คดีปริศนาการเสียชีวิตของ Pamela Werner"
เงามืดแห่งปักกิ่ง – คดีปริศนาการเสียชีวิตของ Pamela Werner"
วันนี้เราจะพาคุณย้อนเวลากลับไปยังปี 1937 เพื่อสำรวจคดีปริศนาที่สะเทือนขวัญและยังคงเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้ — การเสียชีวิตของ Pamela Werner ลูกสาวของอดีตนักการทูตอังกฤษในกรุงปักกิ่ง
วันที่ 8 มกราคม 1937 ร่างของ Pamela Werner หญิงสาวชาวอังกฤษวัย 19 ปี ถูกพบใกล้กับหอจิ้งจอก (Fox Tower) บริเวณกำแพงเมืองเก่าของปักกิ่ง ร่างของเธอถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมและทิ้งไว้ในสภาพที่น่าสะพรึงกลัว
Pamela เป็นลูกสาวของ E.T.C. Werner นักภาษาศาสตร์และอดีตนักการทูตอังกฤษ เธอเป็นที่รู้จักในสังคมชาวต่างชาติในปักกิ่ง และการเสียชีวิตของเธอได้สร้างความตกตะลึงให้กับทั้งชุมชน
ในคืนก่อนเกิดเหตุ Pamela ได้ไปเล่นสเก็ตน้ำแข็งกับเพื่อน ๆ และกล่าวว่าจะกลับบ้านเวลา 19:30 น. แต่เธอไม่เคยกลับถึงบ้านอีกเลย
เช้าวันรุ่งขึ้น ร่างของเธอถูกพบโดยคนลากรถสามล้อในสภาพที่ถูกทำร้ายอย่างรุนแรง อวัยวะภายในของเธอถูกตัดและแหวกออก อวัยะเพศถูกใช้ของมีคมทำร้ายอย่างหนัก ทำให้แทบจะไม่สามารถชันสูตรการล่วงละเมิดได้ ศพเธอถูกทิ้งให้นอนนิ่งอยู่บริเวณใกล้กับหอจิ้งจอก ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของปักกิ่ง
การสืบสวนร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่จีนและอังกฤษเริ่มต้นขึ้น แต่กลับพบกับอุปสรรคมากมาย ทั้งความไม่ร่วมมือจากเจ้าหน้าที่บางฝ่าย และสถานการณ์ทางการเมืองที่ตึงเครียดจากการรุกรานของญี่ปุ่น
E.T.C. Werner พ่อของ Pamela ไม่ยอมแพ้ เขาเริ่มสืบสวนด้วยตนเอง และเชื่อว่าผู้ต้องสงสัยหลักคือ Wentworth Prentice ทันตแพทย์ชาวอเมริกันที่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มชาวต่างชาติในปักกิ่ง
Werner เชื่อว่า Pamela ถูกล่อลวงไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง และเมื่อเธอปฏิเสธ พวกเขาจึงทำร้ายเธอจนเสียชีวิต และนำร่างไปทิ้งที่หอจิ้งจอก
หลายปีต่อมา Paul French นักเขียนชาวอังกฤษ ได้ค้นคว้าเกี่ยวกับคดีนี้ และเขียนหนังสือชื่อ "Midnight in Peking" ซึ่งกลายเป็นหนังสือขายดี และได้รับรางวัลมากมาย
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ยังคงเป็นปริศนา ไม่มีใครถูกตั้งข้อหา และความจริงยังคงถูกปกคลุมด้วยเงามืดของประวัติศาสตร์
ขอบคุณที่อ่านจนจบ สำหรับ "เงามืดแห่งปักกิ่ง" ตอนนี้ หากคุณสนใจเรื่องราวลึกลับและคดีปริศนา อย่าลืมติดตามตอนต่อไปของเรา













