PM 2.5 คืออะไร? รู้จักฝุ่นพิษตัวร้ายที่แฝงอยู่ในอากาศ
ช่วงหลัง ๆ มานี้ หลายคนน่าจะเคยได้ยินคำว่า "PM 2.5" ผ่านหูผ่านตากันอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นจากข่าวทีวี แอปฯ แจ้งเตือนสภาพอากาศ หรือแม้แต่เสียงเตือนจากคนรอบข้างที่บอกให้ใส่หน้ากากก่อนออกจากบ้าน
แล้ว PM 2.5 มันคืออะไรกันแน่? แค่ฝุ่นจริงหรือ? ทำไมถึงน่ากลัวนัก?
PM 2.5 ย่อมาจาก "Particulate Matter ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน" ซึ่งพูดง่าย ๆ ก็คือ ฝุ่นละอองขนาดเล็กมาก เล็กจนเราไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ และที่สำคัญ... มันเล็กกว่าขนจมูกเราซะอีก! เพราะฉะนั้น เวลาหายใจเข้าไป ฝุ่นพวกนี้สามารถเล็ดรอดเข้าไปสู่ปอดได้โดยตรง และบางทีอาจลึกถึงกระแสเลือดเลยด้วยซ้ำ
แหล่งกำเนิด PM 2.5 ก็มีหลายอย่างครับ ทั้งจากท่อไอเสียรถยนต์ โรงงานอุตสาหกรรม ไฟป่า การเผาขยะ หรือแม้แต่การเผาเศษฟางในไร่นา ซึ่งในแต่ละพื้นที่ก็มีต้นเหตุแตกต่างกันไป อย่างในเมืองใหญ่ ๆ ก็จะเน้นไปที่รถยนต์และมลพิษจากการก่อสร้าง ส่วนภาคเหนือของไทยมักมาจากการเผาป่าและพื้นที่การเกษตร
แล้วทำไมเราต้องกลัว PM 2.5 กันนักล่ะ?
เพราะมันไม่ใช่แค่ฝุ่นธรรมดานี่สิครับ มันพกเอาสารพิษต่าง ๆ ติดมาด้วย เช่น โลหะหนัก สารก่อมะเร็ง หรือสารเคมีจากการเผาไหม้ต่าง ๆ ซึ่งถ้าเราหายใจเอาเข้าไปบ่อย ๆ หรือในปริมาณมาก ๆ มันก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ หอบหืด ไปจนถึงโรคหัวใจ และมะเร็งปอดในระยะยาว
ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือกลุ่มเสี่ยงอย่างเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เพราะภูมิคุ้มกันของพวกเขาอาจไม่แข็งแรงพอจะต้านภัยเงียบนี้ได้
บางคนอาจคิดว่า “อยู่ในบ้านก็ไม่น่าเป็นไร” แต่จริง ๆ แล้วฝุ่น PM 2.5 สามารถเล็ดลอดเข้ามาในบ้านได้เหมือนกัน โดยเฉพาะถ้าไม่มีเครื่องฟอกอากาศหรือระบบกรองอากาศที่ดี
สิ่งที่เราทำได้ในช่วงที่ค่าฝุ่นสูงก็คือ พยายามเช็กคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน ใส่หน้ากาก N95 เมื่อจำเป็นต้องออกไปข้างนอก หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้งในช่วงอากาศแย่ และถ้าเป็นไปได้ ลองหาต้นไม้ที่ช่วยฟอกอากาศมาตั้งไว้ในบ้านก็ช่วยได้อีกทางหนึ่ง
สรุปง่าย ๆ คือ PM 2.5 มันอันตรายจริง ๆ ครับ ถึงจะมองไม่เห็น แต่ผลกระทบของมันนั้นชัดเจน และส่งผลกับสุขภาพของเราทุกคนในระยะยาว
รู้แบบนี้แล้ว อย่ามองข้าม “ฝุ่นพิษ” ตัวเล็กจิ๋วนี้นะครับ เพราะเรื่องเล็ก ๆ ถ้าละเลยไป อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ในอนาคต














