ใจกลางประเทศ เพื่อใช้เป็นฐานการผลิตรถยนต์โดยเฉพาะ

 

ฮิตเลอร์ได้ชักชวนชาวเยอรมันเกือบ 300,000 คน ให้เริ่มทยอยผ่อนเงินซื้อรถไว้กับรัฐบาล ก่อนที่จะได้รับรถจริงในอีกหลายปีต่อมา

 

แต่แล้วโครงการผลิตรถยนต์ก็ถูกยกเลิก เพราะรัฐบาลต้องหันไปทุ่มงบประมาณสนับสนุนด้านการทหารแทนโครงการของพลเรือน ไม่นาน ผู้เข้าพรรคนาซี...

 

ก็พากองทัพเยอรมนีเข้าบุกโปแลนด์ และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่ามกลางสงคราม เหล่าผู้ผลิตรถยนต์ถูกสั่งให้เปลี่ยนมาผลิตรถถังและอาวุธสงครามแทน

 

Porsche ถูกทาบทามมาเป็นวิศวกรของกองทัพ รับหน้าที่ออกแบบรถถัง BMW ที่เพิ่งเริ่มต้นพัฒนารถยนต์เป็นของตัวเอง โดยเฉพาะกระจังหน้าแบบไตคู่ต้องมาผลิตเครื่องยนต์ให้เครื่องบินรบอีกครั้ง เช่นเดียวกับโรงงานของ Daimler-Benz และ Volkswagen ที่ต้องเปลี่ยนมาผลิตรถอเนกประสงค์ทางทหาร

 

สงครามครั้งนี้จบลงในปี ค.ศ. 1945 และเยอรมนีก็อยู่ในสถานะผู้แพ้สงครามอีกครั้ง เยอรมนีถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเทศ และถูกปกครองโดยประเทศผู้ชนะสงคราม

 

 

 

ผู้นำนาซีเลือกจบชีวิตตัวเองทิ้งประเทศและเหล่าบริษัทรถยนต์ไว้กับความเสียหายมหาศาล..

 

Ferdinand Porsche ถูกทหารฝรั่งเศสจับตัวไปเป็นเชลยสงครามยาวนานเกือบ 2 ปี

 

โรงงานของ BMW ถูกทิ้งระเบิดเสียหาย จนต้องนำเศษเหล็กมาขาย และปรับมาผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือนเพื่อต่อลมหายใจของกิจการ

 

โรงงานของ Daimler-Benz และ Auto Union หรือ Audi บางส่วนตั้งอยู่ในเขตเยอรมนีตะวันออกจึงถูกยึดเป็นสมบัติของรัฐคอมมิวนิสต์ ส่วนบริษัทน้องใหม่ Volkswagen ถูกเจ้าหน้าที่อังกฤษเข้ามาบริหาร

 

ในเวลานี้ เยอรมนีก็ไม่ต่างอะไรกับคนสิ้นเนื้อประดาตัว ทั้งโรงงานรถยนต์ ทั้งวิศวกรเก่ง ๆ ต่างถูกยื้อแย่งโดยผู้ชนะสงคราม สิ่งเดียวที่เหลืออยู่มีเพียง“องค์ความรู้”

 

ความโชคดีที่ยังพอมีอยู่บ้าง ท่ามกลางการแข่งขันอย่างดุเดือดของโลกทุนนิยมกับโลกคอมมิวนิสต์ ที่เรียกว่า “สงครามเย็น” คือการที่ฐานการผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเขตเยอรมนีตะวันตก ซึ่งได้รับการช่วยเหลือทางการเงินจากสหรัฐอเมริกาภายใต้แผนการมาร์แชลล์ เพื่อสกัดกั้นอิทธิพลของคอมมิวนิสต์ เศรษฐกิจเยอรมนีตะวันตกจึงเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษ1950s-1960s เปิดโอกาสให้แบรนด์รถยนต์ทั้งหลายได้เริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง

 

Ferdinand Porsche ในวัย 56 ปี ได้ชักชวนลูกชายให้เริ่มต้นบริษัทขึ้นมาใหม่ แต่ครั้งนี้เปลี่ยนจากบริษัทที่ปรึกษาด้านเครื่องยนต์มาผลิตรถยนต์เอง

โดยเริ่มจากรถสปอร์ต จากเหตุผลที่ว่า “ไม่มีรถสปอร์ตคันไหนถูกใจเลยสักคัน”รถสปอร์ตของ Porsche ซึ่งถูกผสมผสานออกมาจากไอเดีย และประสบการณ์ทั้งหมดของตัวเขาเอง จนออกมาเป็นรถสปอร์ตคันแรกของบริษัทในรุ่น 356

 

Mercedes-Benz ได้เริ่มประยุกต์กระบวนการผลิตแบบ Mass-Production ให้เข้ากับการผลิตรถยนต์หรู ทำให้สามารถผลิตรถยนต์ได้จำนวนมากขึ้น รวมถึงการริเริ่มนำเครื่องยนต์ดีเซลมาใช้กับรถยนต์ ซึ่งให้กำลังได้สูงกว่าและประหยัดพลังงานมากกว่าเครื่องยนต์เบนซิน แม้จะมีข้อเสียคือเสียงที่ดังกว่า หลังจากนั้นเครื่องยนต์ดีเซลจึงถูกนำมาใช้กับรถบรรทุก และรถบัส

 

BMW ซึ่งเคยทำรถมอเตอร์ไซค์ และระบบเบรกของรถรางมาก่อนนำความได้เปรียบมาพัฒนาระบบเบรกของรถยนต์ และระบบกระจายน้ำหนักที่ล้อหน้าและหลังเท่ากัน ทำให้รถยนต์ของ BMW มีจุดเด่นด้านการทรงตัวสามารถขับขี่ได้คล่องตัว

 

"ถึงแม้จะมีปัญหาด้านการเงิน จนทำให้ BMW เกือบจะถูกควบรวมกิจการกับ Daimler-Benz แต่ผู้อิอห้นใหญ่ของ BMW ตระกูล Quandt ก็ได้เข้าซื้อกิจการทั้งหมด และปรับเปลี่ยนเป้าหมายลูกค้าจากคนรวยให้เป็นคนทั่วไปมากขึ้น เปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้มีความโฉบเฉี่ยว และตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ 

 

ส่วนรถของ Volkswagen ได้เริ่มเปิดการผลิตครั้งแรกในปี ค.ศ. 1949 ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลอังกฤษ จนภายหลังเมื่อทางอังกฤษเห็นว่าไม่คุ้มค่า จึงปล่อยให้อยู่ภาคของ"รถของประชาชน" อยู่ในมือของผู้บริหารชาวเยอรมัน Heinrich Nordhoff 

 

ด้วยดีไซน์ที่ทะทัดรัด ขนาดเบา ราคาไม่แพง และกลยุทธ์การตลาดของ Nordhoff รถที่มีรูปร่างเหมือนแมลง หรือ "Beetle" ก็สามารถตีตลาดสหรัฐฯ และทั่วยุโรป จนผลิตได้ถึง 1 ล้านคัน ในอีก 10 ปีถัดมา"

 

อาณาจักรของ Volkswagen เดินโดขึ้นเรื่อย ๆ จนได้ซื้อกิจการของ Auto Union ในปี ค.ศ. 1964 และเริ่มกลับมาผลิตรถยนต์ Audi อีกครั้ง หลังจากนั้นก็  รวมกิจการกับรถสปอร์ตหรู Porsche ในปี ค.ศ. 1969 

 

ในตอนนี้ Volkswagen ได้ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทที่มีหลายแบรนด์ในเครือ ไม่เพียงแค่เยอรมันเท่านั้น Volkswagen ยังซื้อกิจการรถยนต์ของอังกฤษอย่าง Bentley เข้ามารวมอยู่ในอาณาจักรด้วย 

 

สำหรับ Mercedes-Benz ก็ได้เติบโตจนครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในแบรนด์รถหรูของโลกนี้มาอย่างยาวนาน และ BMW ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในผู้นำด้านสมรรถนะของรถยนต์ในช่วงที่ผ่านมา

 

จากจุดเริ่มต้นของการให้ความสำคัญกับการศึกษาวิศวกรรม และวิชาชีพช่างเทคนิค องค์ความรู้เหล่านี้สร้างวิศวกรยานยนต์เก่ง ๆ ที่ทำให้รถยนต์เยอรมัน  มีสมรรถนะ ฟังก์ชันการใช้งาน และการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร 

 

สำหรับแบรนด์รถยนต์เยอรมันแล้ว  การผ่านสงครามโลกมาถึงสองครั้ง วิกฤติเศรษฐกิจหลายต่อหลายครั้ง ผ่านพรรคนาซี และสงครามเย็น 

 

และถึงแม้จะมีอุปสรรค์ในวันข้างหน้าก็คงเป็นเพียงหลุมเล็ก ๆ ที่รถยนต์เยอรมันจะฝ่าฟันและขับเคลื่อนผ่านไปได้เหมือนที่ผ่านมา...

เนื้อหาโดย: machete007
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
machete007's profile


โพสท์โดย: machete007
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวนสถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่นไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรกปุ๋ยล็อตใหญ่ ไปชายแดนเกือบ 3,000 นายนักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33"ฮุน เซน" เมินเก็บศพทหารเขมร ปล่อยทิ้งขึ้นอืดตามแนวชายแดน กลิ่นคละคลุ้งทหารเขมรใช้สไนเปอร์ลอบยิง "ผบ.ทร." รอดหวุดหวิด กระสุนพลาดถูกรถยนต์เด็กพลัดตกท่อลึก ผ่านไปเป็นชม. กว่าจะมีคนมาช่วยสมอง สามารถทำนายอนาคตได้11 เคล็ดลับการดูแลสุขภาพพื้นฐานตามศาสตร์แพทย์แผนจีน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ดร.เขมร หาว่าไทยจะบุกลาวกับเมียนมาเป็นรายต่อไปเมื่อวิทยาศาสตร์อธิบายวินาที "กระดูกร้าวถึงหัก" บนสังเวียนของตะวันฉายทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีนนักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 334 พันธุ์ไม้ "นักดูดฝุ่น" ฟอกอากาศขั้นเทพที่ควรมีติดบ้านช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรก
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
"เห็ดซิการ์ปีศาจ" รูปร่างเหมือนดอกไม้บาน หนึ่งในเห็ดที่ "หายาก" และ "แปลก" มากที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง"ไพรเกสตูเลน" หน้าผาหินแบนสุดอลังการในนอร์เวย์“คาล์ฟคิก” ท่าเตะเงียบที่ทำให้นักมวยไทยหลายคน ยางแตกกลางยกแมงมุมกระโดดเลียนแบบมด ที่หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นมด
ตั้งกระทู้ใหม่